ขอบคุณทุกความรู้

 พักนี้ผิดบ่อยมาก  แบบคนละความหมายเลย....ข้อสำคัญอย่าให้ตรวจน้ำกรด(เติมน้ำกลั่น)บ่อย ๆ  อย่าให้ไฟในแบตฯพร่องมากมายนัก(ใช้มากกว่าชาร์ท)  แค่นั้นก็สุดทนแล้วครับ

อ่านแล้วทำความเข้าใจ "ตรวจดูบ่อย ๆ"เท่านั้นครับ

รุ่น ns100 เป็นรุ่นแผ่นธาตุไม่เต็มอยู่แล้ว โอกาสที่จะเสื่อมไว ย่อมมีมากกว่ารุ่นแผ่นธาตุเต็มครับ
สายพานที่หย่อนก็มีผลครับ

ไฟรั่วลงกรานด์ก็มีผลครับ ยิ่งในรถใช้น้อย ยิ่งเสื่อมไว

สุดท้ายครับ หากกรณี น้ำกรดในแบตพร่อง สามารถเติม น้ำกลั่น แก้ขัดได้ แต่อย่าใช้น้ำกลั่นเติมประจำ

ควรหา พวกน้ำยามีประจุเติมแทน จะช่วยยืดอายุได้มากกว่าน้ำกลั่น มากมาย ขวดละ ยี่สิบสามสิบเท่านั้น

มีการส่งต่อความรู้แบบผิดๆว่า ต้องใช้น้ำกลั่นเติมเท่านั้น (ส่วนตัวผมคาดว่า โรงงานผลิตแบตเป็นผู้สร้างแนวคิดนี้ เพราะจะได้ขายแบตบ่อยๆ)

น้ำในแบต คือกรดครับ ไม่ใช่น้ำกลั่น ความถ่วงจำเพาะก็ไม่ได้ใกล้เคียงกัน ยิ่งเติมบ่อย แบตยิ่งเสื่อมไว
 

 น่าจะเป็นตามข้างบน..แบตฯแต่ละลูก(แบบเติมน้ำกลั่น) ผมใช้ สามสี่ยี่ห้อ ความทนทานไม่ต่างกันนัก เฉลี่ยเกิน 3 ปีทุกลูก..อย่างนิสสันเอ็กซ์เทรล ซื้อมาตั้งแต่ปี 10  ป่านนี้ก็ยังใช้ลูกเดิม  ยังไม่มีอาการอะไรให้เห็น  ข้อสำคัญอย่าให้ตรวจน้ำกรด(เติมน้ำกลั่น)บ่อย ๆ  อย่าให้ไฟในแบตฯพร่องมากมายนัก(ใช้มากกว่าชาร์ท)  แค่นั้นก็สุดทนแล้วครับ

 สายพานอย่าให้หย่อนครับ ตั้งให้ตึงพอดีครับ