เมื่อเช้าอ่านข่าว ทาง Ford ถูกศคบ. ฟ้องเรื่องโฆษณาเกินจริง ทีว่า กระบะRanger 3.2 น้ำมันถังเดียววิ่งไป-กลับ กรุงเทพ-พัทลุงได้ ( ใช้ความเร็ว 70 กม./ชม. เปิดแอร์ ) ซึ่งการทดสอบจริงไม่เป็นดังคำโฆษณา โดนปรับไป 5 หมื่นบาท ดังนั้นจะเชื่อคำโฆษณาทั้งหมดไม่ได้ ดังคำว่า สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เืท่ามือจับ สิบมือจับไม่เท่าขับเอง รถทุกยี่ห้อมีข้อดี ข้อเด่น ข้อด้อยแตกต่างกันไปครับ อยู่ที่ความพอใจของผู้่ซื้อว่าต้องการอะไรจากรถคันที่ซื้อ บ้างก็ต้องการความประหยัดน้ำมัน บ้างต้องการเครื่องแรง ๆ บ้างต้องการบรรทุกเยอะ ๆ บ้างต้องการเกาะถนนสุด ๆ บ้างต้องการรถสวย ๆ สักคัน บ้างก็ขอให้ได้สักคันไว้ขับไม่ต้องเดินก็พอ

เห็นด้วยกับคุณคนสวน

ผมคิดว่าที่การโฆษณาได้ผลนั้น เกิดจากผู้รับฟังจะใช้ตาดู หูฟัง แล้วก็เชื่อเลย โดยไม่พิสูจน์เอง เพราะบางท่านไม่มีเวลา บางท่านเล่นง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก บางท่านก็มีทัศนคติเก่าๆ ไม่ยอมรับรู้รับฟังสิ่งใหม่ๆ ก็เลือกเจ้าตลาดไว้ก่อน ขายต่อราคาดีกว่าเพราะซื้อแพงกว่าก็ยอม.... ส่วนตัวผมโฆษณาก็มีข้อดี คือ จะชูจุดเด่นในรถของตัวเองออกมา แล้วผมก็จะมุ่งไปวิเคราะห์หรือทดสอบที่จุดๆ นั้นก่อนว่าเหนือกว่าชาวบ้านเขาจริงหรือเปล่า? (ที่ผ่านมาส่วนใหญ่กว่า 90% โม้ทั้งนั้นครับ) และผมเห็นว่านิตยสารนักเลงรถกระบะ/นักเลงรถ นั้นแสดงความเห็นอย่างเป็นกลาง และทดสอบโดยใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานสูงโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่เอาความชอบหรืออคติส่วนตัวมาปะปน ขณะที่หลายๆ เล่มก็เชียร์แต่เจ้าตลาด ซึ่งหลายรุ่นที่ผมทดสอบหรือซื้อมาใช้งานก็ใกล้เคียงกับผลทดสอบดังกล่าว

น่าคิด  ว่าทำไม่ การโฆษณา  จึงเป็นตัวแปลได้ไม่น้อย  เพราะ ความเป็นจริง  ทุกยี่ห้อ ต้องการครองใจลูกค้าให้ได้มากที่สุดอยู่แล้ว

ใครมีความมคิดยังใงช่วยเสนอแชร์กันน่าจะดี

ดูกระทู้หน้า 3 ผมได้แชร์ เขาทดสอบกันมาแล้ว ว่าใครประหยัดกว่่า

 http://www.asasappakij.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=asasappakijcom&thispage=3&No=1426343

ผมขอคิดนอกกรอบนี๊ดนะครับ ผมจะพูดถึงเครื่องยนต์แต่ผมจะพูดถึงราคาของรถ ตอนนี้มีอยู่สองตัวที่ราคาค่อนข้างถูกกว่ารถเจ้าตลาด คือ นาวารากับ เจ้าสามตัน ไตรตัน จะถูกกว่า อยู่ประมาณ สี่หมื่น ยังไม่รวมส่วนรถอีก สามหมื่นห้า เป็น เจ็ดหมื่นห้า ดอกเบี้ยอีก ประมาณสามหมื่น รวมเบ็ดเสร็จ หนึ่งแสนกับอีกห้าพัน แล้วเอาเงินหนึ่งแสนห้าพัน มาเติมน้ำมันวิ่ง คิดที่โลละ 2.50 บาท จะวิ่งได้ 42,000โล หรือปีเกือบครึ่ง

แล้วคุณคุณยังคิดว่ายี่ห้อเจ้าตลาดประหยัดกันอยู่อีกหรือ

แน่นอนว่าราคาขายต่อมันตก จะให้มันไม่ตกได้อย่างไรในเมื่อราคารถมันถูกกว่ากันตั้งแสน ตั้งแต่ต้นแล้วครับ

จบแล้ว

ได้ยินมาเยอะ...ว่า  ก่อนซื้อ ก็ถามเรื่องประหยัด ซ่อมถูก อะหลั่ยถูก  แต่...พอใช้จริง  ทำไมวิ่งไม่ออก สู้คันนั้นคันนี้ไม่ได้ สารพัด ขอสนับสนุนคุณประพันธ์ อีกเสียงว่าอยู่ที่ผู้ใช้เท่านั้น ทั้งเรื่องขับ และ บำรุงรักษา รู้จักรถรู้จักเรา โชคดีครับ...

ประหยัดหรือไม่ประหยัด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อรถยนต์ครับ

แต่ขึ้นอยู่กับคนที่บังคับพวงมาลัย + เท้าคนเหยียบคันเร่ง หนัก เบา แค่ใหน

คำว่า "ประหยัด" เท่านั้น เท่านี้ มีไว้สำหรับพวกขี้คุย เอาไว้คุยทับถม ข่มกัน เพื่อให้ตัวเองดูดี

ความเห็นส่วนตัวนะครับ