ระวังรถหาย (เลียบวิภาวดี) 
 
 
 
 "ระวังรถหาย" เป็นคำเตือนจากผู้อ่านข่าวของทีวี.หลายช่องและวิทยุหลายสถานีที่หวังดีต่อเจ้าของรถทั่วประเทศไทยทุกรุ่นและทุกยี่ห้อ

 ใครได้ฟังอย่างผิวเผินก็คงจะงงเป็นไก่ตาแตก ทำไมผู้อ่านข่าวทั้งหลายจะต้องออกมาเตือนเช่นนี้ เพราะรถในประเทศไทยก็หายเป็นปกติสุขอยู่แล้ว แต่หายเฉพาะรุ่นและหายเฉพาะยี่ห้อที่ถือเป็น "พิมพ์นิยม" จนนักขโมยรถได้รับใบสั่งจากนักซื้อรถเถื่อนในประเทศเพื่อนบ้าน

 ถ้ารุ่นไหนยี่ห้อไหนไม่ได้ใบสั่ง ก็จะไม่มีใครขโมยไปให้เมื่อยตุ้ม

 ส่วนประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าวแม้จะไม่เอ่ยชื่อ เจ้าของรถที่หายส่วนใหญ่ต่างก็รู้ว่าตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของไทย เป็นหลุมหลบภัยของนายใหญ่ เป็นแดนลี้ภัยของเจ้าพ่อหนีคุก เป็นประเทศที่มีการบังคับใช้กฎหมายสองมาตราฐานของจริง ถ้าใครมีฐานะเป็นนักการเมือง เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และเป็นพ่อค้าผู้ร่ำรวย ย่อมสามารถบันดาลให้รถที่ขโมยมาอย่างผิดกฎหมาย จากประเทศไทยกลายเป็นรถถูกกฎหมายได้ในประเทศนี้ ส่วนประชาชนทั่วไปหามีสิทธิ์ทำเช่นนี้ไม่

 จู่ๆ นักอ่านข่าวในบ้านเราต่างออกมาเตือนเจ้าของรถทุกคัน "ระวังรถหาย และจะหายทุกยี่ห้อ" โดยให้เหตุผลว่า นับจากนี้ไป กรมการขนส่งของประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนสามารถนำรถทุกคันมาจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างทั่วถึง โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานนำมาแสดงว่า ได้รถคันดังกล่าวมาอย่างไร

 การเปิดไฟเขียวอย่างนี้ ประชาชนในประเทศดังกล่าว ย่อมจะต้องเฮโลไปซื้อรถขโมยจากประเทศไทยในราคาถูกๆ กันจ้าละหวั่น แล้วโจรลักรถในประเทศไทย ก็จะมีงานเข้าเพียบจนล้นมือ การขโมยรถนับจากนี้ไปจึงไม่จำเป็นต้องรอใบสั่ง เพราะรถทุกคัน ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ต่างขายได้หมด

 การที่กรมการขนส่งทางบกของประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าวเปิดโอกาสให้รถผิดกฎหมายจดทะเบียนเป็นรถถูกกฎหมายง่ายๆ ได้เช่นนี้ ถ้าใครบอกว่า "ไม่มีนัยทางการเมืองซ่อนเร้น" ต้องถือว่าพูดโกหก

 เพราะทันทีที่เปิดไฟเขียวให้จดทะเบียนรถ ประเทศที่เดือดร้อนที่สุดคือประเทศไทย ซึ่งมีรัฐบาลหนุ่มมาร์คศัตรูหมายเลข 1 ของผู้นำประเทศดังกล่าว และเป็นเพื่อนซี้ของเสี่ยดูไบเป็นผู้บริหารประเทศ หากมีทางใดที่จะทำให้ประเทศไทยวุ่นวายจนรัฐบาลบริหารไม่ได้ มีหรือทรราชบ้านนอกจะไม่รีบทำ

 ด้วยประการฉะนี้นักอ่านข่าวทั้งหลายจึงได้เตือนเจ้าของรถทุกคัน ให้ระวังของรักของหวงไว้ด้วย ก่อนจะถูกมือดีขับไปขายต่างแดน!!

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=197773