สอบถามเรื่องค่า offset ของแม็ค ตัว Ford escape 2004 หน่อยครับ ว่าเท่าไหร่พอดีอยากจะใส่เป็นแม็คกระทะ ของร้านเริ่มต้นที่ 0 ไม่ทราบว่าจะใส่ได้หรือป่าวแม็คกระทะรุ่นนี้

สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณพี่ๆ น้าๆ ทุกท่านมากกครับ โดยเฉพาะ คุณลูกบอล , Non Wacharakiat , M(น่ารัก) , ชวลิต และท่านอื่นๆ ที่ผมไม่ได้กล่าวถึง แต่ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น และให้ความรู้ครับ

 คุณเด็กนอกอู่ครับ จากที่ถามเซลล์มา สำหรับ Chev Spin นั้น จะมาโชว์ตัวที่โชวรูม ประมาณ มิ.ย. - ก.ค. นี้ครับ มาเมื่อไรผมจะไปดูทันทีครับ

เมื่อวานไปดูคู่แข่งของ spin คือ Suzuki Ertiga ดูแล้วแคบไปหน่อย ดูจาก spec แล้ว spin ตัวใหญ่กว่าพอสมควร แถมมีราวหลังคาไว้ในกรณีทีุ่๊คุณอยากจะขนอะไรมากมายก็ใสแร็กหลังคาได้ 

การขับขี่ทางไกล จากที่อ่านจากหลายเวปมา จะดีไซน์ให้เหมาะสำหรับขับทางไกลได้ดี โดยที่นั่งจะปรับสูงต่ำได้ กระจกด้านหน้ากว้าง ทัศนวิสัยในการขับขี่ดี และช่วงล่างที่เกาะถนน ทำให้เวลาใช้ความเร็วสูง ๆ รถจะไม่โคลงตัว และเข้าโค้งดี ส่งผลให้เดินทางไกลแล้วไม่เครียด ประกอบกับเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงสุดในกลุ่มเดียวกัน ประกอบกับเกียร์อัตโนมัิติแบบ 6 speed และเกียร์ power shift สามารถเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเองได้ความสนุกในการขับขี่แบบเกียร์ธรรมดา และดูจาก spec ทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ น่าจะทำอัตราการประหยัดน้ำมันได้ไม่ต่ำกว่า 13 กิโล/ลิตร ในความเร็ว 100 -120 กม./ชม. 

555+ ตอบช้าไปนิด เลยไม่ครบอะครับ....

HYUNDAI H-1 รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะที่ผมใช้อยู่ (ปี 2008) จะใช้ระบบดิสก์เบรก 2 ล้อหน้า ดรัมเบรก 2 ล้อหลัง ไม่มี ABS ซึ่งผมคิดว่าทนทานและเหมาะกับการใข้งานของรถที่มีน้ำหนักมากมากกว่า ABS ไม่มีความจำเป็น เพราะผมเคยเบรกกะทันหัน เจ้า H-1 ของผมไม่มีอาการเป๋หรือปัดแต่อย่างใด แค่ผ่อนเบรกนิดหน่อยก็หักพวงมาลัยได้ ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะจะใข้ระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ + ABS

ปล. รุ่นใหม่ๆ ดีกว่าผมหลายจุด เช่น รางเลื่อนเข้าสู่ที่นั่งตอนที่ 3-4 เพิ่มเป็น 2 ด้าน และ ที่ปัดน้ำฝนหลังก็มีให้

H-1 เนี่ย ผมว่าถ้าก้าวข้ามสองเรื่องได้ก็ซื้อได้เลยครับ

เรื่องแรกคือใจเราเอง เพราะชื่อยี่ห้อมัน image ยังไม่แหล่ม
คงคล้ายๆ samsung ยุคแรกๆ แหละครับ เลือกได้คนก็ซื้อ sony ก่อน... แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว
ถ้า Hyndai รักษาระดับคุณภาพต่อไปได้ ก็น่าจะไม่มีปัญหาครับ(แต่อะไหล่บ้านเราก็อาจน้อยกว่าหน่อย เพราะปริมาณรถน้อย)

เรื่องสองก็คือ ปฏิเสธยากว่า มันเป็นรถตู้ หรือขนาดรถตู้ครับ
เป็นแค่เรื่องความรู้สึก ว่ามันใหญ่โตเหลือเกิน ถ้าขับรถตู้ไปทำงานคนเดียว สองคน อะไรแนวนี้
ความรู้สึกนี้ผมเคยเป็น ตอนขับ everest คนเดียวไม่มีใครไปด้วย ตอนแรกๆ ครับ เพราะค้นแต่เก๋งมาตลอด
ส่วนเรื่องความคล่องตัวกับพี้นที่จอดและเข้าออก บางกอกอาจลำบากหน่อย แต่บ้านนอกอย่างผมไม่มีปัญหาครับ
และที่ว่าเป็นแค่เรื่อง "ความรู้สึก" เพราะพอใช้จนคล่อง ขนาดก็ไม่ matters แล้วครับ(อ้างโดยเอาตัวเองเป็นหลักครับ อิอิ)

