แล้วุถ้าเป็นเครืองดีเซลติดแก๊สบ้างเป็นไงบ้าง อยากร้มาก วิ่งในเมืองมันซดน่าดุเลย

 ฟอร์ฯ 2.7 ขับ 2 ประมาณ 6 - 8 โลลิตรขึ้นกับการใช้ความเร็ว  เอาไปติด แอลพีจี ประหยัดขึ้น แต่ค่าแก๊ส พอๆกับปาเจโร่สปอร์ต 2.5 วิ่งเท่าๆ กันครับ 

  ข้อดี ของรถฟอร์จูนเนอร์เครื่องเบนซิน 2.7 ลิตร ขับ 2

- เสียงเงียบมาก

-สั่นสะเทือนน้อยมาก

-ใช้รอบเป็น ขับสนุก

- สามารถ นำไป ติดแก๊ส ได้ ทำให้ ค่าเชื้อเพลิงถูกมากๆ 1/3 จากเดิม

- การบำรุงรักษา เหมือนรถเบซินทั่วไป

พี่คนว่างและอาจารย์ได้ให้ความเห็นไปแล้ว  เป็นข้อดีของรุ่นดีเซลครับ  ส่วนผมคงให้ข้อมูลในส่วนตัวเบนซินซึ่งผมได้มีโอกาสขับตัว 2.7V ขับเคลื่อน 2 ล้อของเพื่อนฝูงมา  พบว่าเสียงเครื่องยนต์เงียบครับ  ความรู้สึกที่ขับเหมือนขับรถ SUV คันหนึ่ง ผมว่ามันใช้ได้ครับ  จะเสียก็อย่างที่พี่คนว่างพูดไว้คือเปลืองน้ำมันและถ้าคิดราคาน้ำมันด้วยแล้ว  เสียเปรียบตัวดีเซลเรื่องค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงเห็นชัดเลย

เรื่องเครื่องยนต์  ผมยังไม่ค่อยได้ยินเสียงบ่นอะไรจากผู้ใช้เท่าไร  อาจเป็นได้ที่ผู้ใช้เครื่องยนต์เบนซินมีน้อยกว่าเครื่องดีเซล  แต่ประสบการณ์ที่เคยผ่านเครื่องโบราณของโตโยต้า ตั้งแต่ 12R มาจนถึง 3Y เครื่องไม่ค่อยรวนนะครับ  ยิ่งเครื่อง 3Y นี่วิ่งระเบิดเลยครับ 

ผมสังเกตว่าผู้ซื้อตัวเบนซินมักจะติดแก๊สแอลพีจี  ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงอย่างหนึ่ง  แต่ก็ต้องแลกด้วยถังแคปซูลเข้ามาอยู่ในห้องโดยสาร  ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระน้อยลงและดูไม่สวยงามเท่าไร  แต่สิ่งที่ผมเห็นว่าสำคัญมากๆ เลยคือรถประเภทนี้จุดศูนย์ถ่วงของรถสูง  ถ้าขับแบบเก๋งเวลามาเร็วๆ แล้วเกิดหักพวงมาลัยเร็วๆ อาจเกิดอุบัติเหตุได้ครับ  ส่วนปัญหาเรื่องเบรคเผอิญผมเป็นคนขับรถไม่เร็วเลยไม่มีปัญหาครับ

คุณมาถามกับผมที่เป็นคนลำเอียงเข้าข้างดีเซล  คำตอบต่อไปนี้ของผมจึงควรรับฟังด้วยการใช้วิจารณญาณ   ผมเห็นว่าเครื่องดีเซลน่าใช้กว่า  เพราะทนกว่า  แรงบิดสูงกว่าทำให้มีแรงลากจูงและแรงไต่ทางชันมากกว่า  มีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า ครับ

เครื่องเบนซิน 2.7 ลิตร ทั้งกินและวิ่งไม่ออก กินอยู่ที่ 6-7 กม/ลิตร ส่วนเครื่อง 3.0 ดีเซลนั้น มีกำลังมากกว่าและวิ่งออกแน่นอน แต่ในรุ่นปี 07 ยังเป็นรุ่นขับสี่ตลอดเวลา ดังนั้นต้องทำใจ การสิ้นเปลืองอยู่ที่ 7-9 กม/ลิครเท่านั้นครับ เครื่องดีเซลดูแลรักษาง่ายกว่าครับ