ดีแม็กเหมาะสัมลับวัยรุ่นแค่แต่งนิดนิดหน่อยหน่อยก็แรงแล้วใช่งบไม่บานปลายเหมือนรุ่นอื่นอื่นครับ

พอคนออกมาบอกว่าใช้ฟอรค์พวกลูกทุ่งก็ออกมาบอกว่าเป็นพวกเซลขายฟอรค์

พูดง่ายๆคืนรับไม่ได้กับความจริงรบกวนไม่ดูรถที่ส่งออกดีกว่าครับอีซูซูถ้าตลาดในไทยขายไม่ดีบอกคำม้วนเสื่อกลับบ้านครับ

บอกนิดนึงครับผมไม่ใช้พวกลูกทุ่งนะ เทคโนโลยี่เครื่องยนต์เดียวนี้ไม่หนีกันแล้วครับ

 ผมใช้เรเจอร์2.2โอเพ่นแค็บอยู่ครับรถผม2ปี3เดือนนิดๆใช้ไป178045กิโลครับหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นสี่สิบห้ากิโลครับรถใช้ดีครับแต่พาเข้าเมืองอุ้ยอ้ายไปนิดนึงแต่ออกต่างจังหวัดผมบอกได้คำเดียวครับถ้าดีแมกเครื่อง3000Ccเดินๆนะครับกินผมไมได้รถใช้ดีครับและเพิ่งถอยเรเจอร์4ประตูไวแทคสีทองแดงสวยครับไม่ได้มาเชียร์ฟอรค์นะครับแต่เวลาคุณซื้อรถเดียวนี้เค้ามีให้ลองขับผมอยากให้ลองขับหลายๆยี่ห้อครับจะได้ไม่ผิดหวังเพราะรถซื้อไปแล้วต้องอยู่กับเราอีกนานครับส่วนตัวผมไม่เน้นเรื่องซื้ออง่ายขายคล่องครับเพราะไม่ว่าจะเป็นโตโยต้าหรืออิซุซูขาดทุนเท่ากันซื้อที่เราชอบดีกว่าครับ

 ผมชอบ isuzu d-max vgs z 2.5 ครับ

เห็นตามถนน มี 2 ยี่ห้อ เท่านั้น (isuzu & toyata)

ถ้าใช้ไม่ดีรถ 2 ยี่ห้อนี้คงไม่วิ่งบนท้องถนนในเยอะสุดหรอกนะครับ

ผมใช้รุ่น 2.2 XLT Double Cab 4x4 เกียร์ธรรมดามา 2 ปี 9 เดือน กับระยะทางราว 109,000 กม. ก็ไม่พบปัญหาอะไรนะครับ ทุกวันใช้รถเกิน 100 กม. กับความเร็ว 120-140 กม./ชม. เป็นส่วนใหญ่ จะมีก็แค่เคลมแผงหน้าปัดเพราะสวิตช์ไฟฉุกเฉินและจอ LCD ไม่ทำงาน ซึ่งไม่เสียเงินเพราะอยู่ในช่วงประกันก่อน 100,000 กม. ค่าใช้จ่ายครั้งแรกๆ จะถูกหน่อย เพราะฟรีค่าแรง หลังจากนั้นก็ราว 4 พันปลายๆ ทุกครั้ง ยาง Dunlop AT20 275/65R17 ที่ติดรถมาผมก็ใช้มาเกิน 100,000 กม. เพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อเดือนก่อนเองครับ เสียดายที่ไม่ทันโปรยาง Goodyear 3 แถม 1 ของศูนย์ฯ ตกเส้นละประมาณ 4,500 บาท (ผมเปลี่ยนรุ่นเดิมที่ B-Quik รุ่นเดียวกับที่ติดรถมาประมาณ 4,800 บาท) ตอนนี้เพิ่งซื้อ Package น้ำมันเครื่อง 3 ครั้ง 6,200 กว่าบาท (นำมันสังเคราะห์+ไส้กรองและแหวนรอง) ก็ประหยัดไปครั้งละ 500 กว่าบาทครับ

เรื่องศูนย์บริการผมใช้ที่ชลบุรีอยู่ก็ดีนะครับ มีการนัดหมายล่วงหน้าให้เข้า Quick Service ใช้เวลาราว 1-1.5 ชม. ในการเช็คระยะในแต่ละครั้ง

 ผมก็สนใจฟอร์ด XLT 2.2 4 ประตูอยู่น่ะครับแต่ก็หวั่นๆเรื่องศูนย์กะอะไหล่แค่นั้น  ผมซื้อมาเพื่อใช้งานไม่แน้นขายต่อพอจะมีคำแนะนำใหมครับ 2 ข้อนี้

 มาเชียร์ฟอร์ดอีกคนรับ ผมก็กำลังจะถอยเจ้าฟอร์ดนี่เหมือนกันครับ ขอบคุณสำหรับทุกๆข้อมูลครับ

ผมว่าคนส่วนใหญ่จะบอกยี่ห้อโน้นยี้ห้อนี้ สุดท้ายอิซูซุและโตโยต้า เพราะมีปัจจัยหลักๆคือ 1.ดีแม็กมีศูนย์เยอะอะไหลแยะ สวยเท่ แม้ตัวจะเล็กกว่าฟอร์ด  2. เครื่องอืดนิดแต่ไม่ถึงกับมากเพราะม้าขยันทำงานกว่ายี่ห้ออื่นๆ ปลายๆไหลได้เกิน200 แน่นอนครับ(ลองมาแล้ว) แต่ไม่ต้องห่วงเพราะบริษัทนี้เขาผลิตเครื่องยนต์ส่งทั่วโลก ปีละเป็นล้านเครื่องครับ 3.  ตลาดกว้างซื้อง่ายขายเร็วราคาไม่ตกมาก 

2. วีโก้รถตลาดแรงต้นแต่ปลายเผ่วจริงๆ  2 เบรคและช่วงล่างมีปัญหาลงคูบ่อย  ฝนตกนิดก็นอนแล้ว  

ฟอร์ด อะไหล่เสียซ่อมยกชุด ราคาสูงแต่รถขายได้ถูกมากเลิกคิดเถอะครับ ผมไม่เชียใครเพราะไม่ได้มีส่วนได้เสีย

ขอแนะนำคุณ GI. JOE ครับ... ผมทราบและลองขับรถที่มาแต่งยกสูงเองโดยศูนย์บริการนั้น ต่างจากที่ยกสูงจากโรงงานมากเพราะ

- ระบบเบรก: ยกสูงเองเปลี่ยนแค่ยางใหญ่ ไม่ได้เปลี่ยนหรือดัดแปลงระบบเบรกแน่นอน ขับแล้วเบรกไม่ค่อยอยู่

- การทรงตัว: ไม่ได้คำนวณระยะ การยุบตัวต่างๆ ให้เหมาะสมกับความสูงที่เพิ่มขึ้น

- ความปลอดภัย: ไม่น่าไว้วางใจจากกรณีข้างต้นและอื่นๆ อีกมากมาย

ฯลฯ

แต่ถ้าไม่ได้เป็นกรณีดังกล่าวก็จัดเลยครับ

ผมเองก็กำลังตัดสินใจครับ กำลังให้ความสนใจเรนเจอร์ 2.2 xlt auto เซลเขาจัดชุดแต่งครบชุดให้เป็นตัวเดียวกันกับไวด์แทร็คเลย ช่วยแนะนำด้วยครับ

 อีซุซุ ช่วงล่างสุ้เรนเจอร์ไม่ได้เลยครับส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันต้องยกให้อีซุซุระบยเครื่องยนต์ก็ไม่มีปันหา ดีทั้งคุ่ครับ

ผมใช้ D-Max Hilanner ปี2007 เครื่อง 2.5 ตอนนี้ก็ระยะเวลา 7 ปี

1 เปลี่ยนยาง 2 รอบ

2 เปลี่ยนโชค (รุ่นนี้โชคเดิมๆกินยางทำให้ยางเสีย ขับแล้วเหมือนเจอคลื่นเปลี่ยนแล้วนิ่มครับ)

3  เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตามระยะ

4 ใช้งาน ไม่มาก 160,000 กม.

