เบรค ABS สำคัญไฉน
avatar
ดาว


คือว่าไปจองมาร์ชรุ่น E CVT ไม่มี ABS  ถ้าเอา ABS ก็ต้องเพิ่ม 3 หมื่นบาท อยากทราบประโยชน์และการทำงานของ ABS ด้วยค่ะ มันปลอดภัยและคุ้มค่าเงินไหมคะ



ผู้ตั้งกระทู้ ดาว :: วันที่ลงประกาศ 2010-06-23 15:48:40 IP : 58.137.117.84


1

ความคิดเห็นที่ 6 (3279558)
avatar
เจ้าของมาร์ช รุ่นV

ของเรารูสึกว่า ได้ใช้ABS บ่อยง่ะ  เพราะขับรถไม่ค่อยเก่ง  เบรคกะทันหันตลอด  ไม่งั้นก็มีมอไซต์มาปาดหน้า บ้าง เลยต้องเบรคเพราะกลัวชนมันอ่ะน่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าของมาร์ช รุ่นV วันที่ตอบ 2011-01-07 13:03:47 IP : 118.172.21.27


ความคิดเห็นที่ 5 (3193205)
avatar
หนุ่ม

             ขอตอบ แทน อาจารย์ซักวัน ( ยังไม่ได้ขออนุญาติ)

  ไปซื้อรถ แล้วไมเอา ABS. และ แอร์แบ็ค ลด ราคาให้ซัก 6-7 หมื่นได้ไหม  จะได้รีบจองเลย

 หมายเหตุ ไม่เกี่ยวกับข้อกำหนด เฉพราะ ที่  บังคับให้รถบางรุ่นต้องมี อุปกรณ์นี้

    ทุกวันนี้รถที่วิ่งอยู่บนถนนเกินครึ่ง ไม่มี ABS.  และที่มี ABS. เกินครึ่งก็ไม่เคยได้ให้มันทำงาน รอไฟขึ้นโชว์ แล้วนำเข้าศูนย์อย่างเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น หนุ่ม วันที่ตอบ 2010-06-25 14:44:34 IP : 203.151.15.246


ความคิดเห็นที่ 4 (3193105)
avatar
จขกท

ขอบคุณมากเลยค่ะ ละเอียดจริงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จขกท วันที่ตอบ 2010-06-25 00:01:30 IP : 125.24.246.183


ความคิดเห็นที่ 3 (3192938)
avatar
มนุษย์เงินเดือน

- ขอเสริมเรื่อง ABS อีกนิดนะครับ ลอกเขามาอีกที

ABS : ความปลอดภัยที่ต้องเรียนรู้

    รถยนต์ทุกคันล้วนมีระบบเบรกพื้นฐานแต่การเบรกกระทันหันอย่างรุนแรง หรือบนเส้นทางลื่นยังเสี่ยงต่อการเกิดอาการล้อล็อก ABS จึง
ถูกเสริมเข้า มา เพื่อลดความเสี่ยงนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ล้วนมีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเบรกพื้นฐานอยู่ตลอด เพื่อการหยุดการขับ
เคลื่อนจากเครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่ไม่เคยหยุดนิ่งใน การพัฒนา เพิ่มแรงม้าอย่างสมบูรณ์ที่สุด เช่น ดิสก์เบรกที่ระบายความร้อนได้ดี ผ้า
เบรกเนื้อเยี่ยม และอีกสารพัดแนวทาง ไม่ว่าจะมีการพัฒนาระบบเบรกพื้นฐานให้เหนือชั้นขึ้นเพียงใด ก็ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง ที่เสี่ยงต่อการ
เกิดอุบัติเหตุ คือ เบรกแล้วเกิดอาการล้อล็อก-หยุดหมุน ในขณะที่ตัวรถยนต์ ยังพยายามเคลื่อนที่อยู่ เช่น เมื่อมีการเบรกกระทันหันอย่าง
รวดเร็ว รุนแรง หรือการเบรก บนเส้นทางลื่น เมื่อล้อล็อกก็จะส่งผลให้พวงมาลัยไม่สามารถควบคุมทิศทาง ได้ตามปกติหรือรถยนต์ปัดเป๋
-หมุนคว้างได้ แม้ผู้ขับมือดี จะมีแนวทางแก้ไขด้วยตัวเองโดยการตั้งสติกดเบรกหนักแต่พอประมาณ แล้วปล่อยออกมาเพื่อย้ำซ้ำ ๆ ถี่ ๆ ไม่กดแช่ เพื่อไม่ให้ล้อล็อก แต่ในการขับจริงทำได้ยาก เพราะอาจขาดการตั้งสติ คิดไม่ทัน หรือย้ำได้แต่ไม่ถี่พอ


