MU-7 Turbo vs Non- Turbo
avatar
หมอฟันมือเบา


ตั้งใจจะซื้อรถรุ่นนี้ใช้งานแบบครอบครัว ออกต่างจังหวัด นานๆครั้ง อยากทราบว่าการมี turbo กับ ไม่มี turbo แตกต่างกันมากหรือไม่ ในแง่การใช้งาน และ การดูแลรักษา และ มีข้อควรปฏิบัติที่ถูกต้องในการใช้ turbo อย่างไรบ้าง



ผู้ตั้งกระทู้ หมอฟันมือเบา :: วันที่ลงประกาศ 2010-03-18 21:55:37 IP : 58.64.123.161


1

ความคิดเห็นที่ 4 (3163792)
avatar
ออฟโรด

นอกจากหมอฟัน ...ที่ อาจารย์ กลัวแล้ว

มีหมออะไรอีกไหม ที่อาจารย์ กลัว ....เหอะ ๆ ( ไม่รู้ ใจตรงกันเปล่า )

ผู้แสดงความคิดเห็น ออฟโรด วันที่ตอบ 2010-03-20 14:56:13 IP : 124.121.48.5


ความคิดเห็นที่ 3 (3163598)
avatar
พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ

สองอาชีพที่ผมกลัวที่สุดสมัยเป็นเด็ก คือ ตำรวจ กับ หมอฟัน  พอแก่ตัวมาหนีหมอฟันไม่พ้นสักที  แต่กับตำรวจสามารถหนีไม่พบปะได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ วันที่ตอบ 2010-03-19 17:11:15 IP : 125.25.137.183


ความคิดเห็นที่ 2 (3163520)
avatar
หมอฟันมือเบา

ขอบพระคุณสำหรับคำตอบครับ ผมก็ไม่ค่อยได้ออกจากช่องปาก     เท่าไหร่เลยไม่ค่อยมีความรู้เรื่องอื่นมากนัก (เท้าหนักเป็นบางอารมณ์ครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น หมอฟันมือเบา วันที่ตอบ 2010-03-19 12:27:39 IP : 203.172.120.34


ความคิดเห็นที่ 1 (3163444)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

ใช่ครับหมอมือเบาก็จริง แต่เท้าอาจจะหนักก็เป็นได้ 5555

MU-7 ใช้เครื่องอยู่สองรุ่นคือ 3.0 ddI Turbo 146 แรงม้าที่ 3600 รอบ แรงบิด 294 นิวตั้น ที่ 1400-3400 รอบ รหัสเครื่อง 4JJ1-TC กับเครื่อง 3.0 VGS Turbo 163 แรงม้าที่ 3600 รอบ แรงบิดที่ 360 นิวตั้นที่ 1600-6200 รอบ รหัสเครื่อง 4JJ1-TCX 

ความแตกต่างระหว่างเครื่องทั้งสองตัวนั้นคือ รถคันนี้มีน้ำหนักเกือบสองตัว ถ้าต้องการรถที่อัตราการเร่งแซงที่มั่นใจได้ ไม่ต้องเสียวเวลาเร่งแซง แนะน้ำให้ใช้เครื่อง 3.0 VGS ไปเถอะ สบายใจกว่าครับ และเครื่องนี้ถือว่าเป็นเครื่องตัวที่สมบูรณ์ที่สุดของอีซูซุ อัตราการเร่งแซง เท่ากับ Fortuner 3.0 ครับ สำหรับเครื่อง 3.0 Ddi นั้น เน้นเรื่องการประหยัด แต่อัตราการเร่งแซงไม่ฉูดฉาดถึงใจนัก เวลาเร่งแซงไม่ถึงกับเสียวหรือลุ้นครับ การบริโภค 3.0 VGS กินอยู่ประมาณ 10-12 กม/ลิตร ส่วน 3.0 Ddi จะกินที่ 12-14 กม/ลิตร  เรื่อง Turbo รุ่นใหม่นั้น เป็น Turbo ที่เน้นเรื่องการลดมลพิษทางอากาศมากกว่าที่จะเน้นเรื่องอัตราเร่งแซง ดังนั้น คุณจึงไม่ต้องไปนั่งดูแลอะไรมันเลยครับ Turbo timer ก็ไม่ต้องติดเพราะถ้ามันจำเป็น เขาติดมาจากโรงงานให้คุณแล้วละครับ ข้อควรรู้เวลาใช้คือ ค่อยๆเร่งคันเร่งให้รอบไปอยู่ที่ 1500 รอบแล้วปล่อยให้เครื่องมันไล่เปลี่ยนเกียร์ไปเอง ทำแบบนี้ประหยัดน้ำมันครับ แต่ถ้าขับแบบเหยียบเช่นลากรอบขึ้นไปถึง 2000-2500 รอบ รับรองได้ กินระเบิดครับ ขับรถดีเซลต้องขับแบบส่งให้แรงเฉื่อยมันส่ง ซึ่งแตกต่างจากการขับรถเบนซินครับ     

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-03-19 06:51:58 IP : 61.90.30.102



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.