เปรียบเทียบคุณลักษณะ
avatar
คนลังเล


เรียน อาจารย์พัฒนเดชฯ หรือคุณคนว่างฯ

ขอความกรุณาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียเรื่อง

๑.คุณลักษณะของเครื่องยนต์ดีเซล (ความทนทาน อัตราสิ้นเปลือง การซ่อมบำรุง)

๒.ระบบห้ามล้อ ระบบการทรงตัว ระบบความปลอดภัยในห้องโดยสาร

ว่าให้ใครเด่นเป็นที่หนึ่ง สอง สาม ในทุกประเด็น

เทียบระหว่าง ฟอร์จูนเน่อร์ มิวเซเว่น ปาเจโรสปอร์ต

ขอชัดๆ นะครับ เอาไว้ฟันธงตัดสินใจให้เด็ดขาดเสียที



ผู้ตั้งกระทู้ คนลังเล :: วันที่ลงประกาศ 2010-03-20 07:45:20 IP : 202.149.25.225


1

ความคิดเห็นที่ 8 (3293163)
avatar
นพเก้า

ความคิดผมนะ ผมว่า มิว เซเว่น ไม่สวย ดูหลังค่อมๆ ยังไง ก็ไม่รู้

ผู้แสดงความคิดเห็น นพเก้า วันที่ตอบ 2011-05-03 21:39:26 IP : 223.204.233.60


ความคิดเห็นที่ 7 (3291290)
avatar
หมวด มิว้

เอา คูบูต้า ดีก่า

ผู้แสดงความคิดเห็น หมวด มิว้ (thailadnmilk-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-15 19:20:26 IP : 182.232.153.240


ความคิดเห็นที่ 6 (3164259)
avatar
ลูกบอล

คุณหนุ่ม ครับ  แต่ถ้าผมเป็นคนจ่ายเงิน  ใครจะพูดยังไงผมไม่สนทั้งนั้นแหล่ะครับ  ถ้าเป็นแฟน  **ถ้าไม่ชอบ บ่นโน้นบ่นนี่ ติโน่นตินี่ นู้นเลย รถเมลล์  ไปเองเลย***  รถเรา เงินเรา ไม่เห็นต้องแคร์ใคร อีกอย่างรถคันนึงไม่ช่าย บาท 2 บาท 

 

แต่ถ้ามันเงินคนนั่งข้าง ๆ หรือช่วยกันออก  ก็อีกเรื่องนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2010-03-22 15:07:44 IP : 203.155.108.61


ความคิดเห็นที่ 5 (3164191)
avatar
หนุ่ม (navy)

ขอโทษครับ คุณคงหายลังเลแล้วนะครับ แล้วผลเป็นเช่นไรครับ เจ้าของเงิน หรือ คนขับรถ เสียงใครชนะครับ ผมสนใจติดตามตอนต่อไปจังเลย เพราะชีวิตจริงมันช่างเหมือนกันอะไรปานนั้น...ของผมซื้อรถกะบะคันแรกในชีวิต ผมชอบรุ่นนี้ ยี่ห้อนี้ แต่คนนั่งข้าง ๆ กับมีรสนิยมเป็นอย่างอื่น แต่ที่สุดก็ในเมื่อผมเป็นคนขับ ผมก็ต้องได้ตามที่ผมต้องการครับ....แต่นั่นมันแค่เริ่มต้นครับท่าน หนังม้วนนี้ไม่ยาวอย่างที่คิด..แทนที่ผมจะขับรถกินลมเคล้าเสียงเพลงเพราะ ๆ นุ่ม ๆ  กลับต้องไปฟังเสียงบ่นของหล่อน แทบจะทุกครั้งที่นั่ง...สุดท้ายทนได้ 1 ปี 11 เดือนกึ่งครับท่าน...ผมต้องขายสิ่งที่ผมชอบไป และต้อนรับเจ้าดีแมคซ์ 2.5 ไฮเลนเดอร์ 4 ประตู ที่หล่อนชอบ...ทุกอย่างจึงดีขึ้นตามลำดับขอรับท่านผู้ชม...นี่เป็นตัวอย่างของโทษของการเกิดครับ...(เกิดมีคนบ่นอยู่ข้าง ๆ คับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น หนุ่ม (navy) วันที่ตอบ 2010-03-22 12:04:49 IP : 203.130.138.66