ขอตอบที่ละข้อนะครับ
HYUNDAI H-1 จัดอยู่ในกลุ่ม MPV (Multi-Purpose Vehicle) เช่นเดียวกับ MERCEDES-BENZ Vito, VOLKSWAGEN Caravelle, TOYOTA Alphard ฯลฯ ซึ่งจะขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนตัวแรก (Vito) ที่จัดเป็นรถตู้กลุ่ม VIP เพราะช่วงล่างเป็นแบบคอยล์สปริง 4 ล้อ ซึ่งผมคิดว่าตอบสนองความต้องการของคุณได้ครับ
- งบไม่เกิน 1.2 ล้าน >> ราคา 1.07 ล้านบาท
- ห้องโดยสาร: กว้างขวางสบาย ผมสูง 186 ซม. ยังเข้าออกแถว 3 ได้สบายครับ แต่เบาะนั่งเล็กตอนหลังไปหน่อยสำหรับผม เบาะคู่หน้าใหญ่ดี (รุ่นใหม่สบายกว่ารุ่นผม เพราะมีรางเลื่อนเบาะแถว 2 ทั้งซ้าย-ขวา) เข้าออกรถง่ายกว่า TOYOTA Hiace Commuter เพราะมีประตูหลัง 2 ฝั่ง
- ความทนทานของเครื่องยนต์: พอๆ กับ Vito 2.2 และ Caravelle 2.5 TDI/2.0 Bi-TDI แต่ดีกว่า Alphard 2.4/3.5 และ Hiace Commuter ที่ใช้เครื่องยนต์เบ็นซิน และ Hiace Commuter รุ่นดีเซล 2.5 ลิตร (2-KD-FTV) ที่ใช้สายพานขับราวลิ้น ฝาสูบไม่แข็งแรง... ผมใช้มาเกือบ 150,000 กม. แล้วยังไม่เคยมีปัญหา... บ้านผมใช้รถแต่ละคันไม่ต่ำกว่า 10 ปี จึงเลือกรถที่สมรรถนะและความทนทานเป็นหลักครับ
- อะไหล่: ตอนนี้ก็เริ่มมีนอกศูนย์แล้ว จากจำนวนที่มีมากขึ้นบนท้องถนน (แต่ผมเข้าศูนย์ก็ไม่แพงนะ 2 พันกลางๆ - 4 พันกว่าๆ ถ้าเช็คใหญ่)
- ความสิ้นเปลือง: ขับเร็วระหว่าง 120-140 กม./ชม.เป็นส่วนใหญ่ สิ้นเปลืองราวๆ 12-13 กม./ลิตร (ผู้โดยสาร 4-6 คน + สัมภาระ 200 กก. รวมกับน้ำหนักรถก็ประมาณ 2,800 กก.) ที่มีการทดสอบที่ความเร็ว 90 กม./ชม. โดยฮุนได ได้ที่ 22 กว่าๆ กม./ลิตร (รุ่นแรก)... ผมทำไม่ได้ เพราะไม่เคยขับช้าขนาดนั้น แต่คิดว่าเป็นไปไได้ เพราะรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะใช้ 2,000 รตน. ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. และรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะใช้ 1,800 รตน. ที่ความเร็วเท่ากัน (ส่วนรุ่นใหม่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ผมยังไม่ทราบครับ แต่ดูจากอัตรทดเกียร์และเฟืองคิดว่าน่าจะพอๆ กัน)

ถึง คุณNon Wacharakiat ครับ 

 

 

 

 

   ขอขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ และข้อมูลดีดีครับ

 

 