สถานการณ์ใดบ้าง ที่ต้องการABS

    ในประเทศที่มีหิมะตก หรือพื้นเส้นทางเคลือบไปด้วยน้ำแข็ง เอบีเอสมีโอกาสได้ทำงานบ่อย แต่ในประเทศแถบร้อนทั่วไป เอบีเอสก็มี
โอกาส ได้ทำงานพอสมควร เช่น การเบรก บนถนนเรียบ แต่เปียกไปด้วยน้ำ ทางโค้งฝุ่นทราย รวมถึงถนนเรียบแห้งสะอาด แต่มีการเบรก
กะทันหันอย่างรวด เร็วรุนแรง โดยไม่ค่อยมีใครมองถึงประโยชน์ของเอบีเอส ในการเบรกขณะที่แต่ละล้อสัมผัสผิวเส้นทางที่มีความลื่อนต่าง
กัน เช่น การหลบลงไหล่ทาง แค่ 2 ล้อ ซึ่งมี 2 ล้อด้านขวาอยู่บนถนนฝืดแต่อีก 2 ล้อด้านซ้ายอยู่บนไหล่ทางผิวกรวดทราย ถ้าเบรกแรง ๆ แล้วรถยนต์อาจหมุนคว้างได้ หากนึกภาพการเบรกเมื่อแต่ละล้อสัมผัสผิวเส้นทางที่ลื่นต่างกันไม่ออกมี ตัวอย่างชัดเจน จากการทดสอบ
รถยนต์ในต่างประเทศ ในสนามทดสอบมีการปูกระเบื้องผิวลื่นมาก เป็นแถบยาว แทรกไว้บนด้านหนึ่งของผิวคอนกรีตหรือยางมะตอยที่มี
ความฝืดตามปกติ แล้วมีการฉีดพรมน้ำตลอด เริ่มจากการขับรถยนต์ที่ไม่มีเอบีเอส ให้ 2 ล้อในซีกซ้ายแล่นบน ผิวถนนปกติ และอีก 2 ล้อ
ซีกขวาแล่นบนกระเบื้องเปียก เมื่อกดเบรกอย่างแรง รถยนต์ จะหมุนคว้างในทันที เพราะ 2 ล้อที่อยู่บนกระเบื้องเปียกจะหยุดหมุนล็อกอย่าง
รวดเร็ว แล้วเมื่อทดสอบด้วรถยนต์ที่มีเอบีเอส ก็สามารถเบรกได้ในขณะที่รถยนต์ยังตรงเส้นทางอยู่ ส่วนบนเส้นทางวิบาก เช่น ลูกรัง ฝุ่น
ทราย เอบีเอสช่วยได้ดีเมื่อต้องเบรกแรง ๆ หรือกระทันหัน



เปรียบเทียบลักษณะการทำงานของเอบีเอส และระยะในการเบรกให้เข้าใจง่าย ๆ คือ คนใส่รองเท้าพื้นยางเรียบถ้าวิ่งเร็วๆ บนคอนกรีต
แล้วมี 2 วิธีในการหยุด คือ

