สารเคลือบเครื่องยนต์
avatar
วิทย์


รบกวนถามเกี่ยวกับสารเคลือบเครื่องยนต์ที่มีขายตามท้องตลาดหน่อยครับ เห็นเป็นสารหล่อลื่นที่เติมผสมกับนำมันเครื่องโดยสารหล่อลื่นตัวนี้จะไปเคลือบผิวกระบอกสูบเพื่อให้หล่อลื่นดีขึ้นลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ช่วยประหยัดนำมันอยากทราบว่าสารหล่อลื่นตัวนี้มีผลเสียกับเครื่องยนต์ไหมครับ เห็นเพื่อนบอกว่าถ้าใส่ไปแล้วมันจะไปกัดพวกซีลยางต่างๆในเครื่องทำให้ซีลเสื่อมสภาพก่อนกำหนดจริงหรือไม่ครับ



ผู้ตั้งกระทู้ วิทย์ (vit-su-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-02-04 10:00:36 IP : 115.67.243.5


1

ความคิดเห็นที่ 17 (4088997)
avatar
สุรพล

 ผมใช้ก็ดีน๊ะ ตัวที่มีใบรับประกันอ่ะ เครื่องสตารต์ง่านขึ้น ออกตัวก็ดี

ผู้แสดงความคิดเห็น สุรพล วันที่ตอบ 2017-11-19 21:38:25 IP : 171.6.16.220


ความคิดเห็นที่ 16 (4077447)
avatar
ไม่เจอไม่รู้

 อย่าเติมครับ ผมอาการเดียวกับ ความคิดเห็นที่ 5 เลย ไม่โดนไม่รู้ ผมถ่ายน้ำมันเครื่อง กลับมาเร่งขึ้น แต่ยังไม่เหมือนเดิม จะถ่าย

น้ำมันเครื่อง ครั้ง 2-3 ให้เร็วขึ้น ตามคำแนะนำครับ เข็ดจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ไม่เจอไม่รู้ วันที่ตอบ 2017-09-12 22:12:27 IP : 182.232.134.138


ความคิดเห็นที่ 15 (3607915)
avatar
สุสุ

 ผมโดนแล้วครับสารเคลือบเป็นตัวร้ายที่ทำให้รถเราเสียเร็วกว่าปกติเลิกใช้เลยผ่าเครื่องออกมาดำติดผนังในห้องเครื่องและชิ้นส่วนอื่นๆล้างไม่ออก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุสุ วันที่ตอบ 2016-11-15 11:50:13 IP : 182.53.123.77


ความคิดเห็นที่ 14 (3414956)
avatar
เต้ย

 เมื่อก่อนผมแข่งรถ กลัว ขี้เหล็กรึสารไปตกค้างในแคร้ง เยอะ ก็เลย เอาแม่เหล็ก 3-4แท่งไปพันใว้กับใส้กรองอากาศ พอถึงเวลาจะเปลี่ยนน้ำมัน ก็เปลี่ยนใส้กรองและ ถอดแม่เหล็กที่พันเอาใว้ ผล เศษเหล็กสนิทต่างๆ เกาะพนัง ใส้กรองน้ำมันเครื่องเต็มเลยตอนเคาะออกมา   ผมอาจไม่มีความรุ้เหมือนพวกพี่ๆเท่าไหร่แต่ผมก็เป็นช่างเครื่อง มาหลายสิบปี   ลุกค้าทุกวันนี้เค้าก็เติมหัวเชื้อไป  ทุกคนก็บอกว่ามันดี จากควันดำ   ก็ไม่ดำอีก   จากที่ซีลยางรั่วตามฝาวาล์ว  ซิลข้อเหวี่ยงก็น้อยลงไป  จึงอยากทราบว่า  สรุป  ไอ้สารพวกนี้มันดีรึไม่ดีละ   สงสัยตรงไหนแอตไอดีไลมาใด้ครับ BATTERYONLINE24HR

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เต้ย วันที่ตอบ 2016-08-22 16:24:36 IP : 112.142.79.74


ความคิดเห็นที่ 13 (3390483)
avatar
Poth

 เวลาถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้ง ตามมาตรฐานสากล และตามความเป็นจริง ทุกครั้งที่เราถ่ายน้ำมันเครื่อง มันจะหลงเหลือคราบสกปรก คราบตะกอน คราบขี้โคลน ยางเหนียวต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องประมาณ 15% และเมื่อเราเติมน้ำมันเครื่องใหม่ลงไป มันก็จะไปผสมกับน้ำมันเครื่องเก่า ที่หลงเหลืออยู่ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ลดลงประมาณ 25% เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกครั้งของการถ่ายน้ำมันเครื่องจะต้องเติม Engine  flush  ลงไป