 ขอลงชื่อในกระทู้คุณภาพแห่งปี ไม่ได้เห็นบรรยากาศอบอุ่นแบบนี้มานานแล้ว 

เดี๋ยวขอเซฟเก็บไว้ครับ เผื่อมีสตุ้งสตางค์ซื้อหามาใช้บ้าง

ขอขอบคุณ พี่ๆ น้าๆ ทุกๆท่านนะครับ สำหรับคำแนะนำ และข้อมูลดีดี ครับ

1. งบไม่เกิน 1.2ล้าน
2. บรรจุผู้โดยสาร ได้ 5-7 ที่นั่ง โดยอยากได้แถวหลัง(ตอน3) นั่งได้สบายหน่อย ไม่อึดอัดนัก (เพราะเห็นบางค่ายต้องนั่งชันเข่าอ่ะ ดูท่าแล้วนั่งยาว3-4ชม.จะไม่ไหว) รวมถึงมีที่ไว้สัมภาระบ้างเล็กน้อย
3. ความคงทนของเครื่องยนต์ ไม่เสียง่าย ไม่งอแง ไม่ป่วยจุกจิก เพราะส่วนตัวแล้วไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถเท่าไร อยากได้ไปก็ใช้แบบไร้ปัญหา หรือเกิดขึ้นน้อยมากๆ  ทั้งนี้อาจรวมๆไปถึง ตัวถังช่วงล่าง ที่ค่อนข้างแข็งแรง แต่แอบนุ่มสบายหน่อยๆ เพราะท่าแล้วเอามาใช้ ก็บรรทุกผู้โดยสารน้ำหนักรวมโดยประมาณก็ 300 กว่ากิโล (5-7คนนะอิอิ)
4. อะไหล่ ที่หาได้ไม่ยาก(มองไปถึงอีก15-20ปีครับ)  ศูนย์บริการ + อู่นอกซ่อมได้ และราคาไม่สูงมากนัก
5. ประหยัดน้ำมัน หรือ ไม่สิ้นเปลืองมาก เมื่อเทียบกับขนาดของเครื่องยนต์ (คงเอาไม่เกิน3,000อ่ะ) แถมวิ่งไม่เกิน 100/ชม. ด้วย

ไอ๊ย่า ขออภัยกด 5 เป็น 6 ครับน้า Non ...ขอบคุณคร๊าบบ
แต่ยืนยันว่า ณ ตอนนั้นเจ้า 5 speed ของผม ไฮเทคสุดแล้วจริงๆ อิอิ

 ถ้าไม่รีบร้อน รอคันนี้มั้ยคะ ford ecosport

จะมาเร็ว ๆ นี้ เขาว่ากันว่าไม่ถึงล้าน โชว์ในงานมอเตอร์โชว์แล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.fordecosport-club.com/

สงสัยคุณ M(น่ารัก) จะพิมพ์ผิดไปนิดนึงนะครับ... Everest รุ่นล่าสุด (เครื่องบล็อกเดิม WLC 2.5 ลิตร 143 แรงม้า กับ WEC 3.0 ลิตร 156 แรงม้า) เป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ คนละลูกกับ Ranger ตัวใหม่ที่มี 6 จังหวะครับผม

ยินดีครับน้า ^^
ที่จริงตั้งแต่ตอนซื้อ everest จนถึงวันนี้อยู่กับมันมาสามปีนิดๆ หกหมื่นโลหน่อยๆ ภาพรวมผมพอใจมากครับ
ก่อนจะซื้อ ก็เคยกังวลเรื่องซ่อมบำรุง เพราะตอนนั้นไม่ค่อยมีใครใช้ ford ในแวดวงผม และก็มีแต่ข่าวจากคนอื่น(ที่จริงๆ ก็ไม่เคยใช้ ford) ว่าจุกจิกบ้าง ซดน้ำมันบ้าง ระบบโบราณบ้าง แต่สุดท้ายเข้าไปแอบอ่าน แอบคุยใน fordclub.net แล้วมั่นใจขึ้นเยอะกับ everest ก็เลยตัดสินใจเอามาครับ

เสริมข้อมูลให้น้าอีกนิดนึงว่ากระบะ ford กับกระบะ mazda เนี่ย แทบจะเป็นตัวเดียวกันทั้งเครื่องและช่วงล่างเลยนะครับ อะไหล่สำคัญๆ จะใช้แทนกันได้หมด เรื่องซ่อมทั่วไปอู่นอกทำได้ไม่น่ากังวล ส่วนที่อาจจะต้องระวังบ้างสำหรับ everest ตัวนี้ ก็คือระบบเกียร์ออโต 6 เกียร์ ซึ่ง modern สุดๆ ในสมัยที่มันออกมาครับ(ตอนไปดูตัว ผมยังขับ ecar ออโต้สามเกียร์อยู่เลย อิอิ) ซึ่งเป็นเกียร์ออโตที่นุ่มนวลและฉลาดสุดๆ แล้ว(ในวันนั้น)สำหรับ PPV แต่ผมกลับมองว่า มันใหม่ และไม่ค่อยไว้ใจหากมีปัญหา เพราะมันต้องซ่อมแพงแน่... แต่สุดท้ายถึงวันนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร(ที่เลือกออโต เพราะแฟนผมต้องขับเองบ้างในวันที่ผมไม่อยู่) และเกียร์ลูกนี้ เป็นระบบปิด ไม่มีการ service ภายในสองแสนกิโล ซึ่งผมว่ามันนานมาก(ไปหรือเปล่า) และก็ฟังมาว่าการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ต้องในอุณหภูมิที่กำหนดไว้ ใช้น้ำมันเกียร์แบบพิเศษของเขา ก็ยิ่งกังวลครับ แต่ก็.... คงเป็นส่วนหลักล่ะครับ ที่ผมจะเข้าศูนย์ ก็คืออย่างน้อยทุกสองแสนโล(ผมว่าจะเอาแค่แสนห้านะ) คือเข้าไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ครับ hardware ส่วนอื่นๆ ผมว่าอู่นอกที่ทำ ford/mazda ทำได้ชิลๆ ครับ

