ถ้าผมเป็นคุณปริญญามี VEGA ที่กิน 11-12 กม.ลิตร และอื่นๆ สมบูรณ์ดี ผมจะไม่เปลี่ยนรถเป็นกระบะขับสี่ครับ เสียดายอ่ะ ผมชอบ VEGA อีกอย่างที่เครื่องรุ่นเก่าๆ ได้เปรียบเครื่องใหม่ๆ ก็คือเรื่องความไม่ sensitive กับคุณภาพน้ำมันด้วยครับ

ทุกวันนี้ผมยังใช้แม่ยาย เอ๊ย กระบะแม่ยายมิตซูเฉินหลงแบบสนุกมืออยู่เลยครับ ไม่แคร์คุณภาพน้ำมัน ไม่กลัวน้ำ ไม่กลัวหลุมบ่อ กินก็ไม่ซด(เครื่อง 2.2) อัตราเร่งไม่ดีเท่าคอมมอนเรล(ไม่เห็นฝุ่น) เสียงก็ดัง แต่คันเร่งสายตอบสนองแม่นยำกว่าเยอะ ขับแบบมุดๆ ในเมืองหนุกกว่าคอมมอนเรลคันเร่งไฟฟ้าซะอีกครับ

เสียดาย VEGA อ่ะครับ .......

                       เครื่อง3.0ดีไอในเวก้าปี2002กับ3.0ดีไอในดีแม็กปี2002-2005

   โดยพื้น ฐานเป็นเครื่องแบบ เดียวกัน

              ฝนตก ขับ 4 ไม่ใช่ว่าจะดีกว่าขับ 2

 แต่ถ้าชอบ และ ระวังเป็นก็ไม่เป็นไร

           3.0 DI Turbo Auto D-MAX ถ้าขับเป็นก็ประหยัดกว่า เวก้า นิดหน่อย และเร็วปลาย 160 กม/ชม.

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ

เรื่องการดูแลรักษาเครื่อง 3.0 Di ของ Dmax นั้น ง่าย เรียกได้ว่าถ้าคุณเอารถคันนี้ไปใช้งานในประเทศเพื่อบ้านที่น้ำมันคุณภาพต่ำกว่าน้ำมันบ้านเรา สามารถใช้ได้โดยไม่มีปัญหา กลับมาก็เติมน้ำมันบ้านเราที่คุณภาพดีเท่านั้นก็จบครับ เรื่องระบบขับสี่นั้น ห้ามใช้เวลาฝนตก เกียร์ขับสี่ให้ใช้เวลาวิ่งบนถนนลูกรังที่ถนนลื่นและความเร็วจะต้องต่ำกว่า 80 กม./ฃม เท่านั้น เพราะให้สังเกตุดูว่าตอนที่จะเลี้ยว มันจะเลี้ยวได้ยากมาก ถ้าคุณเข้าระบบขับสี่วิ่งทางตรง เกิดกรณีฉุกเฉินและต้องเปลี่ยนเลนกระทันหัน รับรองเสยแน่นอนครับ ขอย้ำว่าห้ามเด็ดขาดและผมก็ไม่เข้าใจว่าใครเป็นคนสอนให้ใช้ระบบนี้เวลาฝนตก งงจริงๆกับวิธีการใช้งานของคนไทยเรา

การดูแลรักษา ความทนทานเครื่องดีไอแบบเวก้าและดีแม็กเหมือนกันไหมครับและเครื่องดีไอแบบเวก้าต้องเป็นรุ่นปี2002(ดรากอนพาวเวอร์)ลงมาหรือเปล่า ขอบคุณที่เตือนครับ เวลาผมใช้ขับ4ตอนฝนตก ผมจะใช้สำหรับทางตรงครับถ้าจะเลี้ยวหรือกลับรถผมจะปรับมาใช้ขับ2และจะเข้าขับ4ใหม่ในทางตรงที่ความเร็วต่ำ

