เครื่อง DDi(เครื่องคอมมอนเลว) น่าจะปี 05-06 ขึ้นมานะครับ ระวังเรื่องน้ำมันเครื่องหายด้วยนะครับ(สำหรับรถที่ยังไม่ได้เข้าไปแก้ไข)ไปหาอ่านได้จากกะทู้เก่านะครับ มีหลายกะทู้เลย

ส่วนเครื่อง Di น่าจะเป็นเครื่องก่อนคอมมอนเลว หลังปี 05 ลงไป ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำมันครับ ใช้ดีเซล B5 ได้สะบายไม่มีปัญหาครับ ค่าซ่อมก็ถูกกว่าเครื่องคอมมอนเลวครับ แต่จะกินน้ำมันมากกว่านิดหน่อยครับ อิๆๆ

รถรุ่นใหม่ทุกรุ่นทุกยี่ห้อมี ECU ทุกคนนั่นแหละครับ ยกเว้นนางแต๊นที่เอาไว้บรรทุกของตามนานั่นแหละจะไม่มีครับ 5555 การที่คุณจะซื้อรถพวกนี้มาใช้ มันไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ถ้าเกิด ECU มันเสียหรือหมดอายุของมัน ก็ซื้อใหม่เปลี่ยน แล้วคุณก็สามารถใช้มันต่อไปได้อีกนาน Dmax เครื่อง 3.0 ใช้วิ่งในภาคกลางและเหนือได้อย่างสบายใจไม่มีปัญหาครับ  

เรียนพี่คนว่างวันอาทิตย์

     จากคำตอบของพี่แสดงว่า ทั้งเครื่อง 3.0 ดีไอ กับเครื่อง 3.0 ดีดีไอ ล้วนมีสมองกล (อีซียู) ใช่ไหมค๊ะ หนูก็ใช้รถยนต์ในประเทศนี่แหละค๊ะ ระหว่างภาคกลางกับทางเหนือ ตามหมอนัด กราบขอบพระคุณพี่มากน๊ะค๊ะ หรือมีท่านผู้รู้ท่านใด จะแนะนำเพิ่มเติม ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้าน๊ะค๊ะ

การสิ้นเปลืองของ 3.0 Di อยู่ที่ 10-12 กม/ลิตรโดยประมาณ ส่วนเครื่อง 3.0 Ddi กินอยู่ที่ 12-14 กม/ลิตรโดยประมาณ ข้อดีของเครื่อง 3.0 Di คือ ถ้าคุณมีความจำเป็นที่จะต้องเอาไปใช้งานในประเทศเพื่อบ้านที่ใช้น้ำมันดีเซลที่มีคุณภาพต่ำกว่าน้ำมันบ้านเรา เครื่องตัวนี้สามารถรองรับได้อย่างสบายใจครับ เครื่อง 3.0 Di มี ECU เรื่องซ่อมกล่อง ผมไม่แนะนำเพราะเท่าที่เจอมาจะใช้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ทางเลือกคือซื้อของห้างกับปัจจุบันนี้จะมีผู้นำเข้ากล่องของเครื่องตัวนี้เข้ามา แต่ราคาน่าจะใกล้เคียงกับของทางบริษัทครับ ส่วนที่คุณนุชถามว่าซื้อรุ่นไหนดี ผมคงต้องบอกว่าถ้าคุณต้องการตัวที่มีราคาต่ำหน่อย คงจะต้องแนะนำให้ไปดู Cab 4 ที่ใช้เครื่อง 3.0 Di แต่ถ้ามีเงินในกระปุกพอควร เลือก 3.0 Ddi ก็จะได้รถใหม่กว่าเจ้า 3.0 Di ครับ รถกะบะสี่ประตูเหมาะกับลักษณะงานของคุณมากครับเพราะมีพื้นที่พอเพียงในการเก็บสัมภาระของคุณแม่คุณแน่นอนครับ ข้อควรระวัง แนะนำให้ตั้งวาลว์ไอดี-ไอเสียทุก 40000 กม. เพื่อที่จะได้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สูงสุดและลดการสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงด้วยครับ