วิธีสร้างความสุข
avatar
พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ


ในภาวะปัจจุบันนี้ที่สื่อต่างๆนิยมเสนอข่าวในด้านลบ  ข่าวฆ่าคนตาย  ข่าวเด็กไม่พอใจระบบการสอบ  ข่าวข้าราชการไม่พอใจการแต่งตั้งโยกย้าย  ข่าวการชุมนุมรวมตัวกันทางการเมือง   ทางด้านเศรษฐกิจก็วิเคราะห์หรือนำเสนอแต่มุมมองที่เป็นลบ  เงินบาทแข็งก็บอกว่าเป็นอุปสรรคต่อการส่งออก   เงินบาทอ่อนก็บอกว่าทำให้เสียดุลย์การค้ามากขึ้นและเป็นอุปสรรคต่อต้นทุนการผลิต  ผมจึงขอนำเสนอวิธีการครองความสุขและรับมือกับสื่อต่างๆ   เช่นเก็บหนังสือพิมพ์วันนี้ไว้  แล้วไปอ่านอีกห้าหกวันข้างหน้าหรือไปอ่านในวันหยุด  เท่านี้ก็จะพบว่าข่าวที่เขียนเอาไว้เมื่อห้าหกกวันก่อน  พอเวลาผ่านเลยมาแล้วกลายเป็นข่าวโคมลอยไร้สาระ  เมื่อดูข่าวทางโทรทัศน์  พอจบข่าวในพระราชสำนักแล้ว ก็เปลี่ยนไปดูหนังดูละครช่องอื่น  เห็นหน้านักการเมืองไม่ว่าฝ่ายไหน  ก็เปลี่ยนช่องเปลี่ยนคลื่นหรือปิดอุปกรณ์สื่อสารไปเลย    วิธีการดังกล่าวผมทำมาเกือบหนึ่งปีแล้ว  ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองตกข่าวหรือล้าสมัย  และเชื่อถือสื่อต่างๆน้อยลง  สำคัญที่สุดคือสบายอกสบายใจมากขึ้นครับ



ผู้ตั้งกระทู้ พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ :: วันที่ลงประกาศ 2010-03-01 21:18:42 IP : 125.25.131.4


1

ความคิดเห็นที่ 8 (3161017)
avatar
จ่าเฉย

อาจารย์ไม่ต้องห่วงครับ ยังคงฟัง-ซื้อหนังสือ เช่นเดิม หนทาง-วัดความดีของคนครับ

เพียงแต่,,,,,,,รู้สึกว่า บ้านนี้เมืองนี้มีคนไม่รู้ร้อน-นอนหนาวเยอะขึ้นทุกวันครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จ่าเฉย วันที่ตอบ 2010-03-09 10:58:58 IP : 58.136.202.67


ความคิดเห็นที่ 7 (3160072)
avatar
..ลุงสม..

 

 

..........ทานอาหารอร่อยๆ ในสวนสัตว์ ชมพระที่นั่งอนันตฯ........

.........ฟังเสียงสรรพสัตว์ ในเขาดิน กู่ร้องบอกข่าวสารต่อกัน.......

.........ก็เสพสุข ได้อีกวันแล้ว..................

........เฮ้ออออออออออออ

.......สุขจัง

........

ผู้แสดงความคิดเห็น ..ลุงสม.. วันที่ตอบ 2010-03-05 20:19:32 IP : 183.89.57.36


ความคิดเห็นที่ 6 (3159989)
avatar
พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ

จะเห็นได้ว่าผมแนะนำเพียงแค่ไม่เสพข่าวสารที่ไม่มีการกรอง  หรือเสพแล้วตรองก่อนเชื่อ  แต่ผมไม่ได้บอกว่าให้เพิกเฉยต่อบ้านเมือง  การช่วยกันรักษาบ้านเมือง  กับการเกาะติดข่าวสารนั้นต่างกันมาก  เพราะข่าวสารที่เราเห็นเราเสพนั้น  ใครจะบอกได้ว่าข่าวใดจริงข่าวใดเท็จ หรือข่าวใดมีผลประโยชน์ของใครแอบแฝง  ผมรักบ้านเมือง  ผมไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนมาทำลายหรือทำร้ายบ้านเมือง  คนที่ฟังรายการวิทยุซึ่งผมจัดจะรู้ดีว่า  ผมไม่มีฝ่าย  ผมไม่มีพวก  ผมโดนทั้งสองฝ่ายสามฝ่ายด่าผมตลอด  แต่ผมไม่สน  ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นรัฐบาล  ต่างก็อยากให้รายการผมหายไปทั้งนั้น  ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นรัฐบาล   รายการของผมก็อยู่ยากทั้งนั้น  สิ่งที่ผมแนะนำคือ  เสพข่าวสารช้าๆลงหน่อย  เหมือนกับแนะนำว่าให้เคี้ยวข้าวช้าๆก่อนกลืน  จะได้รสชาติของอาหารเต็มที่  อาหารย่อยง่ายท้องไม่อืดไงครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ วันที่ตอบ 2010-03-05 15:53:49 IP : 125.25.98.159


ความคิดเห็นที่ 5 (3159737)
avatar
อุบาสก

 

"ความสุขยิ่งกว่าความสงบเป็นไม่มี"

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อุบาสก วันที่ตอบ 2010-03-04 18:11:38 IP : 61.90.7.243


ความคิดเห็นที่ 4 (3159659)
avatar
จ่าเฉย

อาจารย์ครับ แล้วความรับผิดชอบ ชั่วดีต่อบ้านเมืองล่ะครับ

แล้วเราๆที่เฉยเมยต่อสิ่งที่เลวร้าย ที่จะเกิดขึ้น ต่อบ้านต่อเมืองล่ะครับ

บ้านนี้เมืองนี้ จะเดินไปอย่างไร คนผิดยังแหกปากจะเผาบ้านล้างเมือง

ก็แค่บ่นให้ฟังครับ แค่บ่นจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น จ่าเฉย วันที่ตอบ 2010-03-04 13:54:08 IP : 58.136.202.205


