ตามที่ผมให้ คห. ไว้ 2.8 4ประตู

ตอนนี้ เชฟ เครื่องเชฟ ทั้งหมด จะเกิดปัญหาคล้ายๆ ตอนDmax05-09 (ไม่ใช่ปัญหา scv แต่หมายถึงเป็นปัญหาผลิตทั้งล๊อต) ส่วนตัวไม่ไม่แน่ใจว่าหลุดที่ QC หรือ ฝ่ายผลิต ประมาณว่า ลองผลิตดีเซลสี่สูบรุ่นแรก เก็บตกรายละเอียอดได้ไม่หมด เป็นธรรมดาของทุกค่าย 1st gen มักมีอะไรให้ต้องแก้ไข

ส่วนตัวใครจะว่ายังไงไม่สนครับ รถ 1st gen ถ้าดีก็ถือว่าซื้อของสดใหม่ได้ราคาถูก แต่ถ้าห่วยก็รับกรรมเล็กๆน้อยๆกันไป
ส่วนตัวผมไม่ซื้อ 1st gen เด็ดขาด รอรุ่นสองหรือสามหน่ะชัวร์แน่ๆ

แถมท้ายครับ หากจะใช้บริการ 0 ที่สระบุรี ขอให้คิดใหม่ครับ ที่สุดของ..... ญาติผมต้องตีรถไปเข้าที่ลพบุรี เพราะแย่น้อยกว่า(ไม่ใช่ดีกว่านะครับ)
ส่วนเชฟเครื่องอีซุ ก็เข้าที่ 0 อีซุเท่านั้น

555 ขอบคุณครับคุณลูกบอล สงสัยผมยังไม่เจอแจ๊กพ๊อต จะได้ระวังตัวไว้ครับ  ส่วนมากผมก็เข้าไปดูรีวิวต่างๆของคลับพยายามหาข้อมูลป้องกันไว้ แต่ข้อมูลที่คุณลูกบอลบอกไว้ก็สำคัญเช่นกัน อ้อผมลืมบอกอย่าง 0 ที่ไปออกมีคอมเม้นเซลคนที่ผมไปออกเยอะเหมือนกัน พอดีออกมาแล้วถึงเห็นแต่เท่าที่ได้ติดต่อและเข้าไปติดต่อตั้งแต่จองจนวันออกรถ ผมไปนั่งรอเชื่อหรือไม่ว่าไม่มีบริการน้ำดื่มสักแก้ว 555 เรืองนี้ผมเฉยๆแต่ถือว่าการบริการด้านนี้ตกไม่ผ่าน  ส่วนของแถม คือคูปองน้ำมัน 10,000 บาท กว่าจะได้ก็รับรถมาใช้ประมาณ 2 เดือนกว่าๆถึงจะส่งให้ ผมก็ถามเซลตามถึงที่ แต่เซลยืนยันว่าทาง เชฟจะเป็นคนจัดส่งให้เอง ไม่ยอมให้เซลจัดส่งให้ รอนาน แต่ก็ยังดีทีได้ครับ  แต่ยังไงผมก็ชอบขี่ จยย. มากกว่านะประหยัดน้ำมันไม่เคลียดเวลารถติดครับ

พี่ชาญชัยครับ  ตัวรถไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ  แต่ 0 อ่ะมีปัญหา  0 ห่วยกว่า mitsu อีกครับพี่     0 mitsu แค่ช่างไม่ค่อยเก่ง ช่างเก่ง ๆ ลาออกมาตั้ง 0 เองหมดแล้ว

แต่ 0 เชพ นอกจากช่างไม่เก่งแล้ว  บริการยังไม่ดี  เข้า 0 ต้องให้น้ำมันเหลือแค่ขีดเดียว เข้าไปเต็มถังแล้วต้่องจอดค้างคืน น้ำมันหาย แมร่งระเหยได้เอง.... อะไหล่ก็ไม่มี stock ไว้ รออะไหล่ถ้าเป็นตัวที่หาง่าย รออาทิตย์นึง ถ้าตัวที่มันไม่ค่อยเสีย นี่รอ ร่วมเดือนครับพี่  ทั้งที่รถผลิตระยอง  รออะไหล่หยั่งกับผลิตเยอรมัน