              1. เสมือนไม่มีเอบีเอส หยุดซอยเท้าในทันทีพื้นรองเท้าก็จะครูดไปกับคอนกรีตไม่ไกล แล้วหยุดสนิทกับ
              2. กระทำเสมือนมีเอบีเอส ค่อย ๆ ลดความเร็วในการซอยเท้า ก่อนที่จะหยุดสนิท แม้พื้นรองเท้าจะไม่ครูดไปกับคอนกรีตแต่ก็จะ
ไม่ได้ ระยะหยุดสั้นกว่าการหยุดแบบ หยุดซอยเท้าในทันทีแล้วปล่อยให้ครูด หากวิ่งบนลานน้ำแข็ง แล้วใช้ 2 วิธีในการหยุด เหมือนเดิม คือ
              3. เสมือนไม่มีเอบีเอส หยุดซอยเท้าในทันที พื้นรองเท้าก็จะครูดไปกับผิวน้ำแข็ง มีระยะทางไกล กว่าจะหยุดสนิททั้งยังลื่นไถล
ปัดเป๋ไร้ทิศทางกับ
              4. การทำเสมือนมีเอบีเอส ค่อย ๆ ลดความเร็วในการซอยเท้าลงช้า ๆ ก่อนที่จะหยุดสนิท พื้นรองเท้าจะไม่ครูดไปกับผิวน้ำแข็ง ไม่ลื่นไถลและไม่ปัดเป๋ แล้วก็จะได้ระยะหยุดสั้นกว่าการหยุดแบบหยุดซอยเท้าในทันที


ระบบ และชิ้นส่วน

    เอบีเอสมีพื้นฐานการทำงานหลักจากการทำงานของ 3 หน่วยหลัก (แต่มีเกิน 3 ชิ้นในรถยนต์ 1 คัน) คือ ใช้หน่วยควบคุมแรงดันน้ำมัน
เบรก (หน่วยควบคุมไฮดรอลิก HYDRAULIC CONTROL UNIT) เฉพาะเมื่อมีการเบรกในสถานการณ์ข้างต้น โดยติดตั้งแทรกอยู่ระหว่าง ท่อน้ำมันเบรกหลังออกจากแม่ปั๊มเบรกตัวบนก่อนส่งเข้าสู่กระบอกเบรกทั้ง 4 ล้อ แทนที่จะปล่อยให้น้ำมันเบรกส่งแรงดันไปเต็มที่เมื่อมีการ
เบรกอย่าง รุนแรง-กะทันหัน โดยจะสลับทั้งเพิ่มและลดแรงดันน้ำมันเบรกสลับกันถี่ ๆ ด้วยการควบคุมและสั่งงานจาก หน่วยควบคุมอิเล็ก
ทรอนิกส์ (ELECTRONIC CONTROL UNIT) ซึ่งรับสัญญาณ มาประมวลผลจาก เซ็นเซอร์ (PULSE SENSOR) บริเวณแกนล้อ หรือ
เพลากลาง ซึ่งทำหน้าที่จับการหมุนของล้อ



 เอบีเอสมีการทำงานบางส่วนตลอดการขับรถยนต์ แต่บางส่วนทำงานแค่บางครั้ง คือ มีการส่งสัญญาณเซ็นเซอร์ไปยังหน่วยควบคุม
อิเล็กทรอนิกส์ อยู่ตลอดเวลา เพื่อประมวลผลว่า ในตอนนั้นหน่วยควบคุมไฮดรอลิกควรจะมีการทำงานลด-เพิ่มแรงกันของน้ำมันเบรก สลับ
กันถี่ ๆ เพื่อคลายแรงกดของผ้าเบรกลง เพื่อป้องกันล้อล็อกหรือไม่ถ้าล้อใดๆ จะมีการล็อกหน่วยควบคุม
    ไฮดรอลิกที่รับคำสั่งจากหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ จึงจะทำงานลด-เพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก โดยระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์จะมีการ
ตรวจ สอบความผิดปกติของทั้งระบบอยู่ตลอดเวลา โดยมีการแสดงไฟสัญญาณบนแผงหน้าปัด ไฟจะสว่างขึ้นในช่วงหลังการบิดกุญแจ
ก่อนสตารต์เครื่องยนต์ในช่วงแรก และดับลงหลังจากนั้นประมาณ 5 วินาที แล้วดับตลอดการขับ ถ้าในขณะขับรถยนต์แล้วมีไฟเอบีเอส
สว่างขึ้นมา แสดงว่าในตอนนั้นมีส่วนใด ๆ ของเอบีเอสบกพร่อง แต่ส่วนใหญ่มักยังมีระบบเบรกพื้นฐานใช้งานตามปกติ ให้ใช้งานรถยนต์
ด้วยความระมัดระวังและควรนำรถยนต์เข้ารับการซ่อมแซม โดยที่การบกพร่องนั้นมีหลายระดับ มิใช่ต้องเสียหรือต้องเปลี่ยนทั้งระบบเสมอ
ไป บางครั้งแค่เซ็นเซอร์บางตัวเสียหรือสกปรก ก็เกิดปัญหาขึ้นได้