5 เครื่องยนต์ เช็คแล้วกินน้ำมันเต็ทที่ 13/กม ต่อลิตร หรือเทียบเท่า 2.3บาท ต่อ กม

6 ระบบคลัช ยังเหมือนเดิม ตามศูนย์ เขาประกัน 150,000 กม เปลี่ยน แต่นี้ คิดว่าน่าจะถึง2 แสน

7 ใช้น้ำมัน เติมผสม ดีเชล+ดีเชลวีเพาเวอร์ รถวิ่งดีครับ เหยีบออกดีกว่าเติมดีเชลธรรมดา

8 วิ่งอัดเต็มที่ 155-160 กม/ชม กลัวครับ ไวมากไม่ดี แต่ วิ่ง 140กม/ชม กำลังดี ยังนิ่งครับ เบคแล้วไม่หร่อน เอาอยู่

คนรุ่นใหม่เขาว่า ฟร์อด มาแรง ดีกว่าอิชุชุ  ตัดสินใจเอานะครับ รถยนต์1 คัน มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ทั้งที่รถยนต์ ไม่เคยทำอะไรให้คน เลือกเอที่ตัวเองชอบขับแล้วมีความสุข

ถึงที่หมายปลอดภัย เป็นทางเลือกที่ดี

 ที่โตโยต้า กับ อีซูสุ เป็นรถตลาดก้อไม่น่าแปลก เพราะมีขายมานาน คนใช้มาก่อน จึงเป็นที่จดจำ ราคาขายต่อจึงดี แต่หลังๆๆมา อย่างอื่นตามมา ถ้าเทียบคุณภาพ ต้องยกให้ฟอร์ด ที่เป็นรถยี่ห้อแรกของโลก เทคโนโลยี่และประสบการณ์มีมากกว่าเยอะคับ แต่ทำออกมาขายทีหลัง แต่ที่เมืองนอกเขามีมานานแล้ว ตามความคิดผม

รถยนต์ ก็คือตัวตนของเรา  ทุกวันนี้ไม่ต่างกันมากหรอก อยู่ที่ว่าเราชอบรูปทรง หน้าตาแบบไหน  นานาจิตตัง ทดลองขับดูก่อนครับ  ถ้าใช่ ตัดสินใจเลย    

 กำลังอยากเปลี่ยนรถอยู่คับตอนนีี้ใช้ดีแมคปี06อยากลองเปลี่ยนฟอร์ดดูบ้างลองขับรถน้องดูคือมันแตกต่างกันที่เ้าเร่งเคื่องออกตัวและวิ่ง80-90เบาเครื่องแล้วเหยีบส่งมันต่างกันมากเรื่องการทรงตัวเกาะถนนเข้าโค้งไม่แตกต่างกันดีมากแต่ที่น่ากังวลคือศูนย์ของอีซูซุหายห่วงพนักงานต้อนรับดีอะไหร่เพียบถ้าซ่อมอู่อะไหร่หาง่ายแท้เทียม  แต่ของฟอร์ดนี่สิเรื่องซ่อมเรื่องอะไหร่ แต่ลองขับดูร้สึกชอบคับ

 ผม

 อยู่ที่ใครใช้ ยี่ห้อไหนบ่อยๆนานๆ ก็จะว่ายี่ห้อนั้นดีๆไม่ดี รวมๆแล้ว ผมว่ามันอยู่ที่คนขับด้วยครับ ไม่เถียงครับ สำหรับกูรู ทั้งหลาย ส่วนตัวผม เคยใช้ วีโก้ มา 2 ปี ใช้ มิซูไททันมา ครึ่งปี สุดท้ายก็ เอ็กซีรีย์at ท๊อป แค่นั้น ผมว่า ทุกยี่ห้อที่ใช้ ก็ดีหมด ปัญหาก็ไม่เจออะไรที่เหลือบ่ากว่าแรง ดีทุกยี่ห้อ อยากให้รถแรงก็ เหยียบ ให้เบาก็ผ่อนคันเร่ง เวลารถชนมา กระบะยี่ห้อไหนก็เห็นเละเหมือนกันหมด หรือ จะบรรทุก ก็เห็นบรรทุกกันได้ทุกกันได้ทุกยี่ห้อ จะนิ่ม จะแข็ง ก็อยู่ที่คนขับด้วยครับ ไม่ได้อยู่ที่รถอย่างเดียว ออกตัวแรงไม่แรง ก็อยู่ที่คุณจะเหยียบ อายุการใช้งานของรถก็ขึ้นอยู่กับคนใช้รถแระครับ จะยี่ห้อไหนๆก็ใช้ยางวนเวียนยี่ห้อคล้ายๆกันเกือบหมด ไม่รู้จักรักษาดูแลรถ ยี่ห้อไหนก็เสียไวเหมือนกัน ขอบคุณครับ(ความคิดเห็นส่วนตัว)

 ผมใช้มาทุกค่ายเเล้วครับ เพราะบริษัทจัดให้ตามตำเเหน่งเเละเปลี่ยนใหม่ให้ทุกปี

หากประเมินจากความรู้สึกในการใช้งาน ปัญหาจุกจิกที่เคยพบ ความปลอดภัยขณะขับขี่ เเละ ความสะดวกสะบายเเล้ว

เเต่ละค่ายต่างก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันบ้างเล็กๆน้อยๆ ไม่ได้ต่างกันมากนัก

เเต่ถ้าให้ผมเลือกในตอนนี้ ผมค่อนข้างพอใจ ฟอร์ด มากกว่าครับ เเต่ก็ติดอยู่ที่ศุนย์บริการที่ค่อนข้างด้อยกว่าค่ายอื่น

ใช้ฟอร์ด 2.2 ออโต้ เปลี่ยนแม็ก 20 นิ้ว คำนวณการกินน้ำมันด้วยตัวเองแล้ว ใช้ความเร็วระหว่าง 80-90 กม/ชม 14.5 กม./ลิตร  อยากเชื่อก็เชื่อ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องเชื่อครับ แล้วไม่ต้องมาถามต่อว่า คำนวณสูตรไหนเอาอะไรมาคำนวณ เดินทางจากไหนไปไหน ผมขี้เกียจพิมพ์ครับ ส่วนเรื่องรูปร่าง ช่วงล่าง เสียงเครื่องยนต์ อัตราเร่ง ฟอร์ด มาสด้ากินขาด ไปหาดูในยูทูปรายการ max tv ของช่อง ทรู วิชั่น เอาเอง

 Ford ranger ช่วงล่างกระด้าง ขับไปเหนื่อยไป ซดน้ำมันกำลังดี  แต่ผมเลือก ford ครับ ขับแล้วหล่อ ผมก้อมือใหม่ ชื้อ ford คันแลก จบเลยที่คันนี้ 

ผมว่าเราชอบคันไหนก็ออกคันั้นดีกว่าคับ     เพราะเขาไม่ได้มาคับกะเราอ่ะ ชิมิ   ส่วนรถคันแรกของผม ก็ฟอร์ดคับ ผมก็ไม่รู้ว่าอันไหนดีหรือไม่ดีเพราะผมเพิ่งมีรถคับ   ผมว่ามันยุที่การดูแลเหมือนกันคับว่าม่ะ    รถมันทำมาดีแล้ว เพียงแต่คนชอบไปแต่งมันอ่ะ  วันนี้ไม่ค่อย  ขอจบแค่นี้ก่อนคับ   บายคับ

 เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ   D max ผมว่า มันอืด    Vigo ขับเกิน120 รถส่าย    Triton เครื่องดีครับขับมันส์  Ford ขับแล้วรู้สึกแข็งแรง รถไม่เหวีี่ยง  Chev ไม่รู้ครับไม่เคยลอง 