อยากทราบความเห็นหรือปัญหาของ เทรลเบรเซอร์ ครับว่าที่มีปัญหาครับเกิดจากอะไรทำไมนอนศูนย์นานจังเพราะผมก็ใช้ตัวนี้เช่นกันตัวท๊อป การใช้งานก็ยังเป็นปกติครับ ส่วนคนที่รู้จักใช้มาตัวแรกผมเองก่อนตัดสินใจก็เข้าไปถามเค้าเช่นกัน ไม่ทราบว่าตัวแรกนี่กีปีนะครับแต่เค้าใช้มาก็นานเกิน 2 ปีก็ไม่มีปัญหาอันใดนะครับ ส่วนปัญหานอกเหนือจากนี้ผมก็ไม่ขอยืนยันหรือรับประกันนะครับ ล่าสุดที่ผมเคยโพสไว้ก็มีเข้าไป ศูนย์บริการครบ 10,000 กม .ช่างจับเปลี่ยนโช๊คคู่หน้าให้ใหม่ทั้งๆทื่ยังไม่ได้แจ้งปัญหา และยังไม่มีปัญหา เค้าจัดให้ก่อนเลย ก็เลยถามเค้าบอกว่าพอดีจะมีเอกสารแจ้งให้มาเปลี่ยนพอดี แต่ส่วนมากที่ผมได้ยินมักจะบอกว่าปัญหายังไม่เกิดลูกค้ายังไม่แจ้งก็ไม่เปลี่ยนฉนั้นก็ต้องฟังหรือไตร่ตรองก่อนที่จะวิจารณ์กันครับ  อ้ออีกข้อคือเรื่องปั๋ญหาของแอร์ออโต้ บางครั้งเราใช้รถก็ไม่ได้กดปิด AC ก่อนทุกครั้งเพราะบางครั้งก็จอดแป๊ปเดียวแค่ปิดสวิทพัดลมและดับเครื่องสักพักมาใช้รถต่อแต่อุณหภูมิแอร์กลับไม่ลดลงมาตามที่เราตั้งเช่น 22องศากลับร้อน คล้ายว่าข้อมูลเออเร่อ พอเรารู้หลักก่อนดับเครื่องทุกครั้งต้องปิดปุ่ม AC ก่อนทุกครั้งแอร์ก็ปรับปกติข้อนี้ผมไม่ทราบว่าทุกคันหรือไม่ฉนั้นข้อนี้ผมก็คิดว่าไม่ใช่ปัญหาใครที่ใช้ก็ลองสังเกตุดูครับ และก็เครื่องเล่นก็เช่นกันต้องปิดก่อนดับเครื่องไม่งั้นพอเปิดมาใช้ใหม่กลับไม่อ่านแผ่น ฉนั้นเราจึงปรับตัวเข้าหารถครับ ขอโทษนะครับอาจยาวไปแต่ก็เผื่อเป็นประโยชน์บ้าง อ้อตัว 2.8ขับ4ครับ

คุณชวลิต คห.3 

ผมเห็นด้วยกับเรื่องหน้าตาดีของ Chevrolet Trailblazer ครับ

แต่คนรอบตัวผมหลายท่าน หรือแม้กระทั่งคนข้างบ้าน ที่ผมเตือนแล้ว แต่รั้นอยากจะซื้อ เชฟ เครื่องเชฟ 

สุดท้ายทุกวันนี้ออกรถมายังไม่ครบ แปดเดือนเลย เข้าศูนย์จอดแข่ร่วม สองเดือน เข้าๆออกๆเป็นว่าเล่น

ถ้าชอบหน้าตาของเทรลเบลเซอร จริงๆ แนะนำให้ออก MU-X แล้วแปลงหน้าเป็น เทรล แทนประหยัด ทน ไม่ต้องซ่อม ศูนย์บริการเยี่ยนม

 ผมว่า Chevrolet Trailblazer น่าจะwork ที่สุด ณ.เวลานี้ ทั้งหน้าตาหล่อเหลา เครื่องแรงโคตร 200 แรงม้า แรงบิด500 ช่วงล่างเกาะถนนดี แต่ถ้าไม่ได้ซื้อรุ่นtop ก็แนะนำว่าเมื่อซื้อแล้วเปลี่ยนล้อเก่าทิ้งไป ใส่แม็กไหม่ให้กว้างขึ้นใหญ่ขึ้นจะสวยและเหมาะกับรถมากขึ้น ลองลงมาก็เห็นจะเป็น Isuzu Mu-X  ที่ใช้platform เดียวกับTrailblazer หน้าตาแตกต่างกันพอสมควร แต่ความแรงเป็นรอง แบบเน้นประหยัด ส่วนNew Everest 3.2 ไม่รู้มาเมื่อไร แต่ถึงแม้มาผมก็ไม่ซื้อ เพราะขนาด Ranger 3.2 ยังสูบน้ำมันขนาดไม่ถึง 10 กิโล/ลิตร Everest น้ำหนักรถมากกว่า จะสูบขนาดไหน แต่ถ้ามีรุ่นเบนซิน 2.5 ก็น่าเล่น เอาไปติดแก๊สหรือNGV ก้อเข้าท่า แบบว่าได้ช่วงล่างดี ๆ และขับแบบประหยัด ๆ 

เท่าที่ผมหาข้อมูลได้ Ford ไม่ปล่อยตัว 2.2 มาครับ  มีแต่เบนซิน 2.5  กับ ดีเซล 3.2 ครับ

รอ FORD Everest ตัวใหม่ก็ดีนะครับ ตัว 3.2 ลิตร 200 แรงม้า 470 นิวตัน-เมตร ทั้งแรงและปลอดภัย ถ้ารุ่น 2.2 ลิตร 150 แรงม้า 375 นิวตัน-เมตร ก็อืดลงมาหน่อยแต่ประหยัดกว่าพอสมควร

แต่ถ้าอยากได้รถสมรรถนะดี แรง ประหยัด และปลอดภัย ไม่อยากรอนาน แต่ทนเรื่องศูนย์บริการหน่อยก็ลองดูเจ้า CHEVROLET Trailblazer 2.8 เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ 200 แรงม้า 500 นิวตัน-เมตร หรือตัวเก่า (180 แรงม้า 470 นิวตัน-เมตร) ก็ประหยัดไปเกือบ 2 แสนครับ

แต่ถ้าเอาคุ้มราคา แนะนำ MITSUBISHI Pajero Sport 2.5 VGT 178 แรงม้า 350 นิวตัน-เมตร รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะครับ ไม่ถึงล้าน แรง เกาะถนนใช้ได้ ซ่อมนอกศูนย์ได้

หรือเอาประหยัดก็ ISUZU Mu-X 2.5/3.0 VGS Turbo 136/177 แรงม้า 320/380 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะครับ

ส่วน TOYOTA Fortuner 2.5/3.0 VNT 144/171 แรงม้า 343/360 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ผมไม่แนะนำเพราะบอบบาง ไม่ปลอดภัย แถมยังใกล้ตกรุ่นเต็มแก่แล้วครับ