ระบบดูดอากาศกลับของแอร์ จะดูเอาฝุ่นละออง ไขมัน ความชื้นและสิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปสะสม
เมื่อมากขึ้นเรื่อยๆจะเกิดการหมัก ทำให้แอร์มีกลิ่นคล้ายแอลกฮอร์ และจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวในที่สุด

อาการแบบนี้เป็นได้ทั้งรถเก่ารถใหม่ การล้างแอร์ช่วยให้กลิ่นหายได้ และเมื่อมีการสะสมใหม่ กลิ่นก็จะกลับมาอีกครั้ง

น้ำหอมรถยต์ชนิดอื่นรวมถึงการบูร จะเป็นตัวที่ทำให้เกิดอาการณ์ดังกล่าวได้เร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการระเหยตลอดเวลา ทั้งช่วงกลางคืนที่เราจอดรถทิ้งไว้
ยิ่งจอดรถตากแดด ในห้องโดยสารมีอุณหภูมสูง ก็ทำให้การระเหยเกิดขึ้นในอัตราที่สูง

สำหรับ บัลดินี่ที่ผมแนะนำนั้น มันเป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมที่สามารถฆ่าแบททีเรียที่สะสมในตู้แอร์ หรือกรองแอร์ ได้ทันที ประหยัดค่าล้างแอร์
และเมื่อแอร์มีการดูกลับ เชื้อโรงเหล่านี้ก็จะถูกฆ่าไปด้วยครับ

อีกอย่าง มันเป็นน้ำหอมชนิดที่ฉีดพ่น เราสามารถฉีดพ่นตอนไหนก็ได้ที่ต้องการ จึงไม่ระเหยเหมือนน้ำหอมรถยต์ชนิดอื่น

ลองพิจารณาดูครับ เอาลิ่งมาให้เลย www.baldiny.com

อย่าได้ใช้น้ำหอมเชียวครับ ระยะสั้นไม่เห็นผลอะไร แต่ระยะยาว จะมานั่งร้องไห้ทีหลัง

 ใช้น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์บัลดินี่ฉีดพ่นครับ กลิ่นหายเงียบเลย ห้องโดยสารหอมฉุย

ถ้าหายืมได้... พวกตัวสร้างประจุลบ หรือ "เครื่องฟอกอากาศ" มาลองใช้ดูครับ ตามทฤษฎีใช้ได้ ผมลองแล้วก็โอนะ แต่อยากให้ลองก่อน อย่าเพิ่งซื้อ เดี๋ยวใช้ไม่ได้ผมจะโดนด่า แหะๆ

แต่เจ้าตัวสร้างประจุลบเนี่ย แก้ปลายเหตุครับ ตามทั้งสองท่านข้างต้นเนี่ย ต้นเหตุครับ

ส่วนรถที่ผมเสียบตัวสร้างประจุเนี่ย มันเก่าแล้ว กลิ่นมันมาจากทั้งคันครับ ก็เลยแก้ต้นเหตุไม่ไหว ขี้เกียจรื้ออ่ะ

แต่แค่ตากแดด เปิดประตู ถ้าทำได้ทุกสัปดาห์ ก็ไม่ต้องเสียตังค์แก้ปลายเหตุครับ

ก็ผ้ายางของแถมนั่นแหละครับตัวการใหญ่ละ ถึงจะมีตรายี่ห้อ การที่เซลล์แถมมาให้ก็ไม่ได้หมายความว่าของมีคุณภาพนะครับ ลองเอาออกจากรถไปสักพักหนึ่งอาจดีขึ้น นอกนั้นบางทีกิจวัตรประจำวันที่คุณปฏิบัติระหว่างการใช้รถในบางกิจกรรมก็อาจทำให้เกิดอาการแอร์เหม็นได้โดยไม่รู้ตัว เช่นการทานอาหาร พรมชื้น ลองตรวจสอบดูครับ รถใหม่ไม่น่าเกิดจากปัญหาทางเทคนิคครับ

1.ปิด AC ให้นานอย่างน้อย 3-5 นาที เป็นอย่างต่ำ ปิดก่อนถึง 200-300 ม.ถ้ารถไม่ติดขนาดสีลมก็ไม่ช่วยครับ น้ำและความชื้นยังออกไม่หมด

2.ตรวจสอบรูระบายน้ำ และการรั่วซึมของน้ำว่ารั่วไปในส่วนกลางคอนโซลหรือไม่ แอบโยนซิลิกาเจลไว้ใต้คอนโซลแถวๆใต้แอร์ก็ได้ถ้าม่วงก็เจอตัวการ   หากให้ชัวร์ก็ล้างตู้ ต้องดูช่างทำด้วยว่าเขาถอดมาล้างหมดหรือไม่

3.ลองเอาโอโซนอบดู ยิ่งต่อท่อแหย่เข้าตู้แอร์ยิ่งสะใจสะอาดมั่กๆ

4.ถอดเบาะมาล้างทำความสะอาดดู ย้ำว่าถอด ไม่ใช่ล้างในรถ เปิดแอร์แล้วดม ใช่ป่าว  ถ้ากลิ่นเบาะใหม่จริงก็ทำใจ หรือถอยrecaroมาใส่แทนเบาะเดิม 5555 รื้อพรม ผ้ายางออกมาก่อน

5.ถ้ากังวลว่าเป็นกลิ่นวัสดุในรถก็อย่าจอดตากแดดจัดๆนานๆกลิ่นได้ออกน้อยลง

6.ตรวจน้ำรั่วเข้าตัวรถ บางทีน้ำแอร์ไม่รั่วแต่มาจากที่อื่นก็เหม็นไม่ต่าง

ผมเข้าใจว่าคุณเคยเข้ามาpostแล้วในชื่อนิสสันเกิร์ลนะ ไม่เป็นไรตอบให้อีกครั้ง อยากละเอียดก็ไปขุดกระทู้เก่าแล้วกัน ตกลงpostข้อมูลมาหมดยังครับ ว่าทำอะไรกับรถมาบ้าง พูดขาดๆ ก็ตอบขาดๆครับ คนเสียประโยชน์คือคุณนะจ๊ะ

  ปล.ถ้ากลิ่นอับรถของคุณเหมือนการผ้าขี้ริ้วชื้นๆไปเก็บไว้ที่มืดนานๆ กลิ่นนี้ผมว่าข้อ 2 และ 6