อีกเรื่องที่ผมกังวลเสมอทุกครั้ง เป็นอาการ paranoid เลยล่ะครับถ้าเทียบกับคนใช้รถในยุคปัจจุบัน คือ... ผมไม่ไว้่ใจรถที่ใช้กล่องควบคุมครับ(บ้าดีไหมครับ) เพราะผมมองว่า ผมไร้สมรรถภาพที่จะช่วยตัวเองในกรณีมันตายกลางทาง รถตายผมก็ตายสถานเดียว แต่หลายคนก็ว่ากล่องรถยุคนี้มันไม่พังง่ายๆ หรอก หรือต่อให้ถึงมันรวน มันก็มีเซฟโหมดโปรแกรมไว้ อย่างน้อยก็สตาร์ทได้ วิ่งควันดำอืดๆ พาไปอู่ได้.... แต่ผมก็ไม่ไว้ใจอยู่ดีครับ ประสาคนชอบของโบราณน่ะครับ แหะๆ

ถ้าเรื่อง service ของ ford everset ผมมองว่ามีสองอย่างเท่านั้นที่ผมจะต้องพึ่งศูนย์ คือเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ กับเรื่องเช็คการทำงานของกล่องควบคุมครับผม

@คุณเด็กนอกอู่.... ยินดีครับ ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ครับ
- อะไหล่ในช่วง 10-15 ปีหน้า: ไม่น่าจะยาก เพราะที่เกาหลีวิ่งกันเกลื่อน (มากกว่า TOYOTA ซะอีก) บ้านเราก็ไม่น้อยแล้ว มากขึ้นทุึกวัน
- เครื่องยนต์: ตัวนี้เอาท่อนล่างมาจาก 4D56 ของ MITSUBISHI ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเหนียว ทนทาน แล้วนำมาพัฒนาฝาสูบเองเป็น 16 วาล์ว และเปลี่ยนเป็นโซ่ขับราวลิ้น เป็นเครื่องตัวเดียวกับรุ่นผม แต่มีการปรับแรงม้าแรงบิดเพิ่มในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และลดลงในรุ่นเกียร์ธรรมดาเพราะเปลี่ยนจาก 5 เป็น 6 จังหวะ ดังที่ผมกล่าวไปแล้ว
- ห้องโดยสาร/เก็บสัมภาระ: เงียบดีพอสมควร ถ้าขับไม่เกิน 140 กม./ชม. (แต่ถ้าเลยก็ไม่ได้ดังมาก... ผมเคยเหยียบที่ 175 กม./ชม. ยังไม่ดังครับ) ให้สบายๆ ควรนั่งแค่ 3 แถว (6 ที่นั่ง) แถวหลังพับเบาะไว้ของได้พอสมควร เพราะถ้านั่งเต็ม ด้านหลังจะไม่มีที่เก็บสัมภาระ ผมเคยขับพาพวกญาติ นั่งไป 10 ที่นั่ง ขึ้นเขาแถวลำปาง สบายมาก ไม่โคลงเคลง กำลังเหลือๆ แต่ถ้านั่งเต็มต้องติดแร็กหลังคาเพิ่มเติม
- การขับขี่/การเกาะถนน/ความปลอดภัย: ดีกว่า TOYOTA Hiace Commuter แบบคนละเรื่องเลย ที่ผมกล้าพูดเพราะเคยขับทั้ง 2 รุ่น ความรู้สึกต่างราวฟ้ากับเหว Commuter โคลงเคลงมาก (ใช้แหนบหลังแบบรถกระบะ) ขับแค่ 100-120 กม./ชม. บนบูรพาวิถียังวูบไปวูบมา เคยนั่งหลายครั้งก็เวียนหัว ขนาดผมไม่ได้เป็นคนเมารถยังมึนๆ เลย ราคารถเปล่าของ Commuter ก็กว่า 1.1 ล้านแล้ว (แค่ 109 แรงม้า 260 นิวตัน-เมตร) ต้องมาตกแต่งถอดเบาะนักเรียน เปลี่ยนคอยล์แอร์เป็นของไมโครบัส (ไม่งั้นร้อนตับแตก) หมดไปอีกเป็นแสน แต่ H-1 ไม่ต้องทำอะไร (คอยล์สปริง 4 ล้อ) ราคาไม่ถึง 1.1 ล้าน (รุ่นเก่า 1.05 ล้านบาท 175 แรงม้า 392 นิวตัน-เมตร รุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 หมื่น 134 แรงม้า 343 นิวตัน-เมตร) แล้วอีกอย่างถ้าคุณจะเอารถตู้ไปวิ่ง H-1 จะได้เปรียบ เพราะอยู่ในกลุ่ม VIP ชาร์จราคาได้แพงกว่า