ผู้แสดงความคิดเห็น Poth วันที่ตอบ 2014-05-23 01:48:14 IP : 27.55.46.4


ความคิดเห็นที่ 12 (3321210)
avatar
หอย

ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น หอย วันที่ตอบ 2011-12-25 14:39:30 IP : 110.168.171.86


ความคิดเห็นที่ 11 (3284110)
avatar
GOB

รถผม เวลาถ่ายน้ำมันเครื่อง  แล้วมีการล้าง ฟัชชื่ง ออยล์  การถ่ายน้ำมันเครื่องรอบนั้น ม้นทำให้รถวิ่งอืดไปเลย   เป็นทุกครั้ง ทั้งคันเบนซิน และคันดีเซล ต้องรอรอบต่อไป ดำหน่อย แต่วิ่งดี  น่าจะเป็นที่ ฟัชชิ่ง ออยล์ ตกค้างในเครื่อง ถ้าไม่ดำจริง จะไม่พยายามล้างเครื่อง กลัวเครื่องพัง

ผู้แสดงความคิดเห็น GOB วันที่ตอบ 2011-02-11 03:06:51 IP : 58.8.108.119


ความคิดเห็นที่ 10 (3273146)
avatar
old car เน้นประหยัด

ผมใช้รถมา 5 แสนกิโลเมตร nissan suuny 1.5ปี 96 ผมเริ่มเติม สารเคลือบเครื่องยนต์ตั้งแต่  2 หมื่นกิโล เป็นชนิดเทฟลอน

ผลก็คือ รถไม่ได้วิ่งดีขึ้นแต่ อาจเป็นเพราะผมเป็นคนขับรถช้า แถวๆ 80-100 เท่านั้น จึงไม่รุ้สึกถึงความแตกต่าง  ต่อมาผมก็หาซื้อสารเคลือบ เติมทุกๆระยะ  7-8 หมื่นโล ตามที่เขาแนะนำ และก็ไม่เคยคาดหวังอะไร เนื่องจากความเชื่อมั่น ว่ามีสารเคลือบ จึงยืดระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ปกติเติม ชนิดกึ่งสังเคราะห์  จะเปลี่ยนที่ 12,000-14,000 กม. เพื่อประหยัดเงิน ทำแบบนี้ตลอด  ในช่วงปี 2005เป็นต้นมา นี้ เริ่มมี สารเคลือบชนิด สารนาโนแบบใส ผม ไม่ลังเลที่จะซื้อเติมรถ หลังจากได้ติดแก๊ส ผมก็ยังยืดระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเหมือนเดิม ชอบใช้เชลล์ธรรมดาแกลลอนเหลือง เติมสารเคลือบนาโนครั้งละ ช้อน เปลี่ยนน้ำมันที่ 7 พันโล แต่จะต้องเติมชดเชย ด้วยราวๆ 2 ลิตรทุกครั้ง คงเพราะเครื่องหลวมแล้ว

 ได้ ติด NGV ตั้งแต่ 3 แสน กิโล ปัจจุบัน ผมใช้ของ ปทท. ngv เปลี่ยนทุกๆ 14,000 โลเติมสารเคลือบนาโนครั้งละ ช้อน เช่นกัน  ที่ทำงานห่างจากบ้าน 60 กิโลเมตร

ขับแก๊สที่ความเร็ว 80-100 กินน้ำมันเครื่องไม่มาก แต่ช่วงนี้ขับที่ 100-120 ต้องเติม บ่อยราวๆ 5000 กิโล/ เติม 1 ลิตร

รถผมยังไม่เคยเปลี่ยนแหวน เคยเปลี่ยนซีลหมวกวาวล์ ตอน 2 แสน 5 หมื่นกิโล

ผมพบว่าสารเคลือบนาโน ช่วยให้รถวิ่งราบเรียบมาก เคยใช้น้ำยาล้างเครื่อง แล้วไม่ได้เติมสารเคลือบชดเชย ผลก็คือ เครื่องร้อนขึ้น เสียงดัง สั่นผิดปกติ เลยนึกออกว่าไปล้างเครื่องมา ต้องเสาะหา สารเคลือบเติม ลงไป อาการหายไป ใช้แก๊ส วิ่งเรียบ ไม่สะดุดมาก ผมเติมทั้งในห้องเกียร์ พวงมาลัยเพาเวอร์