ความคิดเห็นที่ 4 (3163874)
avatar
คนเริ่มหายลังเล

ฮ้า....คนขับรถกลับมามีเสียงอีกแล้วครับท่าน

ใช้เด็กแบกของหนัก ชัดเจนดีจริงๆ

สภาพความต้องการใช้งานประจำเป็นองค์ประกอบหลักที่ต้องคิดถึงก่อน

ทำเอาเจ้าของเงินอึ้งไปเลยครับกับเหตุผลเปรียบเทียบชัดๆ อย่างนี้

เหลือตัวเลือกเด่นชัดเจนเลยคือ มิว๗ ขับสอง กับฟอร์จูนเน่อร์ขับสอง

ขอบคุณครับ เก็บเอาไว้เป็นธงคำตอบหลักอีกครั้งหนึ่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น คนเริ่มหายลังเล วันที่ตอบ 2010-03-20 20:53:55 IP : 202.149.25.225


ความคิดเห็นที่ 3 (3163816)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

คุณคนลังเลครับ เวลาเลือกรถมันเลือกง่ายครับ ถ้าคุณใช้งานพื้นที่ราบ ไม่ขับรถเร็ว คนไม่นั่งเต็มคันตลอดเวลา ใช้เครื่อง 2.5 หรือเครื่อง 3.0 145 แรงม้าพอครับ แต่ถ้าคุณต้องบรรทุกคนเยอะ เป็นคนขับรถเร็ว ต้องการกำลังเผื่อเวลาเร่งแซงเพราะต้องวิ่งใช้งานบนถนนสองเลนตลอดเวลา ผมแนะนำให้ใช้เครื่อง 3.0 พวก 163 แรงม้าครับ เพราะถ้าคุณใช้เครื่องเล็ก แต่เอาไปใช้งานบนถนนแคบที่ต้องเร่งแซงแบบเร่งด่วนคือต้องแซงให้พ้น การเร่งแซงแบบกระทันหันจะทำให้มันกินน้ำมันมากกว่าเครื่องใหญ่เสียอีกครับ เพราะฉะนั้น เวลาเรื่องขนาดของเครื่อง ต้องดูลักษณะการใช้งานของเราควบคู่ไปด้วยครับ ไม่ใช่ใครบอกว่าใช้เครื่อง 2.5 เถอะ ประหยัดดี ลองไปกระทืบตลอดเส้นทางดูซิ 2.5 กินระเบิดเถิดเทิงแล้วจะหาว่าไม่เตือน แถมอายุการใช้งานจะลดลงด้วยเพราะเปรียบเสมือนเอาเด็กไปแบกของหนักๆ แรกๆทำได้ ต่อมารับรองได้ว่าเด็กคนนี้จะเป็นเด็กที่ไม่โตแน่นอนครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-03-20 16:21:57 IP : 61.90.40.14


ความคิดเห็นที่ 2 (3163796)
avatar
คนลังเลที่อาการเริ่มดีขี้น

 

ขออนุญาตคัดลอกเก็บไว้ต่างหากในโน้ตบุ๊คเลยครับ

สารภาพว่าความเห็นของคนในบ้านกำลังแตกแยกอย่างมาก

เสียงเจ้าของเงิน และเจ้าของชีวิตทุกคนในบ้านกำลังดังกลบเสียงอื่น

ส่วนเสียงของคนขับรถประจำบ้านมีน้ำหนักน้อยที่สุด

ยิ่งมีความเห็นของกรรมการกลางประกอบเข้าไปด้วย

เสียงเจ้าของเงินยิ่งดังขึ้นไปอีก เล่าสรุปให้ฟังประมาณว่า

"เห็นไหมชั้นบอกแล้ว แล้วพอรถมันยิ่งเก่ามันยิ่งกินน้ำมัน

เลือกเอาขับง่ายกินน้ำมันน้อยเป็นหลักไว้ก่อน เปลี่ยนรถมาคันที่สามแล้ว

กิโลนับรวมๆ กันได้น่าจะเกินห้าแสนโลแล้ว แค่คิดถัวๆ น้ำมันลิตรละสิบบาท

เท่ากับซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ ได้หลังนึงเลย

....ไม่สวย หน้าตาแบบรถกระบะก้อช่างมันเหอะ

จะไปเหยียบเร่งแซงอะไรกันหนักหนา วิ่งเกินร้อยสามสิบชั้นก้อหวาดเสียวแล้ว" 

 

ขอบคุณคุณคนว่างฯ ที่ทำให้ผมโดนซ้ำอีก (ล้อเล่นนะครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนลังเลที่อาการเริ่มดีขี้น วันที่ตอบ 2010-03-20 15:11:09 IP : 202.149.25.241