ขอขอบคุณ คุณNon Wacharakiat   มากๆครับ

ขอโทษนะครับ ผมใช้ suv ฟอร์ดเอสเคป ปี04  สีดำ 3.0  v6  มีสมาชิกในคลับ 400  ว่าคน หากอยากรู้ปัญหาและสมถนะเรื่องของเอสเคป  โทรถามได้ครับ ผมใช้มาจนรู้ข้อดี ข้อเสียต่างๆ ครับ  มือ 2 ราคาก้อไม่แรง  081-8559435  ครับ  หรือ ลองเข้าเวป  Ford Escape Thailand

everest ปี 09 เป็นบอดี้และเครื่องล่าสุดแล้วครับ สำหรับ everest นะครับ
แต่อย่างน้าๆ ว่ามาครับ ถึงจะเป็น everest ล่าสุด แต่มันเก่ากว่า ranger ตัวปัจจุบันหนึ่งรุ่นครับ
นั่นหมายถึงว่า EV09 หรือ EV12 ก็ตาม ยังใช้พื้นฐานเครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง ร่วมกับ ranger ตัวเก่าครับ

แต่อีกมุม ถ้ามองว่า ยังไงๆ น้าก็ใช้ยาวสิบปีขึ้นอยู่แล้ว ความใหม่ของระบบเครื่องหรือตัวถัง ก็อาจไม่ใช่ประเด็น
บางทีอาจต้องมาคิดกันในบ้านให้ตรงจุดครับ ว่าซื้อเอาเครื่อง หรือเอาบอดี้
กรณีผมซื้อ EV ผมซื้อเื่พื่อเอา Body รถครับ เพราะผมมองว่า อนาคตที่เกินสิบปีแล้ว ถ้าเครื่องมันหมดสภาพจริงๆ (ใช้งานปกติไม่น่าถึงขนาดนั้นสำหรับดีเซล) ถ้าบอดี้ยังโอ ตอบโจทย์อยู่ ก็เอาไปทำสี วางเครื่องใหม่ก็ไม่น่ายากแล้ว

แต่ถ้าเลือกเครื่องดีตอบใจพ่อบ้าน(คนขับ) แต่สมาชิกนั่งเบียดเสียด เบาะปวดหลัง สิบปีก็คงต้องขายแน่ๆ ครับ

อ้อ.. ตอนผมซื้อ EV เนี่ย กระแส EV ก็โดนด่าเยอะนะครับ กับความ "โบราณ" ของระบบทั่วไป เบรกมือก็เป็นแบบรถกระบะ ช่วงล่างหลังก็แหนบ ช่วงล่างหน้าก็ torsion bar ในขณะที่ชาวบ้านเขาไปคอยล์สปริงสี่ล้อกันแล้ว เบรกมือแบบเก๋งกันแล้ว ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์กันแล้ว ฯลฯ ยิ่งยุคนั้นมี Captiva ออกมาด้วย option ไฮเทคเพียบๆ น้องฝอด everest ดูเป็นตาแก่ไปเลยครับ แต่สุดท้าย บ้านผมก็เลือกตาแก่นี่แหละครับ มติเอกฉันทน์ทั้งพ่อแม่ลูก แฟนผมชอบหน้าตา(ที่จริงคือเขาไม่ชอบหน้าปาเจสปอร์ต) ผมชอบระบบที่พื้นๆ ง่ายๆ โบราณๆ เพราะผมชอบขับรถเก่า(นังสุดรักผมที่ยังใช้อยู่ เป็นโตต้าปี 1974 ครับ) ส่วนลูกชอบจอ DVD สำหรับที่นั่งแถวสอง(ตอนนั้นปาเจสปอร์ตยังไม่ยอมแถม)