ตัวเครื่อง 3.0 Di มีการติดตั้งระบบควบคุมมลพิษที่มากกว่าเครื่อง 3.0 ที่อยู่ในเวก้าครับ พื้นฐานเครื่องคล้ายของเดิมนั่นแหละครับ เรื่องระบบขับสี่นั้น ห้ามใช้ขับสี่ตอนฝนตก เพราะจะยิ่งทำให้การเลี้ยวยากและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ให้ใช้เฉพาะเวลาที่จะลุยเท่านั้น ระบบขับสี่ที่คุณใช้อยู่นั้น แตกต่างกับระบบขับสี่แบบ Full-time ที่ติดอยู่ในรถ CRV หรือ Fortuner เพราะระบบแบบขับสี่ถามวรมีเอาไว้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว ไม่ได้เน้นเรื่องการนำเอาไปลุยใช้งานหนักครับ ดังนั้น กรุณาใช้ให้ถูกไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตขึ้นได้ครับ สรุป ถ้าคุณใช้ขับสี่ทุกครั้งเวลาฝนตก เป็นการใช้งานที่ผิดครับ

แสดงว่าเครื่อง3.0ดีไอในเวก้าปี2002กับ3.0ดีไอในดีแม็กปี2002-2005เป็นคนละแบบเหรอครับ ผมมองกระบะขับสี่ ออโตอยู่เนื่องจากชอบเป็นการส่วนตัว คงไม่ได้ไปลุยอะไรที่ไหนและผมจะใช้ขับ4ทุกครั้งเวลาฝนตกเนื่องจากรู้สึกว่ารถเกาะกว่าเวลาใช้ขับ2 ขอบคุณครับ

เครื่อง 3.0 Di เป็นเครื่องได้รับการติดตั้งระบบควบคุมมลพิษ ซึ่งแตกต่างกับเครื่องของเวก้าที่ในยุคนั้นไม่มีการติดตั้งระบบควบคุมมลพิษแต่อย่างใด พอคุณติดตัวควุบคุมเข้าไป กำลังของเครื่องยนต์ก็ลด การสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้น จึงทำให้รถกะบะยกสูงเช่น Isuzu LS Cab 4 กินน้ำมันอยู่ที่ 12-14 กม/ลิตร พอคุณติดตั้งหลังคาเข้าไป น้ำหนักของหลังคาพร้อมแอร์และอุปกรณ์ติดตั้งเบาะญี่ปุ่นเข้าไป จะทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกราวๆ 300 กก. การสิ้นเปลืองถึงลดเหลือ 10-12 กม/ลิตรครับ เนื่องจากกฏหมายควบคุมมลพิษที่มีการควบคุมที่สูงขึ้น จึงทำให้บริษัทรถจึงต้องผลิตรถที่ลดมลพิษให้มากขึ้นกว่าเดิม ผลคือผู้ผลิตรถได้ผลิตเครื่อง Commonrail ออกมาเพราะในระบบ Commonrail นี้จะจ่ายน้ำมันที่ละเอียดมากๆจนแทบจะไม่มีน้ำมันเหลือค้างจากการเผาไหม้เลยแม้นแต่น้อย กำลังของเครื่องยนต์ก็สูงกว่าเครื่อง 3.0 Di มาก การเร่งแซงก็ดีกว่ามากครับ สวนเรื่องระบบขับสี่ที่ใช้กดปุ่มนั้น ตั้งแต่ใช้มาไม่เห็นมีปัญหาอะไร ไม่เสียง่ายอย่างที่คนคิดกัน และใช้ติดต่อกันจากรุ่น 3.0 Di เป็นรุ่นแรกมาจากถึงรุ่นปัจจุบันนี่แหละครับ

ข้อสำคัญ คุณปริญญาจะต้องพิจารณาดูด้วยว่าปัจจุบันถนนในบ้านเรานั้นมีสภาพที่ดีมากกว่าแต่ก่อนมาก ดังนั้นการใช้รถขับสี่อาจจะไม่เหมาะสมเพราะรถขับสี่การดูแลรักษามากกว่ารถขับสอง ค่าดูแลรักษาแพงกว่า เสียทีค่าซ่อมก็สูงกว่า การสิ้นเปลืองก็สูงกว่า จึงเป็นปัจจัยให้รถประเภท Hi Lander หรือกะบะสูงขับสองขายดีด้วยเหตุผลดังกล่าวครับ

ขอถามอีกข้อคือ เกียร์4ของอีซูซุแบบกดปุ่มเสียงง่ายใช่หรือไม่หรือเสียเพราะใช้ไม่ถูกวิธีครับ