ABS ยังเสริมการทำงานของระบบอื่นได้ด้วย

    นอกจากจะป้องกันการป้องกันการล็อกของล้อยังมีผู้ผลิตรถยนต์บางรายนำไป ประยุกต์ ใช้ร่วมกับระบบอื่น เช่น แทรคชันคอนโทรล - ระบบป้องกันการหมุนฟรีของล้อ ในการออกตัวในเส้นทางลื่นหรือในทางโค้ง โดยใช้ส่วนหนึ่งของเอบีเอสร่วมในการทำงาน คือ แทรคชัน
คอนโทรลบางระบบจะ นำสัญญาณจากเซ็นเซอร์ของเอบีเอสแต่ละตัว มาร่วมในการประมวลผลในหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ของระบบ
แทรคชันคอนโทรล ว่า แม้ไม่มีการเบรก แต่ถ้ามีล้อใดหมุนเร็วกว่าล้ออีกข้างมากผิดปกติ ก็จะสั่งงานไปยัง หน่วยควบคุมไฮดรอลิกของเอบี
เอสให้มีการจับตัวของผ้า เบรกลดความเร็วในการหมุนของล้อนั้นโดยเฉพาะอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ล้อนั้นหมุนฟรีพร้อมตัดรอบการทำงาน ของเครื่องยนต์ แล้วค่อยคลายการจับเมื่อเข้าสู่สภาพปกติ เช่น เมื่อเข้าโค้งเลี้ยวซ้าย แล้วล้อด้านขวาหมุนเร็วกว่าปกติ เสี่ยงต่อการลื่น
ไถลหมุนคว้างท้ายปัด ระบบแทรคชัน คอนโทรลก็จะสั่งงานผ่านเอบีเอสเพื่อลดแรงดันน้ำมันเบรกในล้อนั้นลง พร้อมกับลดรอบ ของเครื่อง
ยนต์เพื่อไม่ให้ผ้าเบรกไหม้ เมื่อเข้าสู่สภาพปกติจึงจะตัดการทำงาน

ผู้แสดงความคิดเห็น มนุษย์เงินเดือน วันที่ตอบ 2010-06-24 11:49:51 IP : 57.59.104.181


ความคิดเห็นที่ 2 (3192899)
avatar
มนุษย์เงินเดือน

ในสภาวะการณ์ปกติขับรถไม่เร็วระบบเบรคธรรมดาเอาอยู่หมดครับ แต่ถ้าบนถนนเีปียกลืน ขับ 90 แล้วเบรคกะทันหัน(ย้ำนะครับเบรคกะทันหัน) ก็มีโอกาสลืนไถลได้ครับ  เจ้า ABS ก็จะได้ใช้ประโยชน์ก็ตรงนี้แหละครับแต่ก็ต้องรู้จักใช้ให้เป็นด้วยนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มนุษย์เงินเดือน วันที่ตอบ 2010-06-24 09:04:12 IP : 57.59.104.181,


ความคิดเห็นที่ 1 (3192685)
avatar
เด็กชายอ้วน

 

ถ้าเป็นรถเล็กขับไม่เร็ว ไม่มีความจำเป็นครับ เสียดายเงินที่จ่ายเพิ่มนะครับ อิๆๆ(ขับไม่เกิน 120 ระบบเบรคทั่วไปเอาอยู่ครับ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอ้วน วันที่ตอบ 2010-06-23 16:50:47 IP : 58.137.32.147



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.