 ผมไม่ค่อยเปลี่ยนอะหลั่ยรอให้เสียถึงซ่อม

 3.ปีก่อนมีครั้งหนึ่ง ปั๊มน้ำรั่วกลางถนน ผมขับไม่รู้ตัว ราวๆ 2 กิโล ก็สังเกตเห็นเข็มความร้อนขึ้นถึงขีดแดงนึกว่าเข็มเสีย  แต่ขับไม่เร็ว

 จากนั้น เครื่องเริ่มสะดุด ผมเลยฝืนขับ จนถึงที่ทำงาน อีก 2 กิโล ปรากฎว่าเครื่องดับตอนเข้าจอดพอดี และสตาร์ตไม่ติด

  รอจนเครื่องเย็นลง จึงเปิดฝาหม้อน้ำ ลองเติมน้ำลงไป ผลก็คือมีน้ำไหลลงไต้เครื่องที่พื้น เท่าๆกับที่เติมลงไป

 ผมให้เพื่อนช่วยลากไปที่ศูนย์ ให้ช่างสตาร์ทขับเข้าที่ซ่อม ต่อมาช่างจึงบอกว่าไม่มีน้ำในหม้อน้ำเลยต้องเปิดฝาสูบ ผมไม่อยากเสียเงินห้ามไม่ให้เขาทำ ก้ให้เปลี่ยนปั๊มน้ำใหม่เท่านั้น จนทุกวันนี้ก้ยังขับได้ดี แต่ความเร็วปลายไปได้แค่ 150 เท่านั้น

 แต่ได้ความประหยัดนี่แหละครับ กิโลเมตรละ 60 สตางค์ เติม เบ็นซิล 95 เดือนละ 700 บาท

เมื่อมีโอกาสผมต้องหาซื้อสารเคลือบ มาเก็บไว้ มีราคาขวดละ 600-1500 ตามระยะกิโลเมตรที่ปกป้องได้(ต่อรองจาก พัน-พันห้า)    ผมมีรถรุ่นเดียวกัน 2 คัน คนละคันกับแฟน อีกคันเป็นเกียร์ออโต้ติดเอ็นจีวี ระบบหัวฉีด วิ่ง 3 แสนกว่ากิโลเมตร นั่ง 3 คน เร่งไปที่ 160 กม./ชม ไม่ยากเย็น ด้วยเสียงเครื่องที่เงียบสนิทก็เพราะสารเคลือบนี่แหละครับ

 แต่พอลองซื้อเติมMU 7 ของพ่อ ที่ ระยะ2 หมื่นกิโล ผลก็คือ  ไม่ดีกว่า ตอนไม่เติมครับ เครื่องไม่แรงขึ้น ไม่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเลย  เหมือนจะ วิ่งอืดๆ กว่าเดิม ที่ความเร็วเกิน 120 กับคนนั่ง เต็มคันรถ  แสดงว่าสารเคลือบเครื่องไม่เหมาะกับรถใหม่ แต่จะดีกับรถเก่าๆเท่านั้น

  สำหรับผมแล้ว  ข้อเสีย ก็ต้องเปลี่ยนผ้าเบรคบ่อย เพราะไม่มี engine brake วิ่งลงเขา ต้องลงเกียร์ต่ำๆ กว่าปกติ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น old car เน้นประหยัด วันที่ตอบ 2010-11-14 21:42:23 IP : 125.27.86.73


ความคิดเห็นที่ 9 (3191501)
avatar
ผู้ใช้สารเคลือบ

หัวข้อนี้เป็นประเด็นที่น่าติดตามครับ

ผมเสนอ น่าจะมีการ จัดเป็นบอร์ด ชี้แจงระหว่าง ผู้ผลิตน้ำมัน้ครื่อง ผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ผลิตสารเคลือบ มาทอล์คกัน ให้ข้อมูลกับผู้อ่านเยอะๆ เพื่อวิเคราะห์ เหตุผล ร่อมกัน

ส่วนสารเคลือบเครื่องยนต์ ผมแนะนำให้ติดต่อ ที่ www.hugger-thai.com ครับ มีคำอธิบายแน่นอน