 ขอแสดงความเห็นสักคนนะครับ ในการเลือกซื้อรถมันมีองค์ประกอบให้ตัดสินใจมากครับ เช่นความปลอดภัย ความสวยงาม ความทันสมัย ความประหยัด ความแรง ความทนทานแต่สิ่งหนึ่งที่หลายๆคนไม่ได้คำนึงถึงคือ ถ้าซื้อรถไปแล้วอะไหล่หายากหรือรอนานหรือไม่ เพราะการใช้งานมันต้องมีการชำรุดเสียหายตามระยะเวลาอยู่แล้ว แม้กระทั้งขณะซื้อรถยังรอนาน เวลาซ่อมหรือรออะไหล่ก็นานเช่นกัน ยังไม่พออะไหล่ก็ยังแพงอีก ดังนั้นในความเห็นของผมเอง ถ้าต้องการใช้รถระยะยาวเกิน 5ปีใช้รถตลาดครับอะไหล่มีให้เลือกเยอะ แต่ถ้าใช้แบบมาตรฐานคนมีเงิน พอครบ5ปีแล้วขาย ใช้ยีห้อไหนก็ได้ครับ อีกนิดครับ เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆไม่ต้องซีเรียสมากครับเพราะใช้งานจริงความเร็วมันเกินที่เขาทดสอบอยู่แล้วอันตรายทุกยี่ห้อครับ  ควรขับรถตามกฏ กติกา ปลอดภัยที่สุดครับ

 องแล้วครับ....ฟอร์ด

รถคันแรกผม D"MAX ครับ เครื่อง2500 ถ้าขับไม่เกิน 110 โอเคนะ 120 ขึ่นไป ผมว่าเสียวนะ ถ้าไม่เปี่ยนโชค ถนนจริงทุกวันนี้อันตราย หลุมเยอะต่างจังหวัครับ ถ้าพี่ ไม่ยึดติดยี่ห้อลองขับรถ คันที่ 2 ของผมมั้ย  ฟร์อด 2.2 MT -ขับครังแรกงงๆนิดหน่อย คันดีแม็ค ตัวต่ำ พอเจอยกสูงเลย งงๆ        .ขับไหม่ๆจะงงนิดหน่อย เกียร์ เข่าไม่เหมือนกัน เกียร์ฟร์อด เข้ายากกว่าครับ ซักพักก็ชินเอง พอชินแล้วผมว่าก็มันดีนะ ซื้อรถเดิมๆจากโรงงานโดยที่ไม่แต่งอะเพิ่มเติมโดยเฉพาะช่วงล่าง  เครืองเสียงกล้องผมเองไม่เน้นครับ  ผมเน้นผมพาลูกเมียไปใหนมาใหนปอดภัยเป็นพอ    เรื่องจะแรงไม่แรง .ก็ไม่เน้น แต่พอเอาเข่าจริงกายเป็นคนขับรถไว 120 130 นิ่งๆ  ตกลุมไหวครับ โช็คใหญ่ก่ารุ่นอื่นแน่นอน   ที่สัมคันนะครับ เกียร์ที่ 6 ผมรู้สึกว่ามันทำให้เครื่องเบามาก  จริงๆแล้วมันวิ่งมากกว่าที่ผมบอกมากเดี๋ยวพี่จะหาว่าผมโม้   2.2 วิ่งขนาดนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัว 3.2 จะวิ่งได้แค่ใหน มันต่างตั้ง 1000 ซีซี  ลูกสูปมากกว่า 1 ลูก     เอาให้แน่นะครับผมว่าเดินเข้าไปถามเจ้าของรถแต่ละยี่ห้อเลยครับถามหลายๆคน ทุกๆยี่ห้อที่พี่สนใจดีกว่าครับ เพราะรุ่นอื่นผมก็ไม่เคยไช้   ถ้าคิดจะเที่ยวเขาสูงๆ วิ่งไกลๆ  ฟร์อด 3.2 จบครับ   ลองดูข้อมูลตัวรถเอาเองครับ

 กำลังหาข้อมูลอยู่พอดี  ฟอร์ดเลยครับ 2.2...ชัดเจน

 ดีแมกไม่อยู่ในสายตา กากสุดๆ

 เรนเจอร์ไวแทรคหล่อสุด สมรรถนะและระบบความปลอดัย ดี่ที่สุด ขนาด โฟค อมารอค ยังเทียบไม่ได้เลย

 pvfgpujp;ditgmup,fv"9hv"avIHfgo"g0viN

  ครับ ผมได้อ่าน ทุกความคิดเห็น เป็นประโยชน์กับ ตัวผมมาก ซึ้งผมยังไม่มีรถกระบะ ใช้ อาจบอกว่า ยังไม่เคยมีรถกระบะ เป็นของตัวเองเลย และ เป็นประโยชฯืสำหรับ การเลือกใช้รถ กระบะ ในบ้านเรา ทุกค่ายครับ  สุดท้าย ตัวผมเองแหละ เป็นผู้ไป ทดลองขับ  นำไปใช้และตัดสินว่า ตัวไหน รถค่าย แบรน์ไหน เหมาะสม และ ตอบโจนย์ ทุกข้อ ของผม ได้ดีที่สุด คือ สุดยอดในรถกระบะ ดวงใจผมครับ

 ผมเอารูปลักษ์มาก่อน เน้นเรื่ิงความปลอดภัย

อะไหล่ราคาไม่ต่างกันครับ_ไม่เน้นรถตลาด

จากที่สัมผัสรถกระบะแทบจะทุกยี่ห้อนะครับ(ในสไตล์การขับของผมเอง)

1อีซูซุ ผมไม่เถียงเรื่องประหยัดน้ำมัน แต่เรื่องเครื่องยนต์ตอบสนองได้ช้ากว่ารถกระแทบทุกรุ่น(ถึงแม้จะแก้ไขการรอรอบในตัว วีครอส2013แล้วก็ตาม ช่วงล่างจะเน้นบรรทุกก็ไม่ได้เพราะ  แชท....  ที่ได้ก็แต่ความนิ่มนิดหน่อย

2นิสสัน ยกตัวอย่าง เช่น นาวาร่า ยอมรับว่านิ่มใช้ได้ เครื่องตอบสนองได้เร็ว รอบจัด แต่น้ำมันก็สิ้นเปลืองใช่ย่อย ไม่มีตัวต่ำไม่มียกสูง มาตราฐานเดียวกัน ช่วงล่างหนึบพอดู แต่บรรทุกของหนักเข้าจริงๆ แหนบเดิมๆ ตายสนิท ยิ่งภายในของนิสสันนาวาร่าถือได้ว่าออกแบบได้ล้าหลังกว่ารถกระบะทุกรุ่น ยิ่งเกียร์ถอยอยู่ใกล้เกียร์6 คนที่ฝึกขับรถใหม่จะไม่กล้าเข้าเกียร์6 เลยผมรับประกันได้

3โตโยต้า เครื่องแรง ประหยัดน้ำมันนิดหน่อย ภายในก็ยังพอดูดีในยุค2013 ช่วงล่างให้คะแนน00000  การออกแบบภายนอกใหญ่แต่บอบบางเหลือเกิน

4.มิตซูบิชิ เครื่องถือว่าโอเคเลยทีเดียว ช่วงล่างหนึบ เครื่องเบนซินติดแก๊สแอลพีจีทนมาก(ถ้าใช้ในการเดินทางตลอดนะครับถือว่าคุ้มมากกับเครื่องตัวนี้) ภายในดูมีสไตล์เป็นของตัวเอง ภายนอกตัวถังก็แล้วแต่คนชอบครับ แต่สำหรับ2013 มิตซู ไม่มีการเปลี่ยนรูปโฉม จึงทำคนไปสนใจรูปร่างบอดี้แบบใหม่ เช่น ฟอร์ด  เชฟโรเลต  มาสด้าบีที50  วีโก้  ดีแม็ก  กันเยอะ

5.มาสด้าบีที50โปร ช่วงล่างหนึบ นิ่มนวลกว่าฟอร์ดเรนเจอร์ เครื่องตัวเดียวกับฟอร์ด2.2 / 3.2 150แรงม้า  6สปีด  ภายในยังคงข้อบกพร่องเช่น ระบบเครื่องเสียงที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปรับแต่ง เช่นต้องการติดกล้องมองหลัง แต่ไม่รู้จะเอาจอไปไว้ไหนเพื่อให้ลงตัวที่สุด ภายนอกของบีที50โปร ก็แล้วแต่ในมุมมองของคนขับว่าจะชอบสไตล์ไหนแล้วแต่ตัวคุณครับ

