c220  elegance  1994  ใช้ valvoline 10w30   6 litre+1  c220  เติมไป  6.5  litre พอดี ค่าน้ำมันเครื่อง+ไส้กรอง 1050  บาท  เท่านั้นใช้มาได้สัก  2 ปีแล้ว หลังจากที่รถมันถึงระยะเวลา  แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นของเชลล์มี 1500-2000  แล้วแต่เกรด  ถ้าเป็น shell helix  สังเคราะห์มี ลิตรละ 495  บาท  7 ลิตรก็คำนวณดูว่าเท่าไหร่ นี่ยังไม่รวมไส้กรองอีกนะ

ผมใช้ cr-v 2003  ตั้งแต่ซื้อมาเชคตามคู่มือเท่านั้น  ส่วนน้ำมันซื้อจากข้างนอกไปเปลี่ยนเอาเอง  เพราะตัวเลือกมากกว่าของศูนย์ ซ้ำข้างนอกก็ยังถูกกว่าด้วย   น้ำมันเครื่องของฮอนด้า ฮอนด้าก็ไม่ได้ผลิตเอง ให้บริษัทฯที่ผลิตน้ำมันเครื่องผลิตให้แล้วก็แปะเป็นน้ำมันเครื่องฮอนด้า  เกรดก็มีเกรดเดียวเท่านั้น  เลือกไม่ได้ว่าต้องการเบอร์ไหนความหนืดเท่าไหร่  ของผมใช้  ezi  ซื้อมาที 20 ลิตร 1800 บาท  เติมได้ 4 คัน  เพราะน้ำมันเครื่องดีเซลกับเบนซิน ก็เป็นน้ำมันที่เรียกว่า base oil น้ำมันพื้นฐานตัวเดียวกันเพียงแต่มาแบ่งว่าตัวนี้ใช้กับรถเก๋งก็แปะสติ๊กเกอร์เข้าไปข้างกระป็องว่าใช้กับรถเก๋ง  ส่วนตัวรถกะบะก็แปะข้าไปว่าใช้กับกระบะเท่านั้นโดยสังเกตุดูว่าน้ำมันเครื่องรถกระบะจะแพงกว่าเบ็นซินถ้าเทียบลิตรต่อลิตร เพราะดีเซลเขาเพิ่มสารปรุงแต่งคุณภาพ เช่นสารชะล้างเขม่าในเครื่องยนต์  ซึ่งเบ็นซินไม่มี   การเผาไหม้ของเบ็นซินดีกว่าเครื่องดีเซลจึงไม่จำเป็นต้องใส่สารชะล้างเข้าไป  รถเก๋งสามารถใช้น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องดีเซลได้แต่ต้องเป็นรถที่มีอายุการใช้งาน 10 ปี ขึ้นไป

ตามคู่มือระบุไว้ ดีที่สุดครับ และ เปลี่ยนที่ศูนย์ฯเพื่อไม่ผิดเงื่อนไขการรับประกัน...ไง..?

และในคู่มือยังมีเรื่องดีๆ+ควรรู้อีกเยอะเลย

โชคดีครับ....

ควรพิจารณาซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ด้วยนะครับ เพราะน้ำมันเครื่องปลอมมีเยอะครับ ไม่ใช่เฉพาะ mobile1. นะครับ และก่อนนำไปใช้ถามใจศูนย์เขาดูก่อนนะครับว่าเต็มใจให้หิ้วน้ำมันเครื่องไปเองหรือไม่ และของแพงๆอย่างนี้เป็นไปได้เวลาเปลี่ยนยืนดูเลยครับ ยกเว้นคุณมั่นใจในผู้ให้บริการ

ไม่สามารถบอกได้ว่าน้ำมันเครื่องที่ติดมาจากโรงงานนั้นจะเป็นเกรดและคุณภาพอะไร แต่ถ้าเมื่อครบ 1000 กม. แล้ว คุณอยากจะเปลี่ยนไปใช้ Mobil 1 ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ สามารถทำได้ครับ ขอให้เปลี่ยนไส้กรองด้วยครับ แนะนำว่าเปลี่ยนที่ 5000 กม. แรกคือใช้น้ำมันเครื่องที่เขาให้มาให้คุ้ม แล้วเปลี่ยนพร้อมไส้กรองไปเลยครับ