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้ใช้สารเคลือบ (sanya-at-mobile-hugger-dot-com)วันที่ตอบ 2010-06-19 19:11:23 IP : 118.175.148.157


ความคิดเห็นที่ 8 (3153123)
avatar
ขับestate เก่าๆ

เคยสอบถามเพื่อนที่อยู่ในบริษัทน้ำมันเครื่องมาครับ

เค้าบอกว่าน้ำมันเครื่องที่ขายอยู่ไม่ว่าสูตรสังเคราะห์ กึ่งสังเคราะห์ ล้วนใส่สารเพิ่มประสิทธิภาพ หรือเรียกว่าAdditive ลงไปในน้ำมันครับ สารเพิ่มประสิทธิภาพก็คือสารดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่ก็มีหัวเชื้อบางประเภทที่เป็นฟิล์มหนากว่าปรกติเพื่อใช้กับเครื่องยนต์ที่หลวม ใส่ไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ น้ำมันเครื่องที่เราใช้อยู่ก็มีสารพวกนี้อยู่แล้ว อยากแรงก็ไปใช้น้ำมันเครื่องที่เกรดดีกว่าหน่อยดีกว่าครับ น้ำมันเครื่องเดี๋ยวนี้มีหลากหลายครับสูงกว่ามาตรฐานก็มี สังเคราะห์แท้ก็มีตั้งแต่เจ็ดร้อยยันกระป๋องละสามสี่พันบาทแล้วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ขับestate เก่าๆ วันที่ตอบ 2010-02-09 11:11:14 IP : 110.164.64.186


ความคิดเห็นที่ 7 (3153104)
avatar
boy_kity

 เห็นด้วยกับ คห. 6 ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น boy_kity วันที่ตอบ 2010-02-09 10:18:34 IP : 113.53.232.133


ความคิดเห็นที่ 6 (3151959)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

ถ้าจะใส่เพื่อให้เกิดความรู้สึกทางใจว่ามันดี ก็ใส่ แต่ถ้าจะหวังเรื่องประสิทธิภาพ เก็บเงินเอาไว้ซื้อขนมกินดีกว่าครับ เห็นเอามาให้อาจารย์ทดสอบเป็นเข่งแต่ไม่เห็นมันจะได้ผลสักราย  

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-02-05 10:20:35 IP : 58.8.79.173


ความคิดเห็นที่ 5 (3151918)
avatar
k13

สนับสนุนทุกความเห็นครับ ลองอ่านกระทู้นี้ดูที่ตอบปัญหาจากสาเหตุนี้ที่เว็บอื่นๆ เป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้ที่ชอบทดลอง

ถาม

NISSAN NEW TEANA 2009 แรกๆ เร่งดีเร็ว+ลื่นมากตอนความเร็วสูง แล้ววิ่งครบ1000กิโล เปลี่ยนน้ำมันเครื่องจากศูนย์นิสสันแล้ว ตอนรถวิ่งมาได้1700กิโลเมตร ผมลองใส่สารเคลือบเครื่องยนต์ ยี่ห้อG`Zox ของเครือSOFT99 ซึ่งมีชื่อเสียงขายเคลือบสีรถ ดูตัวอย่างสารเคลือบเครื่องฯ G`ZoX oil treatment ใน http://www.imadesports.com/product.detail_26912_th_2081916 (ซื้อจากงานโฮมโปร ณ เมืองทองธานี คนละเจ้าของเว็บนั้น คนขายเป็นผู้ขายน้ำยาเคลือบสีSOFT99 และสินค้าMY CARR)
ทำตามคู่มือหน้ากล่องนั้น เติมแล้ว ติดเครื่องรอ10นาที เสร็จ แล้วตอนเช้า ลองขับรถ วิ่งถึง200 รู้สึกแปลกๆว่า เสียงเครื่องยนต์เปลี่ยนไป เสียงแบบไม่เพราะหรือไม่ดี เสียงไม่เหมือนรถใหม่ๆ แล้วเวลาเร่ง ตอนความเร็ว60 ไปถึง200 ไม่ลื่น คิดว่าอึด เข็มความเร็วจาก60 ไป200 ไม่ไว ค่อยๆขึ้น เข็มขยับช้ากว่าเดิม
แล้วผมเลยรีบ เข้าอู่มีเครื่องมือมาตรฐานครบ ใกล้บ้านกว่าศูนย์นิสสันซึ่งไม่มีเวลาไปไกลๆและศูนย์ต้องรอนานด้วย สั่งอู่ เอาFlushing Oil ยี่ห้อคาสตรอล 2 ถังๆละ4ลิตร ล้างเครื่องยนต์ 2 รอบ แล้ว เปลี่ยนไส้กรองเครื่องใหม่ เติมน้ำมันเครื่องใหม่ ยี่ห้อ BP กึ่งสังเคราะห์เบอร์ท้าย40 (อู่ไม่มีขายเบอร์ท้าย30) วันถัดไป ลองขับความเร็วถึง200 รู้สึกว่าเสียงเครื่องยนต์ปกติ ลื่นขึ้น+หลังติดเบาะขึ้น+เข็มความเร็วไวขึ้น แต่น้อยกว่าตอนรถวิ่งครบ1000กิโล เปลี่ยนน้ำมันเครื่องจากศูนย์