6.สำหรับผมซื้อฟอร์ดเรนเจอร์ ช่วงล่างแข็งไปนิดหน่อย แต่ถ้าเอาไว้ลุยล่ะกินขาด เครื่องตัวเดียวกับมาสด้าบีที50 ภายในในส่วนตัวผมชอบนะ แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องเหมือนเดียวกับ บีที50 เพราะ ระบบเครื่องเสียงไม่เอื้อต่อการเพิ่มเติมฟอร์นต่างๆ (แต่เครื่องเสียงที่ติดรถมาก็ถือได้ว่าโอเคเลยทีเดียว )แต่ข้อเสียคือหาที่จอดลำบาก ยิ่งไม่มีกล้องมองหลังยิ่งไปกันใหญ่ รถเก๋ง,รถมอเตอไซค์จอดปิดท้าย ไม่เห็นเลย(ผมถอยชนมาหมดละ)แต่ส่วนตัวผมคิดว่าคนที่ซื้อฟอร์ดจะชอบความดุดันของบอดี้ภายนอก เหมือนกับพวกฝรั่งบ้าพลังประมาณนั้น

สรุปว่า การซื้อรถก็เหมือนกับซื้อนิสัยของคุณเองว่ามาตอบโจทย์ในการขับสไตล์ของคุณเองครับ (การประมาทคือหนทางแห่งความตายรถจะดีแค่ไหนก็ยื้อชีวิตคุณไม่ได้ถ้าคุณไร้สติแม้แต่วินาทีเดียว)///////ขอบคุณมากครับที่ให้ผมได้แสดงความคิดเห็น////////

 จากประสบการณ์ครับ ผมขับFordแรนเจอร์เหยียบเกือบๆ140 ชนหมา รถไม่มีสะบัดเลย ถ้าเน้นใช้งานและความปลอดภัยไม่เน้นขายต่อขอแนะนำFordครับ ถ้าอยากขายต่อเอากำไรก็ซื้อที่ดีกว่าครับ อีซูซุก็ขาดทุนเหมือนกันครับ

 เอามาใช้งาน เลือก I,T

เอามาจอดโชว์ (รอซ่อม) เลือก F.CH

คหที่ 28  ไฟ ไบซีนอน อ่ะ  ติดข้างนอก ของจีนแดง ก็มี 6500 แล้วครับ  ไต้หวันแท้ ก็มี 8500   ของดี ๆ เลย ก็หลักหมื่นแล้วครับท่าน งิ  แล้วติดข้าง น้ำเข้า ไม่จบอีก  แถมตำรวจยังคอยรังควานตะหาก

เพิ่มเติมให้คุณณัฐพงษ์

นิสสัน ช่วงล่างแข็งกระด้างมากที่สุดในกลุ่มตามแบบอเมริกันสไตล์ ช่วงล่างที่แข็งกระด้างความเตี้ยบวกความกว้างฐานล้อที่กว้างที่สุดและยางหน้ากว้างที่สุดในคลาสในรถยุคเดียวกัน (ไม่นับรวม F กับ M ซึ่งเป็นรถคนละยุค) ส่งผลให้การยึดเกาะถนนอยู่ในระดับต้นๆ

ความแคบของห้องโดยสารส่งผลมาจาก กระจกหน้าที่ลาดเอียงกว่ารถใน พ.ศ.เดียวกัน คอนโซลหน้ายื่นออกมายาวกว่า ด้านข้างตัวพลาสติกทำโป่งออกมามากเกินไป เลยทำให้รถแคบ แต่ได้มาแทนที่คือความเงียบของห้องโดยสารครับ ออกตัวได้ค่อนข้างช้า แต่ปลายก็ไม่อายใครนะ

 นานาจิตตัง ยังไงก็รักฟอร์ดครับ มั่นใจสมรรถนะและความปลอดภัย ขาดไม่ได้คือตัวไวแทร็คมันเท่ห์ครับ เท่ห์แบบมะกัน แค่นั้นเอง

เอาแบบกลางๆ นะครับ

ผมใช้เรนเจอร์ 2.2 4D AT  Hi   โดยส่วนตัวแล้วก็ไม่ถูกใจไปเสียทุกอย่าง  เช่น

 - อยากได้รถนิ่มกว่านี้ 

- อยากได้จอ DVD  GPS  แต่เครื่องเสียงก็โอเค

- อยากให้ประหยัดมากกว่านี้ (ในเมือง เพราะตัวถังหนักทดสูง) 

- เกียร์ AT ขับไม่รู้จังหวะ อืดและกิน  

- อยากได้ศูนย์ดีมีมาตรฐานๆ  เข้าสามครั้งสามที่ มาตรฐานไม่เหมือนกันซักอย่าง

- เก็บเสียง 120 ขึ้น ยังไม่เงียบนัก

- เบาะแข็ง ไม่นิ่ม ไม่รู้จะทำแข็งอะไรนักหนา

- การผลิตแบบประหลาด เป็นล็อตๆ ไป คนรอนานมาก และล็อตหลังๆ จะพบปัญหามากกว่ารุ่นแรกๆ

- รุ่นใหม่ตัดชายกันลมล่างออก ตัดฉนวนกันความร้อนฝากระโปรงหน้าออก ไม่รู้ทำไม

- ยางมีสองสเป็ค HT กับ AT  บ้าๆ บอๆ 

- รถแปลกๆ  AT เมื่อบรรทุกจะนิ่มและประหยัดน้ำมัน

-  รุ่น XLS ขาดๆ เกินๆ ตลก จนดูไม่สมกับราคา

- ช่องเก็บของน้อย 

แต่ทั้งหมดนี้ก็จะกลายไปรับได้เมื่อได้ขับมาหลายๆ ยี่ห้อ  

- วีโก้ (ช่วงล่างพาเลื้อยได้) เครื่องแรง เก็บเสียงไม่ดี ถ้าซื้อเกียร์ธรรมดาขับสมูธดีมาก ตอนซื้อเรนเจอร์ไม่ทำ 2.5 AT จนมีคู่แข่งจึงคิดได้ 

- ไทรทัน ขับทั้ง 2&4 D (โคลงเล็กน้อย) เครื่องดีเซลแรงดี ประหยัด เครื่องเบ็นซินให้ลุ้นตลอดทางและกินจุ  เก็บเสียงห่วยมาก โทรมเร็วมีเสียงกระพือเยอะไม่รู้มาจากไหนบ้าง ต้องตั้งศูนย์บ่อยมาก เกียร์ธรรมดาเข้ายาก เหมือนจะทันสมัยแต่โบราณ ห้องโดยสารตื้นเข่าชันแต่ 4 D กว้างสบายมาก  แต่ชอบไฟที่เก็บของและประตู

- นิสสัน ไม่ค่อยได้สัมผัสมาก (ก็โอเคนะ แต่เตี้ยและแคบ) 

- อีซูซุ (นิ่มย้วย บอบบาง) ตัวใหม่ฐานล้อกว้างดี ภายในใช้พลาสติกเป็นขลุ่ย แพงเพราะออฟชั่นดี เกียร์ธรรมดาเข้ายาก เจ็บใจศูนย์สระบุรีให้ซื้อแอร์และพื้นปูกระบะ เพิ่มเงิน 70,000 บาท คงนึกว่าเรากินหญ้า

- มาสด้า  ไม่ได้สัมผัสมาก แต่ชอบที่นิ่มดี  ยกเว้นภายในที่ออกแบบขาดๆ เกินๆ เบาะนิ่มเฉพาะคนขับ อยู่ดีๆ บางรุ่น Hi ก็ได้ล้อ 16 นิ้ว  

จะยิ่งรักเรนเจอร์มากขึ้น เมื่อเจอเหตุการฉุกเฉิน  หรือภัยพิบัติ ฝนตกฟ้าร้องเรนเจอร์นิ่งสบายๆ หลับในลงข้างทางหักขึ้นมาขับต่อชิวๆ

- ช่วงล่างแข็งแรง ไม่ต้องตั้งศูนย์อะไรเลย

- รถตัวถังแข็งแรง ทนทาน

- บรรทุกนิ่ง ไม่มีย้วย

- ภายในกว้างขวางทุกมิติ เหมือนนั่งโซฟา

- กระบะกว้าวยากลึกดีมาก

นี่คือความรู้สึกตามจริง  ไม่มีอะไรดีที่สุดครับ  แต่ผมซื้อมาได้คุ้มค่าเงินที่เสียไปที่สุด ปลอดภัยที่สุดครับ

