ตามความเห็นที่ 1 เลยครับ เปลี่ยนถ่ายของเหลวบ่อยยิ่งดี ไม่คิกดาวบ่อยๆ ขับไปตมรอบเรื่อยๆ แค่นี้ก็ใช้ยาวเลยครับ

ขับรถเกียร์ออโต นิสสันซันนี่ได้13ปีแล้ว ปัจจุบันเกียร์ยังทำงานปกติ เวลาติดไฟแดงถ้ามีเวลาบอกยิ่งดี โยกไป N เลยครับ ผลดี

- ผ่อนคลายอริยาบถ ไม่เมื่อยขา - มีเวลาดืมน้ำชากาแฟ ปรับแต่งเครื่องเสียง ถ้าคุณยังอยู่ที่ D ต้องระวังรถจะไปสะกิดตูดคันข้างหน้า

เวลาเหลือประมาณ 10-15 วินาที ก่อนไฟเขียว โยกไป D เตรียมออกรถได้

ในหนังสือ "รู้เรื่องรถกับพัฒนเดช"  ปรมาจารย์พัฒนเดช ได้บอกไว้ว่า เกียร์D แล้วเหยียบเบรคไม่ควรนานเกิน 3 นาที เพราะนานเกินกว่านั้นแรงต้านจะทำให้น้ำมันเกียร์ร้อนเร็ว สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเกินความจำเป็น

ผมว่ามันอยู่ที่คนขับชอบแบบไหนมากกว่าครับ มันไมใครถูกใครผิดหรอกครับ ผมว่าการออกแบบเกียร์ออโต้มาในยุคต้นๆ ก็เพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย เหมือนวิทยุเทป ออโต้รีเวอร์ส รุ่นแรกๆ นั่นแหละ จะได้ให้มันกลับด้านเองไม่ต้องกดออกมาเปลี่ยนหน้า  ผมว่าเจ้าคนคคิดเกียร์ออโต้คนแรกๆ มันก็คงคิดเหมือนๆกันว่า ก็ใส่มันเดินหน้าอันเดียวนี่แหละ ไม่ต้องมาคอยเปลี่ยนเกียร์ให้ยุ่งยาก ติดไฟแดงก็เท้าก็เหยียบเบรคไว้ก็ได้ถ้าไม่เมื่อย  ถ้าเมื่อยก็ปลดออก นานาจิตตัง ต่างคนต่างชอบ  ที่ผมเห็นชอบเถียงกันว่ามันพังเร็วกว่าสึกหรอเร็วกว่า  มันจะต่างกันซักกี่มากน้อยเชียวครับ  ก็อย่างที่หลายๆคนเขียนนั่นแหละครับ ห่วงเรื่องการดูแลบำรุง เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน ไส้กรองตามระยะ ผมว่าอันนี้มันน่าจะเป็นสาระสำคัญมากกว่า มาเถียงกันเรื่องหยุมหยิมเช่นเหยียบเบรค ไม่เหยียบเบรคมากกว่าอ่ะครับ

คุณ deep_samui ตอบได้ถูกใจผมจัง 555

ในฐานะมือใหม่ขับรถได้ ผมได้ลองขับเกียร์ออโต้ อีซูซุ ไฮแลนเดอร์ 3000 ของน้องที่ทำงาน ก็เผลอไปเหยียบเบรค เพราะนึกว่าเป็นคลัทซ์ จนเจ้าของรถที่นั่งข้างๆ หัวทิ่ม และบอกให้จอดเปลี่ยนมาขับแทนโดยทันที อิอิอิ

ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ ในฐานะที่เคยขับรถเกียร์ออโต้เพียงครั้งเดียวในชีวิต และเผลอเหยียบเบรคที่นึกว่าคลัทซ์จนหัวทิ่มสะหลายรอบ ผมคิดว่าน่าจะใช้แบบเมื่อติดไฟแดงไม่ว่าจะช้าเร็วแค่ไหน ควรเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ว่าง จะคาเกียร์ D แล้วเหยียบเบรคโชว์ไฟเบรคให้เปลืองค่าไฟทำไม 55 ไม่น่าจะเป็นวิธีที่ดี คิดเอาเป็นพื้นฐานง่ายๆแบบขับรถเป็น เมื่อจะเดินหน้าก็เข้าเกียร์เดินหน้า เมื่อจะถอยหลังก็เข้าเกียร์ถอยหลัง เมื่อจอดก็ใช้เกียร์ว่าง ดับเครื่องจอดก็ใช้เบรคมือสะหน่อย ถ้าเผื่อรถมันเลื่อนไหลไปเพราะระดับถนนไม่เรียบหรือไม่เกะกะนักเลงที่ไหน หรือไปขวางรูเข้าออกของใคร ไม่ต้องกลัวใครเข็นไปขาย 55  จากความคิดของผู้ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านนี้ที่น้อยนิดมากๆจนไม่มีหน่วยวัดใดๆมาวัดได้ เอ่อแต่เงินช่วยน้ำท่วม 5000 บ.นะช้าจังตรวจสอบกันจังนะกับชาวบ้าน ทีโครงการแสนล้านหมื่นล้านเห็นผ่านกันพรึบๆ ถูกครับนายใช่ครับผม แล้วห่อวุ้นเส้น,ข้าวสารที่แจกละจะกินยังไง ไฟก็ดับน้ำก็ท่วม ไม่เหลืออะไรแล้วจะทำการใดได้ละฮึ  มีแต่เลขบัญชีฝากประจำช่วยโอนให้หน่อยได้ไหม 55 แย่จังเขาให้แล้วก็บ่นอีก เฮ้อ ไปละนะโชคดีมีเงินใช้ อย่าจนอย่าเจ็บ ไม่มีหนี้ ไม่มีโรค อิอิ

มันเป็นความรู้สึกเดียวกับเกียร์ธรรมดา จะใส่เกียร์ไว้แล้วเหยียบคลัชเหยียบเบรค ถ้านานก็เหมื่อย หรือจะใส่เกียร์ว่างยกเบรคมือ สบายกว่ากันเยอะเลย เลือกเอาตามที่เราถนัด

ผมใช้วิธีตามฤกษ์สะดวกครับ อยากเปลี่ยนเป็น n ก็เปลี่ยน อยากให้เป็น D ก็ไม่ต้องเปลี่ยน เพียงแต่ว่าเวลาติดไฟแดงแล้วเห็นตัวเลขนับถอยหลังนานเกินก็เปลี่ยนเป็น N แต่ที่เปลี่ยนไม่ใช่เพราะช่างหรือผู้รู้แนะนำ แต่เหยียบเบรคนานๆ แล้วเมือยขาต่างหาก ผ่านไป 7 ปี วิ่งมา 2.7 แสนโลแล้วก็ไม่เกียร์มันจะเสียตรงไหน ผมว่าปัญหามันอยู่ที่การบำรุงรักษาและเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ต่างหากครับ ยิ่งใช้ในกรุงเทพผมเปลี่ยนปีละครั้ง โดยไม่สนใจว่ารถจะวิ่งถึง 2 หมื่นโลตามระยะหรือไม่ ขืนเชื่อช่างละก้อ ไม่ต้องขับรถกัน เพราะช่างยังตอบไม่เหมือนกันเลย (ไม่ใช่ดูถูกช่างนะครับแต่มันคือความจริง) ขอให้สนุกกับเกียร์ออโต้นะครับ