แต่ถ้าจะซื้อ everest ตัวปัจจุบัน(ตัวเดียวกับของผมแต่มีแต่งแต้มนิดๆ หน่อยๆ) ณ วันนี้ ผมก็ว่า อดใจรอตัวใหม่น่าจะคุ้มกว่าครับ... ไม่ก็ย้อนมาดู EV มือสองแทน ซึ่งน่าจะหาตัวที่ไม่ช้ำ สภาพดี ง่ายกว่าเจ้าตลาดครับ เพราะคนขับ EV (ยกเว้นผม)ส่วนใหญ่จะแก่ๆ แล้ว ไม่ค่อยเอาไปอัดแข่งกันเหมือนเจ้าตลาดที่เห็นกันบ่อยๆ ครับ อิอิ(เมนท์หลังนี่จะมีสมาชิกฝอดขับ สูงวัยๆ มาเตะผมไหมครับเนี่ย แหะๆ )

อ้อ.. ตอนถอยน้องฝอดมา พ่อตาก็ happy มากครับ แกรู้ว่าเขยจนๆ จะกัดฟันซื้อรถใหญ่ แกก็แอบเชียร์ฝอดอยู่ เพราะเคยทำงานกับเมกันแล้วประทับใจความบึกบึนทรหดของยี่ห้อน่ะครับ....

อ้อ(อีกอ้อนึง) ราวเดือนก่อนมีโอกาสใช้ปาเจสปอร์ตของเพื่อน ซึ่งเป็นรุ่นที่ผมมองคู่กับ EV ไว้ตอนนู๊นน ไปตระเวณอีสานหลายร้อยกิโลครับ ความต่างที่บอกได้ชัดๆ คือ มิตซูจะตอบสนองเอาใจวัยรุ่นกว่า ทั้งคันเร่ง เบรก พวงมาลัย อารมณ์ขับมุดๆ แบบเก๋งเล็กได้สบาย วงพวงมาลัยก็เล็กกว่าหน่อย ได้อารมณ์สปอร์ตดี ในขณะที่เจ้าฝอด จะตอบสนองเหมือนขับเรือใหญ่ที่นิ่งและมั่นคงกว่า แต่อัตราเร่งในช่วงลอยตัวใกล้เคียงกัน อัตราซดน้ำมันด้วยเท้าผม ดูแล้วก็เท่าๆ กันครับ > สรุปถ้าชอบขับแบบไปกับครอบครัว ev เหมาะกว่าปาเจสปอร์ต แต่ถ้าชับขับแบบวัยรุ่นหน่อย ปาเจตอบโจทย์ดีกว่าครับ ถึงจะวัยรุ่นสู้แลนเซอร์ไม่ได้ แต่ก็อารมณ์ประมาณนั้นครับ

กร๊าก.... คุณลูกบอลตอบได้แซ่บจริงๆ พับผ่าสิครับ... Likeๆๆๆๆๆๆๆ

ให้ไม่คิดมากตัวเลือกเยอะ กะบะ 4 ประตู ติด หลังคา ทำ เบาะ ติดแอร์ลอย  โอว์แม่เจ้า  จัดไปเลย 11 คน  

ขับ 2 ก็พอ  เกียร์ AT ด้วยเลย  ราคาไม่เกิน 950000 

เริ่มนอกเรื่องล่ะ  ก๊าาาาก

แนะนำ ให้เจ้าของกระทู้ เคลียร์กับที่บ้านก่อน ว่าจะออกอะไรแน่   ถ้าประเด็นหลัก ๆ คือ  ความปลอดภัย  นั่งได้ 5-7 คน  ประหยัดน้ำมัน ใช้ยาว ๆ 20 ปี โดยไม่ติดปัญหา หาอะไหล่ไม่ได้   ราคาไม่เกิน 1.2 ล้าน

หลัก ๆ เลย มีอยู่ไม่กี่ทางเลือก  ตามประเภทรถ

PPV ขับ 2 - Mitsu Pajero sport ได้ตัว top ทุกอัน ยกเว้น V6 , เชพ เทรลเบเซอร์  ได้ตัว Top

ตัดไปพวก Fortuner, MU7  เหตุผล  Hilux จะเปลี่ยนโฉม Model Change กลางปีหน้า เท่ากับกำลังจะตกรุ่น  ส่วน DMAX เปลี่ยนโฉมแล้ว จะออกตัว PPV สิ้นปีนี้ 

กะบะ 4 ประตู ขับ 2 - เอามาติดหลังคาทำเบาะ ติดแอร์แขวน  ได้ตัว japan ทุกตัว ตัว top ทุกยี่ห้อ  