ความคิดเห็นที่ 1 (3163725)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

ในระหว่างรถสามยี่ห้อ Fortuner, Pajero Sport และ MU-7 นั้น จะต้องจัดแบ่งเป็นลำดับชั้นเพื่อที่คุณจะได้เข้าใจง่ายๆคือ 1. เครื่องยนต์ที่ไม่แรงม้าระดับ 146 แรงม้า ซึ่งได้แก่เครื่อง 2.5 Vn Turbo ของ Fortuner เครื่อง 2.5 ของ Pajero Sport ที่มีเพียง 140 แรงม้า กับเครื่อง 3.0 Ddi ที่บรรจุอยู่ใน MU-7 ตัวต่ำสุด เครื่องในกลุ่มนี้กิน้นำมันใกล้เคียงกันคือ 12-14 กม/ลิตร เพราะรถพวกนี้น้ำหนักราวๆสองตัน การเร่งแซงในเครื่องรุ่นนี้ถือว่าไม่หวือหวาอะไร จะเป็นรุ่นขับเคลื่อนสองล้อทั้งหมด  2. เครื่องระดับ 163 แรงม้า ซึ่งมีใช้อยู่ใน Fortuner ทั้งตัวขับสองและขับสี่ เครื่อง 3.2 165 แรงม้าทีใช้อยู่ใน Pajero Sport ตัวขับสี่โดยเฉพาะเท่านั้น กับเครื่อง 3.0 VGS Turbo ที่ติดตั้งอยู่ใน MU-7 ทั้งขับสองและขับสี่ ประสิทธิภาพใกล้กัน การกินน้ำมันถ้าเป็นในรุ่นขับสองจะกินอยู่ที่ 12-14 กม/ลิตร แต่พอมาเป็นรุ่นขับสี่ ทั้งของ MU-7 กับ Pajero Sprot กินอยู่ที่ 10-12 กม/ลิตร แต่ Fortuner ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาจะกินมากสุดที่ 7-9 กม/ลิตร ประสิทธิภาพของเครื่องทุกตัวใกล้เคียงกัน การบำรุงรักษา ง่ายเช่นกัน ในเรื่องระบบห้ามล้อนั้น ทั้งของ MU-7 และ Pajero Sport ทำได้ใกล้เคียงกัน แต่ของ Fortuner เนื่องจากเป็นรถสูง ฐานล้อแคบกว่าคนอื่นเขา จึงเป็นรถที่มีอาการโคลงและเวลาเบรคจะไม่ค่อยเสถียรเท่าที่ควรจะเป็น แต่เรียนตามตรงว่าระบบเบรคของทั้งสามคันนั้น พอเพียงต่อการใช้งานทั่วไป ยกเว้นแต่ว่า ผู้ที่ขับรถประเภทนี้ ส่วนใหญ่นึกว่าตัวเองกำลังขับ Ferraris เหยียบกันจนมิดคันเร่ง แซงซ้ายขวาแสดงว่าตนเองเก่ง สุดท้ายมีคนเอาหนังสือพิมพ์มาปูให้นอนอ่านทุกที เพราะคนที่ขับรถประเภทนี้ จะต้องทราบข้อจำกัดของรถที่ตนเองขับเสียก่อนว่าการทรงตัวมัไม่ดี ถ้าทรางแค่นี้ รับรองว่ารถกลุ่มนี้ตอบสนองความต้องการได้พอเพียงครับ ระหว่างสามคันใครเด่นกว่ากันนั้น มันขึ้นอยู่กับรสนิยมของเจ้าของรถครับ นาย A. อาจจะชอบ Fortuner ส่วนนาย B อาจจะชอบ Pajero Sport และ นาย C ก็อาจจะชอบ Mu7 ใครชอบอะไรเขาก็จะเชียงคันนั้นนั่นแหละครับ แต่ที่แน่ๆ หัดถามคนนั่งข้างซ้ายและด้านหลังคุณเขาด้วยว่าเธอจ๋าและลูกๆจ๋าชอบคันไหน เท่านั้นแหละครับ สุดท้าย ถ้าคุณไม่ได้มีเจตนาที่จะเอารถไปบุกลุย ขึ้นเขาเป็นประจำหรือมีถิ่นที่อยู่อยู่แถวภาคเหนือที่ต้องขึ้นเขาทุกวัน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถขับสี่ครับ เพราะระบบขับสี่นั้น ค่าดูแลรักษาสูง อัตราการสิ้นเปลืองก็สูงตามไปด้วยครับ   

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-03-20 08:09:42 IP : 58.8.75.134



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.