ก่อนล้างเครื่อง ผมค้นหาgoogle พอทราบว่า Flushing Oil มี 2 วิธี คือ 1.ขวดเล็ก ผสมกับน้ำมันเครื่องเก่า ติดเครื่อง รอ10 นาที ถ่ายน้ำมันเครื่องเก่าออก แต่ บางคนจะเสียหายคือชาร์ฟละลาย เพราะพลังล้างสูง ขจัดสกปรกออกจากโลหะ สิ่งสกปรกหมุนเวียนทั่วเครื่องยนต์ ไม่ได้ถ่ายออกไป เสียดสีกับโลหะ ถ้าสกปรกมากๆทำให้ชาร์ฟละลาย 2. ถ่ายน้ำมันเครื่องเก่าออก แล้ว เติมFlushing Oil เป็นถัง ซึ่งใหญ่กว่าขวดเล็กดังกล่าวในข้อ1. แล้วล้างเครื่อง ติดเครื่อง รอ10นาที แล้วถ่ายออก เติมน้ำมันเครื่องใหม่

ผมเลือกวิธีที่2. ล้าง 2 รอบ
ล้างเครื่อง ทำให้ สารเคลือบเครื่องฯหลุดไปมั้ย?? ล้างสารเคลือบหมดจดหรือป่ะครับ??
จากนั้น ลองขับความเร็วถึง200 อัตราเร่ง+ความลื่น+ความแรงหลังติดเบาะ ตอนความเร็วสูง ไม่เหมือนเดิม แต่ดีขึ้นไม่มาก
ผมเลยลองล้างเครื่องหลายรอบ(Flushing Oil เป็นถัง)+เปลี่ยนไส้กรองเครื่องใหม่+เปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ เบอร์ท้าย30 ยี่ห้อวาโวลีน กับTotal เป็นสังเคราะห์แท้ มาตรฐานSM หลายรอบ ประมาณ4-5รอบแล้วมั่ง ค่อยๆดีขึ้นนิด (นิดๆเลย) ไม่เหมือนเดิมเลย
ผมไม่รู้ว่า ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ไม่ดีหรือป่ะ?? น้ำมันเครื่องของนิสสัน เป็นกึ่งสังเคราะห์ มาตรฐานSL น่าจะดีกว่าในเรื่องอัตราเร่ง+ความลื่น+ความแรงหลังติดเบาะ ตอนความเร็วสูง หรือป่ะครับ?? ตอนล้างเครื่องหลายรอบ ยังไม่เคยลองเติมน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ครับ

ผมอ่านบทวิจารณ์NEW TEANA 2009 เห็นบอกว่า ลูกวาล์วหรือแคมชาร์ฟ อะไรไม่แน่ใจ โรงงานได้เคลือบโลหะให้ลื่นๆ เสียงเงียบขึ้น ผมสงสัยว่า ล้างเครื่องมีส่วนทำให้สารเคลือบจากโรงงานหลุดไปป่ะครับ??

ถ้าผมลองใช้น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์แล้ว อาการปกติไม่เหมือนเดิม100% สารเคลือบยี่ห้อG`Zoxนั้นอาจจะล้างไม่หมดใช่มั้ยครับ?? ต้องล้างเครื่องอีก กี่รอบครับ?? หรือว่า ผมทำให้สารเคลือบจากโรงงานซึ่งเคลือบลูกวาล์วหรือแคมชาร์ฟ หลุดหมดแล้วใช่มั้ยครับ??