เห็นด้วยอีกคนมือใหม่ใช้บริการเจ้าตลาดดีที่สุดเหมือนผม เพราะว่าศูนย์เยอะบริการดีเยี่ยม รวดเร็ว ขายคล่องแต่ปัจจุบันผมอิ่มตัวกับเจ้าตลาดแล้วครับหันมาใช้ยีห้ออื่น พอใจมาก ยิ่งคืนที่ผ่านมา ฝนตกหนัก ต้องใช้ปัดน้ำฝนระดับ 3 วิ่ง 120-130 นิ่ง พอใจอย่างไม่เคยมีมาก่อนครับ

อุ๋ยโทษครับ พิมพ์ผิด 160ชิ้นครับ

อย่าเพิ่งด่านะครับ เพราะผมใช้นิสสัน คือผิมคิดงี้ครับเจ้านาย สมมุติว่าเจ้าฟอร์ดเนี่ยถูกกว่าอีสุ 80,000 บาท แต่ราคาอะไหล่แพงกว่า  500 บาท/ชิ้น แต่ถ้าคุณเอาส่วนที่ถูกกว่า 80,000 มาเปลี่ยนอะไหล่ คุณสามารถเปลี่ยนอะไหล่ฟอร์ดได้ ถึง 180 ชิ้นเลยทีเดียวเชียวล่ะ

NISSAN ก็ศุนย์เยอะและไม่ได้หายากกว่าเจ้าตลาดสักเท่าไหร่นี่ครับ

 โห แค่เพิ่มไฟอะไรเนี่ยก็แพงกว่าเขาหลายหมื่นเชียวหรือ 

ปํญหาที่อีสุราคาแพงกว่าเจ้าอื่น(C,F,M,N,T) เนื่องจากเขาใส่ชิ้นส่วนที่มีราคาแพงเข้าไป เช่นไฟหน้าแบบซีนอล ไฟท้า LED +ชื่อเสียงของวงตระกูลตัวนี้สำมะคัญมาก นอกนั้นไม่มีอะไรแตกต่าง ที่แตกต่างคือความพึงพอใจของคนที่ซื้อครับ

 เห็นด้วยครับ มือใหม่ คารเลือกรถตลาด   อย่ามองข้ามเรื่องการเงินด้วยน๊ะ ถ้าเรามีปัญหาการเงิน เช่นจำเป็นต้องปล่อยหรือขายดาวน์  รถตลาดสะดวกกว่าแน่ฯ  

ช่วงอยู่ระยะประกันเป็นช่วงเวลาที่0ให้โอกาสเราหาอู่นอกเอาไว้สำหรับมือใหม่  มืออาชีพไม่ต้องพูดถึงรู้ทัน0หมด  

ตอบแบบนี้สิครับ ถึงมีเหตุผล และน่ารับฟังไม่น้อย  

ผู้ตั้งกระทู้กระทู้ บอกว่า เป็นมือใหม่ เลือกคันไหนดี  แต่ผู้ตอบส่วนใหญ่เป็นมืออาชีพ รู้เรื่องรถดีมาก อุปกรณ์ อะหลั่ย อู่นอกรู้หมด ถ้าผู้ซื้อเป็นมือใหม่ เลือก อีซูซุ หรือไม่ ก็โตโยต้า ครับ  ถ้ามีปัญหาไม่ต้องปวดหัวมาก  เพราะศูนย์บริการมีเยอะ  ไม่ต้องไปตระเวณหา อู่ที่ไว้ใจได้ อะหลั่ยแท้หรือเทียม ก็ดูไม่เป็น ถูกฟันหัวแบะมาเยอะแล้วครับ จะได้ไม่ต้องมาช้ำใจทีหลัง เจอมาเยอะแล้วครับ  อีซูซุ+โตโยต้า เป็นรถที่ดีครับ ถึงจะไม่ดีที่สุด  แต่ไว้ใจได้ในเรื่องการบริการ รักแท้แต่ยั่งยืนครับ  ดีกว่ารักแท้แต่ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งน่าเบื่อครับ  เชื่อผมเหอะ สุดท้ายอยู่ที่คุณเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่คนอื่น อ่านได้แต่อย่าเชื่อมาก ไม่งั้นจะช้ำใจ

@คุณชวลิต: ขอบคุณมากครับที่ช่วยเสริม พอดีลืมประเด็นนี้ไป

@คุณลูกบอล: 555+ ขอโทษที่ทำให้ตาลายขอรับ... แต่ไม่ต้องรอแล้วครับ เพราะ FORD Ranger 2.5 เบ็นซินมาแล้ว ขอเปรียบเทียบดังนี้ครับ

- FORD Ranger: 2.5 ลิตร 166 แรงม้าที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 226 นิวตันเมตรที่ 4,500 รตน. ราคาอยู่ที่ 609,000 บาท (Open Cab) เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ (เกียร์ 1 - 4.200 เกียร์ 2 - 2.238 เกียร์ 3 - 1.366 เกียร์ 4 - 1.000 เกียร์ 5 - 0.763 เกียร์ถอย - 3.840 อัตราเฟืองท้าย 4.700) แรงบิดที่เกียร์ 1 อยู่ที่ 4,461.34 นิวตัน-เมตรแล้ว เกียร์ 5 อยู่ที่ 810.46 นิวตัน-เมตร

- NISSAN Navara CNG: 2.5 ลิตร (QR25DE) 154 แรงม้าที่ 5,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 242 นิวตันเมตรที่ 4,400 รตน. ราคาอยู่ที่ 535,500 – 641,000 บาท เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ (เกียร์ 1 - 4.368 เกียร์ 2 - 2.518 เกียร์ 3 - 1.743 เกียร์ 4 - 1.283 เกียร์ 5 - 1.000 เกียร์ 6 - 0.769 เกียร์ถอย - 3.966 อัตราเฟืองท้าย 4.363) แรงบิดที่เกียร์ 1 ก็ปาเข้าไป 4,611.94 นิวตัน-เมตรแล้ว เกียร์ 6 อยู่ที่ 811.95 นิวตัน-เมตร

เมื่อเทียบการใช้งานแล้ว

- เน้นบรรทุก ต้อง Navara เพราะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงกว่า (แรงม้าไม่จำเป็น เพราะยิ่งมากยิ่งสิ้นเปลืองมาก) ทดเฟืองท้ายได้ต่ำกว่า กินรอบเครื่องยนต์น้อย ทำให้การสึกหรอและความสิ้นเปลืองต่ำกว่า แถมยังติดตั้ง CNG มาจากโรงงานครับ

- เน้นความปลอดภัยแบบจัดเต็ม (น้ำหนักรถเปล่าก็หนักกว่าชาวบ้าน 200-300 กก. แล้ว ถ้ารุ่น 4 ประตูก็ร่วม 400 กก.) การทรงตัวและยึดเกาะถนน ต้อง Ranger ครับ (ทดสอบไปแล้วในนิตยสารนักเลงรถกระบะ อัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองดีกว่า Vigo 2.7 VVT-i) ถ้าใช้งานแบบผมๆ เลือกตัวนี้ เพราะผมชอบขับเร็ว (แต่อัตราเร่งและความสิ้นเปลืองเทียบรุ่นดีเซล 2.2 ลิตรไม่ติดเลยครับ)