Mini MPV -   ผมว่ามันแคบนะ ข้างหลังอ่ะ แต่ผมคงตัวใหญ่มาก  คุณลองไปดูแล้วกัน  ได้ทุกยี่ห้อ แถมได้ตัว top ด้วย   ประหยัดน้ำมันอยู่แล้ว น่าจะได้ประมาณ 15 - 17 โลลิตร

MPV - ได้ ตัว Top  Proton Exora CPE 1.6 Turbo ทั้งน้ำมัน และ แก๊ส, ได้ Toyota Innova ตัว Top

MPV มือ 2  ได้ ตัว Top ทุกตัวที่เคยออกมา  spacewagon ได้ปี 2011   ส่วน wish ได้ปี 2010  ครับ

รถตู้ -  เบาะมันเยอะ ก็ถอดออก แล้วเอาเบาะ vip ใส่แทน  ราคาไม่ทราบจริง  รู้แค่ H1

SUV - ตัวนี้เลยครับ ถ้าอยากได้ SUV จริง ราคามากกว่า ford หน่อย  ก็คือ nissan xtral  ส่วนพวก captiva, crv ก็ซื้อได้ครับ แต่อาจได้แค่ตัวแรก

สรุป คุยกับทางบ้านให้เรียบร้อย ไปลองขับทุกยี่ห้อ แล้ว ค่อยมาเปรียบเทียบ ดีที่สุดครับ เพราะตอนนี้มันกว้างไป  แล้วมันจะไม่จบ เอิ๊ก ๆ

 ขอแจมด้วยครับ..มาช้าหน่อย  หากชอบ ฟอร์ด เลือกเอฟเวอร์เรส สบายใจกว่าเยอะ.. ตัวที่คุณถาม ใช้จริง ๆ จุกจิกกว่า ตัวนี้เยอะครับ แถมเติมน้ำมันที หนาว เดี๋ยวหาย ๆ....

ดูจากการใช้งานของคุณเด็กนอกอู่แล้ว ใช้บนทางเรียบเป็นหลัก ผมยังเชียร์รถตู้ HYUNDAI H-1 ครับ เพราะ

- การโดยสาร: จุได้ 11-12 ที่นั่ง ขึ้น-ลงสะดวกกว่าพวก PPV

- เครื่องยนต์: แรง ทนทาน (โซ่ขับราวลิ้น) และประหยัด (ถ้าขับไม่เกิน 120 กม./ชม. ได้กว่า 13 กม./ลิตร)

- ช่วงล่าง/วงเลี้ยว: นุ่มสบายกว่าพวก PPV/วงเลี้ยวแคบกว่า PPV พอๆ กับเก๋ง

- อะไหล่/ศูนย์บริการ: ราคาไม่สูง พอๆ กับกระบะ ศูนย์บริการน้อยแต่กำลังจะเพิ่มขึ้นในจังหวัดใหญ่ๆ

- ราคายาง: ถูกกว่า PPV ที่ใช้ยางใหญ่ๆ เช่น All-Terrain หรือ Mud Terrain เยอะ

- ภาษีรายปี: 1,600 บาท ตั้งแต่ปีแรก (พวก PPV จะคิดตามซีซีความจุกระบอกสูบ พวก 2.5 ลิตรอยู่แถว 4 พันกว่าบาท 3.0 ลิตรอยู่แถวๆ 7 พันบาท)

ขอบคุณครับ คุณลูกบอล 

อ่ะ อ่ะ พิมพ์งบผิดครับ   ตั้งไว้ไม่เงิน 1.2ล้านครับ ถ้าซื้อคงเอาตัวขับ2พอครับจะประหยัดกว่าตัวขับ4ใช่ไหมครับ  สรุปก็คือ ค่ายฟอร์ด มองข้ามได้เลยใช่ไหมครับ  มามองตัวหลักๆ ก็ค่าย โตโย / อีซู / มิตซู / เชฟ แค่4ค่ายก็พอใช่ไหมครับ  

ตอบตรง ๆ เลยครับ  ถ้าขับ 2 PPV ทุกตัวราคาไม่เกิน 1.2 ล้านครับ  ยิ่งเครื่องเบนซินด้วย ราคาไม่ถึงล้านด้วยซ้ำไป  เหตุผลเพราะเทคโนโลยีดีเซล แพงกว่าเบนซินครับ  แต่ก็ขึ้นอยู่กับค่ายรถอีกล่ะ ว่าจะตั้งราคามาเท่าไหร่  แต่ฟันธงครับ ขับ 2 ทุกตัวราคาไม่เกินที่บอก

ส่วน ขับ 4  นี่คงขึ้นอยู่กับค่ายรถแล้วครับว่าจะต้องราคาเท่าไหร่  แต่ราคาไม่เกิน 1.5 แน่นอน ครับ  เต็มที่เลยนะ 1.3 ปลาย ๆ  ถ้าแพงกว่านั้น ซื้อพวก SUV  อย่าง CRV, Tuson, Captiva, ขับจะดีกว่าครับ  