ถ้าท่านว่า ล้างเครื่องหลายรอบ สารเคลือบถูกล้างหมดแล้วจริง แต่อัตราเร่ง+ความลื่น ตอนความเร็วสูง เปลี่ยนไป เกิดจากรถผ่านใช้งาน หลายพันกิโล ซึ่งจะเกิดสึกหรอตามธรรมชาติ ใช่หรือป่ะครับ?? ไม่เหมือนรถออกป้ายแดงใช่มั้ยครับ??

ตอนนี้ รถผมวิ่งมาแล้ว3พันกิโลกว่าแล้วครับ ถ้าลองน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์แล้วผลเป็นยังไง ผมจะแจ้งข่าวให้ทราบ (เพื่อนบ้านแนะนำกึ่งสังเคราะห์ดีกว่าสังเคราะห์แท้ เพราะเมืองไทยอากาศร้อน ไม่รู้จริงหรือป่ะ??)
ปล. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ มาตรฐานSM 5W-30
จับเวลาเท่ากัน Total (ยี่ห้อมีชื่อเสียงใช้ในรถแข่งแรลลี่เปอร์โย ซีตรอง)วิ่งถึง180-190 ไม่ค่อยขึ้นถึงความเร็ว200(ไม่เคยถึง200)
ส่วนวาโวลีน วิ่งถึง200 (เคยถึง210)
ยี่ห้อวาโวลีน กับ Total อย่างไหนดีกว่ากัน
ต้องรอรถวิ่งมาแล้ว5พันหรือ1หมื่นกิโล จะแน่ใจว่ายี่ห้อไหนดีหรือป่ะครับ


ขอบพระคุณมากๆครับ

 
ตอบ
น้ำมันเครื่อง กึ่งสังเคราะห์ กับสังเคราะห์ในบ้านเรา ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิบรรยากาศโดยตรง ที่เพื่อนบอก ลงความเห็นว่า มั่ว

น้ำมันเครื่องไม่ว่าจะใส่เข้าไปแล้ว ทำความเร็วได้ต่างกันนิดหน่อยที่ความเร็วสูงสุด บอกไม่ได้ว่า น้ำมันเครื่องอย่างไหนดีกว่ากัน เพราะการขับขี่อาจจะทำบนเส้นทางที่มีสัมประสิทธิแรงเสียดทานแตกต่างกัน ต้องเข้าใจความฝืดของผิวจราจรด้วยครับ

อาการของรถคุณ เกิดเพราะไปใส่น้ำมันหัวเชื้อ เพื่อเคลือบโน่นเคลือบนี้เข้า ผมเตือนแล้วหลายคำตอบในห้องนี้แหละ ว่าอย่าไปใส่เข้า เตือนทั้งในรายการวิทยุ ก็เตือน
เหตุผลที่เตือนก็เพราะสารผสมในน้ำมันหัวเชื้อหรือน้ำมันเคลือบ อาจจะไม่ถูกกับสารผสมเพิ่มคุณสมบัติในน้ำมันเครื่องของเรา แล้วเมื่อใส่ลงไปผสมกัน ก็เกิดการกัดกันขึ้น เป็นผลให้น้ำมันเครื่องเสียคุณสมบัติไป
ในกรณีของคุณ เสียงเครื่องผิดไป อาการตอบสนองการเร่งตกต่ำไป เป็นผลแสดงออกชัดเจนว่า สารผสมไปกันกับสารเก็บเสียงของน้ำมันเครื่อง และยังไปผสมทำลายคุณสมบัติของการหล่อลื่นอีกด้วย อาจจะถึงกับกัดเส้นใยให้สั้นลง ฟิล์มน้ำมันจะไม่แข็งแรงเอาเลยด้วยซ้ำ

เมื่อคุณไปล้างออก การล้างทำบ่อยเกินไป ก็เป็นผลให้น้ำมันล้างเครื่องคงค้างอยู่ในเครื่องยนต์จำนวนหนี่งเสมอมา

