การที่ช่างคนหนึ่งบอกว่าสายหัวเทียนขาด หรือที่อีกคนบอกว่าวาล์วรั่วนั้น  ถ้าไม่ได้ตรวจสอบด้วยเครื่องมือ  ถ้าเป็นผมจะไม่เชื่อเลยทั้งสองคน  จนกว่าจะเอาเครื่องมือมาทดสอบให้ผมดู

ช่างที่บอกว่าสายหัวเทียนขาด  ควรทดสอบขั้นต้นให้คุณดูโดยดึงสายหัวเทียนออกขณะที่ติดเครื่อง  ถ้าเครื่องไม่แสดงอาการใดเลย  ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามันขาด  ต่อมาทดสอบว่ามันขาดจริงหรือไม่  ถ้าจะให้เป็นแบบช่างรุ่นใหม่เขาทำกันก็ต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่ามัลติมิเตอร์ (ไม่ใช่มิเตอร์ทั่วไป) วัดดูว่ามันขาดหรือความต้านทานเกินหรือไม่  แต่ถ้าเป็นช่างรุ่นเก่าแบบผมหรือรถคุณเป็นเครื่องคาร์บูร์ก็พอทำได้เหมือนกัน  คือใช้ไขควงแหย่ปลายสายข้างที่เสียบหัวเทียน จี้กับส่วนเครื่องยนต์ที่เป็นเหล็ก  สตาร์ทเครื่องถ้ามีไฟกระโดดก็แสดงว่าสายไม่ขาด  ถ้าไม่มีไฟกระโดด  ก็ยังอยู่ในข่ายสันนิษฐานว่าขาด แต่ก็ยังไม่ฟันธงว่าขาด เพราะต้องตรวจไปถึงฝาจานจ่ายอีก

ส่วนช่างที่บอกว่าวาล์วรั่วนั้น  ก็ต้องวัดกำลังอัดให้ผมดู  เปรียบเทียบกับตอนที่บีบน้ำมันเครื่องหยอดบนหัวลูกสูบด้วย  ถ้าค่าไม่แตกต่างกันมาก  ก็ยังอยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าวาล์วรั่ว (ยังไม่ฟันธง) ทั้งนี้วาล์วอาจจะเพียงแค่ยันก็ได้  วาล์วยันทำให้ปิดไม่สนิท  ช่างที่ดีควรทดสอบสายหัวเทียน  หัวเทียน และฝาจานจ่ายก่อนตามที่ผมบอกข้างบน   ถ้าสายหัวเทียนไม่ขาด  ฝาจานจ่ายยังดี  ค่อยมองไปที่วาล์ว  ควรปรับตั้งวาล์วให้ได้ตามสเป็ค  ดูสีน้ำมันเครื่องว่ามีน้ำมาปนหรือไม่ (บางทีประเก็นอาจจะแตกน้ำรั่วเข้ามาที่สูบหนึ่งกับสองก็ได้) นอกจากนั้นก็ตรวจท่อไอดี  สายแวคคั่มคาร์บูร์  ตลอดจนลมดูดต่างๆ ที่เชื่อมไปจากท่อไอดี  เพราะส่วนนี้ถ้ารั่วเครื่องก็สั่นสะบัดคล้ายๆ กัน  ถ้าตรวจทุกอย่างละเอียดแล้วไม่พบอะไร  ประกอบกับค่ากำลังอัดระหว่างหยอดกับไม่หยอดน้ำมันเครื่องไม่แตกต่างกันแล้ว  ก็ค่อยฟันธงว่าเป็นที่วาล์วรั่ว  ต้องเปิดฝาสูบมาทำ

ลองดูนะครับ  ที่จริงการทดสอบแบบที่ผมว่ามานี้ใช้เวลาไม่มากหรอก  แต่ถ้าเขาไม่ได้ทดสอบอะไร  เพียงแต่ดูหัวเทียนเท่านั้นแล้วฟันธงเลย  เป็นผมจะหาอู่ใหม่ครับ

ขอบคุณครับ ที่ช่วยตอบ

ไม่ต้องปวดหัวครับ เอาสูตรผมไปใช้เบื้องต้นก่อน

1 เปลี่ยนสายหัวเทียนใหม่ ปรับตั้งไฟใหม่ด้วยครับ อ้อ หัวเทียนใหม่ด้วย

2 ปรับตั้งระดับเชื้อเพลิงใหม่ ของเดิมหนาไป หัวเลยดำบางหัว เผาไหม้ไม่หมดดี แต่มันจะยากตรงรูนมหนูที่จะใหญ่เล็กแบบกะยากนิดนึงซะด้วยซิ  คือมันต้องพึ่งช่างมีฝีมือในการปรับเครื่องคาร์บูหน่อย แล้วอาการก็จะหายได้ครับ