ความคิดเห็นที่ 3 (3159072)
avatar
วี

ปัจจุบันทำอะไรต้องแข่งขัน โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อะไรที่ได้มาจะต้องจ่ายเป็นเงินทั้งนั้น  ทุกวันต้องหาเงินตัวเป็นเกลียว บางครั้งไม่รู้ว่าความสุขมันอยู่ตรงไหน  กลับมาบ้านหากใครมีสามีภรรยาดี ลูกไม่เกเรก็ชื่นใจหน่อย  เรื่องของเรื่องคือเราต้องยอมรับมันว่าเป็นเรื่องปกติในการดำเนินชีวิตของเรา  เรามีทุกข์มากอยู่แล้ว  อย่าไปคิดปรุงแต่งให้มากคิดไปก็เป็นโทษกับตัวเองครับ   หลักการดำเนินชีวิตของผมที่ผมทำแล้วไม่รู้สึกว่าทุข์มากกว่าเดิมคือ

  1.  เสพข่าสารให้น้อยลง  ดูหนังดูละครให้มากขึ้น  ข่าวพวกการเมืองอ่านดูให้น้อยลงหน่อย

  2.  อันนี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ  ให้มีสติรู้ทันอาการของใจ   คืออะไรที่ผ่านเข้ามาก็ให้สักแต่รู้เท่านั้น เช่นเราโกรธ ก็ให้รีบให้รู้สึกตัวว่าเรากำลังโกรธแล้วก็ละไปเสียอย่าไปยึดมาไว้ ถ้าเรายึดมันไว้ หรือปรุงแต่งต่อไปจะกลายเป็นคสามอาฆาตพยาบาตไป  เรานั่นแหละจะทุกข์ หรือเราสุขหรือรู้สึกพอใจก็อย่าไปยึดไว้  ถ้าเรายึดไว้ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นอีกจะเกิดการเปรียบเทียบถ้าได้ไม่เหมือนเดิมหรือได้ไม่เท่าเิดิมก็จะเกิดทุกข์  เป็นต้น

  3.  อย่าวิตกกังวลกันเรื่่องที่ยังไม่เกิด  คนเรามักวิตกกังวนกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น  ผมว่า  เรื่องที่เราวิตกกังวลเกิดขึ้นจริงๆ กับเราไม่เกินร้อยละ 1 เท่านั้น  นอกนั้นเราคิดปรุงแต่งไปเอง

   4  ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง  เขาทำอะไรที่ชัว ไม่ดีใ  ก็เฉยเสียบ้าง  เขาทำไม่ดีกรรมก็เป็นของเขาเอง  บางที กรรมของเขาเราไปยุ่งก็จะเป็นกรรมของเรา

    5 พยายามทำปัจจุบันให้มีความสุขมากเท่าที่จะเป็นไปได้    ทุกสัปดาห์ต้องมีกิจกรรมกับครับครัวมีตังหน่อยก็ไปเที่ยว เงินน้อยก็เที่ยวใกล้  ไม่มีค่น้ำมัน ก็ทำกับข้าวกินกันในครอบครัวรวมญาติพ่อแม่พี่น้อง  พ่อแม่สำคัญมาก  ถ้าแยกครอบครัวออกมาแล้ว ก็หมั่นไปเยี่ยมหรือหาอะไรไปฝากท่านบ่อยๆแล้วอย่าลืมพากลูกๆ ไปด้วยละ   ท่านจะมีความสุขแล้วเราจะมีความสุขขึ้นอีกมาก  ต่อไปเราแก่ลูกหลานจะได้มาหาเราบ้าง

ที่ว่ามาใช่ว่าผมจะทำได้หมดนะครับ  แต่พยายามทำเท่าที่ทำได้ครับ  ถ้าท่านใดจะเอาไปทำตามแล้วมีความสุขก็ขออนุโมทนาด้วยครับ   

ผู้แสดงความคิดเห็น วี วันที่ตอบ 2010-03-02 14:04:39 IP : 125.26.231.188


ความคิดเห็นที่ 2 (3158990)
avatar
โรบินฮู้ด

เมื่อก่อนผมอ่านข่าวทุกข่าวอย่างละเอียด  บางข่าวอ่านแล้วทำให้วิตกกังวลและเครียดไปกับมัน จริงอย่างอาจารย์ว่าเมื่อเวลาผ่านไปมามองย้อนหลังจึงคิดได้ว่าบางครั้งเราควรปล่อยวางบ้าง  ระยะหลังบางวันเห็นพาดหัวข่าวเครียดๆผมจะเปิดผ่านอ่านแต่ข่าวบันเทิง สันทนาการ สุขภาพ  ท่องเที่ยวฯ ไปเลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โรบินฮู้ด วันที่ตอบ 2010-03-02 09:15:44 IP : 118.174.49.93


ความคิดเห็นที่ 1 (3158904)
avatar
อาซิง

เอ...ผมชอบดูนะครับข่าว โดยเฉพาะข่าวการเมืองแล้วก็ดูหมดทั้งเหลืองทั้งแดง แต่ผมดูแบบจบตรงนั้นไม่เอามาคิดต่อ เข้าทำนองดูแบบฟังเขาด่ากันเล่นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เอ็งแย่อย่างนั้น ข้าดีอย่างนี้ เออ...ฟังเขาด่ากันเล่นก็สนุกดีเหมือนกันนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาซิง วันที่ตอบ 2010-03-01 22:33:41 IP : 119.31.46.172



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.