ทีนี้ เมื่อน้ำมันล้างเครื่องค้างอยู่แล้ว เมื่อใส่น้ำมันดีดีเข้าไป น้ำมันนั้นก็ลดคุณค่าลง ยิ่งใส่น้ำมันเบอร์ 40 เข้าไป ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ฟิล์มที่หนากว่าของน้ำมันจะไปถ่างความห่างของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ที่เคยห่างกันนิดเดียว ให้เปิดห่างออกไปอย่างมาก ทำให้การหล่อลื่นด้วยน้ำมันเบอร์ 30 ทำได้ไม่ดีเหมือนเดิม
ซึ่ง ไม่มีหนทางใดจะแก้ไขได้อีกแล้ว รวมทั้งการทุ่มทุนล้างเครื่องของคุณแบบไม่ยั้ง ก็ยิ่งทำให้เครื่องยนต์โทรมลงไปมากขึ้น หยุดล้าง แล้วใช้น้ำมันเครื่องดีดี เปลี่ยนลงไป แล้วเปลี่ยนเร็วขึ้นหน่อยสักสองครั้ง พอครั้งที่ 3 ผมว่า ทุกอย่างน่าจะเริ่มกลับมาดีขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม การหล่อลื่นด้วยเบอร์ 30 ทำได้ไม่ดีเหมือนเคยแล้วแน่นอน แต่หากใช้เบอร์ 40 แม้จะหล่อลื่นดีขึ้น แต่ความหนืดในตัวน้ำมันก็มีสูงกว่า กินน้ำมัน และอืดกว่าจนได้แหละครับ

ต้องยอมรับไปละครับ เพราะคุณเลือกเติมน้ำมันเคลือบเครื่องยนต์เอง และยังไปล้างเครื่องยนต์ถี่ยิบเอง จนการหล่อลื่นทำได้ไม่สมบูรณ์เสียแล้ว

เมื่อการหล่อลื่นทำได้ไม่ดีเหมือนเดิมแล้ว เครื่องยนต์ก็หมุนไม่ได้คล่อง ไม่ได้ลื่น เหมือนเดิมน่ะซีครับ เท่านี้เอง-ธเนศร์

ผู้แสดงความคิดเห็น k13 วันที่ตอบ 2010-02-05 09:22:06 IP : 61.7.160.6


ความคิดเห็นที่ 4 (3151802)
avatar
โดดเดี่ยว

 

ถ้าของดีจริง บ.น้ำมันเครื่อง เค้าคงจะใส่ไว้เป็นส่วนผสมในน้ำมันเครื่องของเค้าแล้วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โดดเดี่ยว วันที่ตอบ 2010-02-04 21:19:45 IP : 180.183.232.31


ความคิดเห็นที่ 3 (3151799)
avatar
ชาว CK

กลัวว่า สารเพิ่มประสิทธิภาพนั้นมันจะเป็นสารขี้โม้มากกว่า เดี๋ยวนี้เห็นทำออกมาหลายยี่ห้อ ผมเคยไปดูเขาสาธิตด้วยตัวเองที่ร้านขายวิธีการและผลของการสาธิตก็เหมือนในโฆษณาทางเคเบิ้ลนั่นแหละ ตอนนั้นก็เคลิ้มตามอยากเอามาทดลองใช้แต่ห้ามใจไม่ซื่อจึงไม่เสียใจภายหลัง ผมว่าถ้าอยากให้เครื่องยนต์มีประสิทธืภาพดีและคงทนก็เลือกใช้น้ำมันเครื่องดีๆประเภทสังเคราะห์ร้อยเปอร์เซ็นต์และเกรดสูงสุดตอนนี้คือ SM(สำหรับเครื่องเบนซิน)

ผู้แสดงความคิดเห็น ชาว CK วันที่ตอบ 2010-02-04 20:59:13 IP : 58.8.168.247


ความคิดเห็นที่ 2 (3151630)
avatar
mon

ใช้รถแบบปกติชน ดูแลตามที่คู่มือกำหนดอย่างเคร่งครัด แค่นี้ก็สุดยอดแล้วครับ อย่าไปเสี่ยงกับอะไรที่เป็นบทเรียนราคาแพงเลยครับ ถึงแม้จะรับประกันความเสียหาย แต่พอเสียหายจริงๆใครล่ะจะยอมรับกันง่ายๆ เจรจากันยาวครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น mon วันที่ตอบ 2010-02-04 12:39:02 IP : 124.121.11.48


ความคิดเห็นที่ 1 (3151626)
avatar
คนบนทาง

 

ไม่จำเป็นครับ อย่างที่อาจารย์พัฒนเดชเคยบอก ให้เจ้าของรถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามปรกติตรวจเช็คตามกำหนดก็พอแล้วครับ เก็บเงินไว้ดีกว่า

ผู้แสดงความคิดเห็น คนบนทาง วันที่ตอบ 2010-02-04 12:23:33 IP : 222.123.164.19



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.