 เช็คระยะตามคู่มือ fordจ่ายแพงกว่านิดเพราะปริมาณของเหลวเยอะกว่า  อะไหล่สิ้นเปลือง เช่นยาง ราคาพอกัน ผ้าเบรค ซ่อมช่วงล่าง ซ่อมตัวถัง ยังไม่รู้เพราะรถยังไม่กี่หมื่นโล (ข้อมูลdmax cap3.0vgs 4x4 mt v croos ,ranger 4d 2.2 4x2 at)ถ้าเทียบกับรุ่น12v open cap ที่เคยใช้ อะไหล่ช่วงล่าง ลูกปืนล้อ สายเบรคอ่อน ผ้าเบรค ราคาเท่ากับยี่ห้อตลาด  ซ่อมอู่ทั่วฯไปน๊ะ ซื้อของให้อู่เขาก็ได้ ยี่ห้อตลาดผมก็ซ่อมอู่ทั่วไป(คุยกันเอง)เพราะอะไหล่เดี๋ยวนี้สั่งได้   โดยเฉพาะพวกลูกหมาก บังคับเลี้ยว เยอะมาก ลูกปืนล้อเลือกของ ntnหรือskfก็ใช้ได้แล้วซีล ต่างฯใช้ของnok ntn skfมีอีกเยอะ  นึกไม่ออก ผ้าหวีคลัชใช้ของยี่ปุ่น มีให้เลือกเยอะแยะ ส่วนเครื่องที่เคยฝ่า ตัว12v. Xltมา   ราคาใส้ในเกือบทุกชิ้นเหมือนยี่ห้อตลาดเลย แต่มีพลาดตรงnutฝาสูบตัวนึ่งกร่อนจนขาดติดในเสื้อสูบ งานเข้า ส่งโรง กลึงต๊าปเกียวใหม่ ( ต๊าปเกลียว สวมเกลียวเจอทุกยี่ห้อ )  แต่ที่ชัดเจนอะไหล่ตัวถังหายากกว่า รุ่นตลาด เดินหาไฟท้ายเชียงกง กว่าจะได้พ่อคุณเอ้ย แต่ถ้าถึงกรณีอุบัติเหตุ ถึงขนาดต้องซ่อมตัดต่อแชชส์ ซี โฮ!ไม่รู้เหมือนกัน   น่าจะเข้าประเด็นการซ่อมบำรุงน๊ะ  (ข้อมูลopen cap12v. 2.5 ปี2001เปรียบเทียบกับ dmax 2.5di turbo ปี2002)

บอกตรง ๆ คุณนนท์  ผมอ่านแล้วผมตาลาย ง่ะ  เอิ๊ก ๆ  แต่ตอบเคลียร์แล้วครับ  ผมตอบแบบไม่เน้น เครื่องยนต์ ล่ะกัน  

ถ้าเอามาใช้งาน เลือก ford  เหตุผลเพราะตัวถังใหญ่ กะบะกว้างกว่า มิติใหญ่กว่า  ลุยน้ำลึกได้มากกว่า

ถ้าเน้นเอามาหล่อ หาของแต่งง่าย  ก็เลือก izusu ไปครับ  รถเยอะ ของแต่งเยอะ    ford ถ้าออกตัว ไวเทค มันจบแล้ว มันหล่อมาจากโรงงานแล้ว ไม่ต้องเสริมอะไร   isuzu  บอกตรง ๆ มีดีแค่ไฟหน้า ที่เป็นไบเซก เอ๋ย ไบซีนอน  มาจากโรงงาน แค่นั้น   นอกนั้น ทั้งเครื่อง ช่วงล่าง ford คาบไปกินหมดแล้ว  เอิ๊ก ๆ

แต่ชั่วโมงนี้  ถ้าซื้อมาใช้งานแล้วเน้นประหยัด  ผมจะรอ Ford 2.5 เบนซิน  หรือ ถ้ารอไม่ไหว ก็ไปออก Nissa Xtra Navara เบนซิน 2.5  150 แรงม้า พ่วง CNG มาใช้ไปพลางก่อน ครับ  เอิ๊ก ๆ

 ยังไม่เห็นใครตอบตรงเจ้าของกระทู้ ที่ถามว่า การเมนเทนแนนซ์ เลยครับ

เอ้า ผมตอบให้ รถใหม่ ๆ เข้าศูนย์เหมือนกันหมด การเมนเทนแนนซ์จึงไม่แตกต่างกัน ทั้งคุณภาพและ ราคา

http://www.ford.co.th/trucks/new-ranger/cost-of-ownership/part-price-comparison

http://www.isuzu-tis.com/All-New/2012/services-parts.html

และสิ่งที่ต้องดูอีกคือ ระยะประกันว่า ค่ายไหนให้ระยะประกันยาวนานกว่ากัน เช่น รถ A 1แสนโล

รถ B 5หมื่นโล เป็นผมถ้าworry  เรื่องเมนเทนแนนซ์ ผมจะเ้ลือก 1 แสนโลวารันตี และทั้งสองค่ายน่าจะ

มีวารันตีที่ 1 แสนโลเท่ากันนะครับ รถสมัยนี้ต้องเข้าศูนย์กันทั้งนั้น โดยเฉพาะเครื่องยนต์กลไก มีปัญหาก็เสียบคอมพิวเตอร์ตรวจเช็คทั้งนั้น

ดังนั้นคุณชอบยี่ห้อไหนก็เลือกยี่ห้อนั้นเลยครับ รักประหยัดเน้นขับเมืองเลือก i

รักความแรงเดินทางบ่อยเลือก f  บรรทุกดีเลือกCh

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณตาโต บางบ่อ คนบ้านเดียวกันครับผม... แลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นส่วนตัวกันก็พอ

ขอบคุณครับคุณดำ เราซื้อรถยี่ห้ออะไรก้อยู่ที่เราตัดสินใจครับ เงินเรา ความพอใจเรา การที่เราเข้ามาสอบถาม ย่อมมีผู้รู้มาช่วยตอบ มาเชียร์รถที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดมาให้เพื่อนๆได้ทราบเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงชอบรถยี่ห้อนี้ ย่อมเป็นธรรมดาครับที่ต้องมีคนคิดเห็นไม่เหมือนกัน แล้วก็มาลงความคิดเห็นโต้แย้งตามที่ตัวเองได้ศึกษามาก็เป็นประโยชน์กับเจ้าของคำถามครับ อาจจะไม่ถูกอกถูกใจใครบางคนจนมาแขวะในนี้ แต่ก็ถือว่าเป้นส่วนน้อย เวปนี้ของอาจารย์ดีมากครับ มีประโยชน์มากๆสำหรับผมครับ ก็ให้กำลังใจทุกท่านที่คอยมาตอบคำถามครับ ที่ผมพจะนึกออกก้มี ท่านสงคราม ท่านลูกบอล คนว่างแค่วันอาทิตย์ และก็ท่านอื่นๆที่ผมไม่ได้เอ่ยนามนะครับ ดีครับที่ท่านเหล่านี้มาโต้แย้งกันด้วยเหตุผล เป็นประโยชน์มากครับ ขอให้อยู่ด้วยกันไปนานๆครับ

 เอาแบบสร้างสรรค์น๊ะครับ ไม่ว่ากัน ดีเสียคนละมุม และอยู่ที่ความชอบส่วนตัว  เคารพการตัดสินใจของทุกท่าน ไม่มีใครเขลาหรือเปรื่อง    

555+ ขอแก้ไขว่าผมเลือกคันที่ 3 ครับ

ด้วยความเคารพ ผมขอทำความเข้าใจกับกองเชียร์กระบะ D-Max กับ Vigo ก่อนนะครับว่าผมไม่ได้ยึดติดกับยี่ห้อ ยกตัวอย่างแต่เดิมผมใช้กระบะ NISSAN Big M Z20 (เบ็นซิน) จนมาถึง Frontier 3.0 ZDi-T (ดีเซลเทอร์โบ) ซึ่ง ณ ขณะนั้น ผมคิดว่าสุดยอดแล้ว และคิดว่ารุ่นต่อมา คือ Navara น่าจะดี แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ผมอยู่ดี จนมา ณ เวลานี้ ผมคิดว่า FORD Ranger/MAZDA BT-50 คือ กระบะที่มีสมรรถนะและความปลอดภัยสุดยอด ซึ่งในอนาคตยี่ห้ออื่นอาจพัฒนาได้ดีกว่าก็เป็นได้ ถ้า ISUZU หรือ TOYOTA พัฒนาแล้วสมรรถนะความปลอดภัยดีกว่า ผมก็รับได้ สำหรับเทคโนโลยีผมพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดตลอดโดยอาศัยหลักการเลือกรถส่วนตัวที่ใช้ยาวไม่ต่ำกว่า 10 ปี จึงไม่สนราคาขายต่อ เรียงตามลำดับความสำคัญดังนี้ครับ
1. โครงสร้าง: เครื่องยนต์ ตัวถัง ช่วงล่าง ระบบความปลอดภัย
2. สมรรถนะ: เครื่องยนต์ (แรงม้าแรงบิด) ระบบส่งกำลัง (ระบบเกียร์ อัตราทดเกียร์ และอัตราเฟืองท้าย) และช่วงล่าง แรงดันเทอร์โบ
3. การบำรุงรักษาและค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องถูกมาก แต่ขอให้ทนทาน ไม่จุกจิกในระยะยาวก็พอ ซ่อมนอกศูนย์ฯ ได้
4. ความคุ้มค่า: ราคารถกับสมรรถนะความปลอดภัยที่ได้มา ยกตัวอย่าง 2 คันแรกคือยี่ห้อยอดนิยม คันที่ 2-5 คือ รถที่สมรรถนะความปลอดภัยดีกว่า แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่า

