คุณ mon ตอบมา ผมยกนิ้วให้ครับ เห็นด้วยทุกอย่างเลย ผมเองก็รักพี่เสียดายน้องจนเวียนเศียร จะเทครัวก็ไม่มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยา

คิดให้เหมือนผู้ใหญ่สอนก่อนเลือกคู่ครองครับ ก่อนแต่งลืมตาทั้งสองข้าง ชอบคันไหนก็ดูและหาข้อเสียให้ครบทุกอย่าง ถามตัวเองว่ารับได้และยังชอบอยู่ ก็เลือกเลย และแต่งเล้วก็หลับตาลงข้างนึงแล้วดูแลกันให้เต็มที่ ทีนี้ก็ก็จะอยู่กันได้นาน ถือเพลาขับยอดทองเทอร์โบยอดเพชร ลูกหลานเต็มเมืองได้เลยครับ อิอิ 

อ้อ โดยส่วนตัวผมว่าหน้าตา city รุ่นนี้โดนครับ ไม่เหมือนรุ่นก่อนๆ ....เช๊ย เชย อิอิ

ถ้าการซื้อรถคันหนึ่งมันถูกต้องกับความต้องการและลักษณะการใช้งานของผู้ซื้อ รถคันนั้นก็จะมีแต่ข้อดี แต่ตรงกันข้าม ถ้าซื้อมาแล้วมันตอบสนองได้ไม่ดี อาจเพราะใช้เวลาพิจารณาน้อยหรือไม่ลองขับก่อนซื้อ รถคันไหนๆก็จะมีแต่ข้อเสียครับ เอาความต้องการของเราเป็นตัวตั้งครับแล้วค้นหาให้เจอ ไม่มีรถยี่ห้อไหนดีทุกอย่าง และไม่มียี่ห้อไหนแย่ทุกอย่างเช่นกัน

ได้ทดลองขับดูการเปลี่ยนเกียร์จาก1ไป2 ค่อนข้างกระตุกแรงมากกว่า วีออส ครับ..

ข้อดี รูปทรง สวย โฉบเฉี่ยว ดูล้ำยุคเกินหน้าเกินตายี่ห้ออื่นๆมาก แม้ตัวรถจะเล็กแต่ภายในยังนั่งสี่คนสบายๆ พวงมาลัยเบาแรงดี แรงม้าเยอะกว่ายี่ห้ออื่นๆขนาดเดียวกัน(กว่าอีกแล้ว)  ราคาตกน้อยกว่า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ยี่ห้ออื่น 4 สปีด

ข้อด้อย  แม้จะมีแรงม้าเยอะแต่สมรรถนะด้านขับเคลื่อนดูไม่แรงเท่าไหร่

เป็นรถ City car ที่มีขนาดพอเหมาะกับการใช้งานในเมือง กิน้นำมันน้อยอยู่ที่ 10 กม/ลิตรในเมืองและประมาณ 14-16 กม/ลิตรนอกเมือง ขึ้นอยู่กับน้ำหนักเท้าของคนขับ สามารถใช้ E20 ได้ครับ ข้อดีของ City คือเป็นรถที่มีท้ายเอาไว้เก็บของซึ่งให้เป็นความส่วนตัวกับคุณ ซึ่งแตกต่างกับ Jazz ที่เน้นความเป็นสปอรต์ จุดอ่อนอของ City คือเป็นรถที่มีน้ำหนักเบา ดังนั้นถ้าจะใช้งานอย่างปลอดภัย กรุณาใช้ความเร็วที่ไม่เกิน 120 กม/ชม เพระาถ้าสูงไปมากกว่านั้น ถ้าไม่าีประสพการณ์ เวลาเจอคอสะพานจะควบคุมรถไม่อยู่และอาจจะลงไปนั่งตกปลาอยู่ข้างทางได้ครับ ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องล้อเล่นแต่เกิดมากับนักซ่ามาหลายคนแล้ว