- คันที่ 1: 2.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว (โซ่ขับราวลิ้น) เทอร์โบ 136 แรงม้า 320 นิวตัน-เมตร เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ยกสูงรุ่นล่างสุด (869,000 ÷ 136 = 6,389.71 บาท/แรงม้า / 869,000 ÷ 320 = 2,715.63 บาท/นิวตัน-เมตร) คุณภาพวัสดุ การตกแต่งภายนอกภายในพอใช้ ความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 4 ดาว
- คันที่ 2: 2.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว (สายพานขับราวลิ้น) เทอร์โบ 144 แรงม้า 343 นิวตัน-เมตร เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ (839,000 ÷ 144 = 5,826.39 บาท/แรงม้า / 839,000 ÷ 343 = 2,446.06 บาท/นิวตัน-เมตร) คุณภาพวัสดุ การตกแต่งภายนอกภายในไม่ดี มาตรฐานความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 1-2 ดาว
- คันที่ 3: 2.2 ลิตร DOHC 16 วาล์ว (โซ่ขับราวลิ้น) เทอร์โบ 150 แรงม้า 375 นิวตัน-เมตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ (799,000 ÷ 150 = 5,326.67 บาท/แรงม้า / 839,000 ÷ 375 = 2,237.33 บาท/นิวตัน-เมตร) ห้องโดยสารกว้างสบายกว่า คุณภาพวัสดุ การตกแต่งภายนอกภายในดี ความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 5 ดาว
- คันที่ 4: 2.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว (สายพานขับราวลิ้น) เทอร์โบ 178 แรงม้า 350 นิวตัน-เมตร เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ (776,000 ÷ 178 = 4,359.55 บาท/แรงม้า / 776,000 ÷ 350 = 2,217.14 บาท/นิวตัน-เมตร) ห้องโดยสารกว้างสบายกว่า คุณภาพวัสดุ การตกแต่งภายนอกภายในค่อนข้างดี ความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 3 ดาว
- คันที่ 5: 2.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว (โซ่ขับราวลิ้น) เทอร์โบ 150 แรงม้า 350 นิวตัน-เมตร เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ยกสูงรุ่นล่างสุด (765,000 ÷ 150 = 5,100.00 บาท/แรงม้า / 765,000 ÷ 350 = 2,185.71 บาท/นิวตัน-เมตร) คุณภาพวัสดุ การตกแต่งภายนอกภายในค่อนข้างดี ความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 4 ดาว

ที่ผมเลือกคันที่ 2 เพราะ
1) ความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 5 ดาว
2) เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
3) แรงบิดสูงที่สุดที่ 375 นิวตัน-เมตร (แรงม้าไม่เน้น เพราะการใช้งานจริงไม่ค่อยได้นำมาใช้ และจากการขับทุกยี่ห้อก็ไม่ต่างกันมาก บางคันแรงม้าสูงกว่าแต่ความเร็วจริงสูงสุดกลับน้อยกว่า)
4) ใช้โซ่ขับเพลาราวลิ้น

ส่วนคันอื่นๆ ผมขอเรียงลำดับดังนี้
อันดับ 2 ผมจะเลือกคันที่ 5 เพราะคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด แม้จะผ่านมาตรฐานความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 4 ดาว
อันดับ 3 ผมจะเลือกคันที่ 4 เพราะคุ้มค่าคุ้มราคารองลงมา อะไหล่แพร่หลาย แม้จะผ่านมาตรฐานความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 3 ดาว
อันดับ 4 ผมจะเลือกคันที่ 1 เพราะแม้จะแพงที่สุด แต่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 4 ดาว
อันดับ 5 ผมจะเลือกคันที่ 2 เพราะดีกว่าไม่มีรถขับ

บะ  คุณสดพูดได้เข้าท่าจริง ๆ  ผมใช้ดีแมกซ์ตัวสูง ออโต 2.5 ราคา 92 หมื่น มาเห็นบีที 50 ยกสูง ราคา 75 หมื่น ทำไมมันต่างกันอย่างนี้  ที่มันสูงคงคิดว่าคงเป็นเพราะอุปกรณ์เสริมเช่นเครื่องนำทาง กล้องถอยหลัง ฯ ล ฯ ซึ่งตอนผมซื้อขอตัดรายการพวกนี้ออกไม่ได้ เนื่องจากเป็นตัวทอปเกียร์ออโตด้วย ความรู้สึกของผมคิดว่าขับดีมาก นุ่มนวนกว่ายี่ห้ออื่น โดยเฉพาะให้ภรรยาขับเขาชอบมาก ส่วนผมชอบรถเก๋งมากว่าเนื่องจากไม่ใหญ่มากและวิ่งดีกว่า

อยากฟังจังคนเชียร์อีซูซุกับโตโยต้ามาช่วยชี้แนะข้อดีที่น่าสนใจ แต่ก็ผิดหวังครับ ไร้สาระ สำหรับผม ผมขับ BT 50 PRO  4 ประตูยกสูงครับ รถไม่ได้ดีไปกว่าโตโยต้ากับอีซูซุเท่าไหร่หรอกครับ เพียงแต่ราคาขายถูกกว่าครับ มีเฟืองท้ายลิมิเต็ด การทรงตัวปลอดภัยมากขึ้น ไฟหน้าอีซูซุสวยกว่าเยอะ ผมชอบมากนอกนั้นมีเหมือนกันหมดครับ ยาง เบาะ ไมล์ กะบะ แหนบ ไม่แตกต่างจนต้นทุนสูงกว่าจนราคาขายแพงจนมิอาจเอื้อม ประหยัดน้ำมันอีซุวุประหยัดกว่าแน่นอนครับ แต่คงไม่ได้มากมายจนเห็นข้อแตกต่างมากครับ ประหยัดกว่า 2 - 3 กิโลลิตร ก็น่าสนใจดีครับ แต่ผมชอบ 6 เกียร์ ขับสนุกมากครับ อยากลองเบื่อ 5 เกียร์แล้ว ซื้อถูกกว่าเกือบแสน   เรื่องศูนย์บริการอีซุซุมีมากจริงๆครับ รถผมก็แค่ขับสักไม่กี่หมื่นโลพอดูว่าไม่มีปัญหาแล้วผมออกซ่อมอู่นอกครับ มีเพื่อนเป็นอู่ครับ เลยไม่สนใจ ราคาขายต่อ ผมซื้อมาถูกกว่า ผมมิอาจเอื้อมที่จะขายได้แพงกว่าหรือเท่ากับรถที่ราคาตอนซื้อซื้อแพงกว่าผมครับ ผมเคยใช้อีซูซุนะครับ ปี 92 หรือ 94 เนี่ยแระ ตัวหนังสือเล็กตัวแรกเลยครับ นิ่มดีครับ แต่เครื่องสมัยก่อนขึ้นช้ามาก กว่าจะเลย 140 ลากยาวเลย

 ส่งสัยคนไทยไม่มีความคิดเนาะ ที่ใช้รถไม่ดีอย่างโตโยต้าและอีซูซุใช่้กันหมดบ้านหมดเมือง ไม่ดีเท่าฟอร์ดเลยก้อแค่ขายดีใน ยุโรป 

   ขอบคุณคุณนนท์ที่ตอบคำถามใช้ประสบการณ์และตามหลักความรู้ครับ 

ขอบคุณมากครับคุณตาโต บางบ่อ... ปกติผมอยู่บ้านที่บางพลี แต่ตอนนี้ผมก็อยู่หอพักที่บางบ่อกับแฟนเหมือนกันครับ เพราะทำงานที่นิคมฯ เวลโกรว์ (ไม่รู้บางบ่อเดียวกัน จ.สมุทรปราการรึเปล่า??... ถ้าใช่ก็ "คนบ้านเดียวกัน" คร้าบ)

 ชื่นชมคุณnonนะ   ข้อมูลมีประโยชน์  จากที่ติดตามมา ผมเองก็ใช้ข้อมูลของคุณnonประกอบในการใช้รถ จากที่เคยผูกขาดอยู่กับยี่ห้อเดิมฯ     ศูนย์ฯiที่ว่าดีฯ ผมเจอกับตัวเองมา ตรงข้าม กันเลย  ดราก้อนอาย เคลมไฟหน้าซีนอน  จนจะต่อยกับช่างฯจนในที่สุดเราไปเดินเชียงกงหาไฟแบบจานฉายมาใส่  ราคาโอ้โฮ  โอเวอร์ฮอลเครื่องได้เลย เครื่องดับแบบไม่มีสาเหตุ โทษว่าเราเติมน้ำมันไม่มีคุณภาพ หม้อน้ำรั่วแอร์ไม่เย็นส่งรถเราไปร้านนอกแล้วชาร์ทเราอีกที อาการทั้งหมดเกิดตอน 25000โล  ในยุคที่เดิมน้ำมัน เชลเพียวร่า  ซื้อมา530000 ขายต่อ230000 คิดเป็น43%  ไม้ตี้เอกซ์ ซื้อมา460000ขาย230000 คิดเป็น50% สตราด้าซื้อมา489000ขาย240000คิดเป็น49% โอเพนแคป12vซื้อมา510000ขาย250000 /50% ทุกคันที่ขาย เฉลี่ย300000กม.ขึ้น  ตรวจสภาพทุกคัน ราคาขายต่อดีจึงบ่งบอกไม่ได้สำหรับ......

เห็นด้วยกับคุณสงครามครับ แต่ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมดังนี้

ถ้าซื้อมาใช้งานไม่เน้นขายต่อก็ข้ามเจ้าตลาดทั้ง 2 ยี่ห้อไปได้เลยครับ แพงเกินคุณภาพ ตอนนี้มี 4 รุ่นที่น่าเล่น คือ

1) FORD Ranger 2.2XLT

2) MAZDA BT-50 2.2D

3) CHEVROLET Colorado 2.5

4) MITSUBISHI Triton 2.5 VGT

สองตัวแรกเหมือนกันทุกประการ เครื่องเล็กแต่แรง (150 แรงม้า 375 นิวตัน-เมตร เกียร์ธรรมดา/อัตโนมัติ 6 จังหวะ) เป็นกระบะที่ปลอดภัยที่สุดเพราะเป็นรุ่นเดียวที่ผ่านมาตรฐาน Euro NCAP ระดับ 5 ดาว ยกเว้นหน้าตาและการตกแต่งภายใน >> เช็คระยะที่ 15,000 กม.

ตัวที่ 3 เครื่อง 2.5 ลิตรเท่ากับ ISUZU D-Max แต่แรงกว่า (150 แรงม้า 350 นิวตัน-เมตร เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ/อัตโนมัติ 6 จังหวะ) แต่แยกจาก ISUZU ชัดเจนแล้ว เครื่องยนต์ทนทานแค่ไหนยังไม่ทราบ แต่ตัวถังและช่วงล่างทนทาน ปลอดภัยกว่า >> เช็คระยะที่ 20,000 กม.

ตัวที่ 4 เครื่อง 2.5 ลิตรเท่ากับ ISUZU D-Max แต่แรงกว่า (178 แรงม้า 350 นิวตัน-เมตร เกียร์ธรรมดา/อัตโนมัติ 5 จังหวะ) โครงสร้างเครื่องยนต์ ตัวถังและช่วงล่างทนทาน ปลอดภัยกว่า >> เช็คระยะที่ 10,000 กม.

ปล. คุณ IP : 211.31.5.154 ในความเห็นที่ 3-4 เข้ามาป่วนสนุกมากมั้ยครับ? ไม่ให้คำแนะนำให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็ยังดี มือไม่พายเอาเท้าราน้ำชัดๆ

 เอาแบบสร้างสรรค์ จากผู้ใช้รถสองยี่ห้อนี้มาจริงฯ มังกรทองcap 2.5tfr90hp โคตรรถ  ดราก้อนอาย 2.8turbo 98hp ช้ำใจที่สุดตั้งแต่ใช้กระบะมาหลายฯยี่ห้อ dmax 2.5di turbo 78hp นี่ก้อเกือบโคตรรถ dmax hilander3.o/4d at 146hp ไม่ไหวกับ7โลลิตร(ในเมืองเป็นหลัก) ล่าสุดv croos cab 3.0mt 177hp รอแป็บนึ่งพึ่งจะ2หมื่นโล สรุปไม่ได้       open cap 12v 90hpตัวแรก  เยี่ยมอยู่กลางฯไม่แย่ไม่เด่น ล่าสุดเรนเจอร์ 4d 2.2at. hirider150hp.40000โล น่าจะใกล้เคียงกับคำถามคุณ ขอเปรียบเทียบกับรุ่นล่าสุดที่มีอยู่    ในเมืองรถติดฯiปวดน่องซ้าย ก็แหงละ ถอยจอดความคล่องตัว  iคล่องก่า น้ำมัน  i 12โล f10โล( ใช่สิmกับatนี่หน่า)  เดินทาง  i13โลf12โล เหินแบบทางหลวงส่องกล้อง fมั่นก่าเห็นฯ เสียงลมiน่ารำคาญ ยูเทิน รถพ่วงกลับตัดหน้า iออกอาการปัดอย่างช้ดเจน ทางสวนเลน สวน10ล้อiโคลงเคลง ทางปรุปะiนวลกว่า ยกของหนักขึ้นท้ายกระบะfตัดกำลังเหลือเกิน คนแขนง่อยปิดประตูfไม่ไหวแน่ฯ ห้องเครื่องiโคตรสกปรกทำสีด้านฯเช็ดยาก ล้างอัดฉีดบ่อยฯระวังน้ำเข้ากรองดีเซลiน๊ะ  เข้า2หมื่นโล กลิ่นพรมiโคตรสาบ  จอดกลางแดดประจำ พลาสติกiแตกลายงาและเป็นขุยฯ  เข้า0เช็คระยะ พอกัน  ทำตามคู่มือเท่านั้น เปลี่ยนฯ ไม่ได้ซ่อมนี่นา  fไม่เทพเยี่ยงไรiก็ไม่เทพเยี่ยงนั้น     0 iที่ว่าสุดยอดตามเล่าลือ ก็เฉพาะเช็คระยะเท่านั้น ซ่อมหนักคบอู่ดีกว่า fก็เช่นกันหมดระยะประกันแล้วโดดเข้าอู่เมินฯก่า  จากผู้ใช้จริง ตั้งแต่มอร์ไซค์ มากระบะ รถนั่งฯรถแวน และตอนนี้กำลังหวานกับรถนั่งยุโรปอยู่ ฝันถึงsuper carอยู่เนือง โชคดี

ที่แท้ก็เป็นเซลล์ขายรถ  เชียร์จังยี่ห้อ ฟ. กับ ม.

 ไม่มีรุ่นดีเท่า ฟอร์ดกับมาสด้า หลอกคับ จากเจ้าของเว็ปไซคับ

 เชื่อผมเด่วเขาแนะนำฟอร์ด 100 % คับอย่างงัยก้อฟอร์ดคับผมไร่ดูมาหมดแล้วคับเขาแนะนำแต่ฟอร์ดคับรุ่นอื่นไม่ดีเลยดูมาหมดแล้วคับ ยกเว้น มาสด้า

 ถ้าใช้งานเท่านั้น จัวไหนก้ใช้ได้ครับ ดีทั้งคู่

 หากคิดเรื่องดูแลก็ต้อง ตัวแรก ตัวหลังดี แน่แต่ ห่วง 0 ...