ถ้าจะออก everest แนะนำว่ารอ all new ครับ แต่ไม่แน่ใจว่า ford จะออกมาหรือเปล่า เพราะแค่ตัว ranger นี่ก็ยังไม่ค่อยจะมีรถส่งเลย รอกันข้ามปีก็ว่าได้ เอิ๊ก   อีกอย่างถ้าออกตัวของน้าเอ็ม   มันจะหาอะไหล่ยากแน่ ถ้าลากยาว 20 ปี เพราะตัว ranger รุ่นที่เอามาผลิต everest ยุติไลน์ผลิตมาปีกว่า แล้วครับ

แต่ที่แน่ ๆ จะมี Isuzu ออกมาแน่นอนปลายปีนี้ 

ขอขอบคุณ คุณลูกบอล มากๆครับ

เข้าห้องเรียนสาย โดนดุไหมน๊อ อิอิอิ

น้าๆ ตอบส่วนของผมไปหมดแล้วอ่ะครับ

ใช่ครับ ผมใช้ everest รุ่นปี 09 ใช้มาสามปีกว่าแล้ว เหลือผ่อนอีกเกือบปีนึงก็เป็นไทล่ะครับ
ช่วงเวลาที่ใช้มา ไม่เคยมีปัญหาเลยครับ แต่มันรถหลายปีแล้ว น่าจะรอรุ่นใหม่ดีกว่าครับ ถึงจะคิดใช้ยาว ไม่เปลี่ยนมือก็ตามครับ

ตอนผมซื้อนั้น มีตัวเลือกแค่สอง เพราะราคาต่างเจ้าตลาดหลักแสน มีให้ผมเลือกคือ ปาเจสปอร์ต กับ everest ครับ

เงื่อนไขผมนอกจากอันแรกคือราคาแล้ว ก็มีการใช้สอยภายใน ซึ่งผมจะเอามาเป็นรถครอบครัว(คนสามหมาเล็กสอง ณ วันนั้น) ความกว้างขวางที่มากกว่านิดหน่อยในช่วงท้ายของ everest (ยกเบาะแถวสามออกได้)เลยได้เปรียบปาเจสปอร์ตหน่อย ระบบน้ำมันของ bosch ก็ให้ความมั่นใจมากกว่า denso เซลที่ดูเอาใจใส่กว่า กับศูนย์ที่เคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับตอนใช้ e-car และหน้าตาที่แก่ๆ แนวป๋าๆ ไม่วัยรุ่นอย่างปาเจ ทำให้เมียผมก็ชอบน้อง everest มากกว่าครับ

ตอนนั้นสองตัวเจ้าตลาดที่ผมตัดไป คือมิวกับฟอร์จูน นอกจากราคาที่ต่างหลักแสนแล้ว ก็มีหน้าตาและภายในของมิว ที่ผมรับไม่ได้(แต่แฟนผมโอนะ) ส่วนฟอร์จูนผมดูภายในแล้วผมชอบ everest มากกว่าในเรื่องคุณภาพการประกอบและรสนิยม(แต่เรื่อง style ฟอร์จูนโฉบเฉี่ยวกว่า) แต่จุดสำคัญที่บ้านผมตัดฟอร์จูนออก เพราะบ้านผมเน้นใส่สัมภาระในแถวหลังสุด แต่เบาะของฟอร์จูนเป็นแบบพับแขวนข้าง ดูแล้วโซนนั้นน่าจะนั่งสบายกว่า everest พอควร... แต่โซนนั้นบ้านผมไม่ใช้นั่ง แต่ใช้ใส่กรงหมาครับ เลยไม่ตรงการใช้งาน

ข้อมูลเกี่ยวกับฝอด น้าลอง search หาดูเพิ่มในบ้านใหญ่ชาวฝอดละกันนะครับ ;-)
http://www.fordclub.net/2011/main.php?mod=webboard&fn=board

เรื่องการประหยัดน้ำมัน ผมใช้ everest เดินทางไกล ได้ราวๆ 11.5-12 กม/ลิตรครับ (ความเร็วแช่ที่ประมาณ 110) แต่เรื่องความประหยัดน้ำมันเนี่ย น่าจะตามลักษณะการขับขี่เป็นส่วนใหญ่ครับ ผมขับรถอะไร จะเก๋งจะกระบะ ก็ได้ประมาณเท่าๆ กันนี่แหละครับ แปลกดีเหมือนกัน ขนาดขับ cameo เครื่องมังกรทองเขาว่าประหยัด ผมก็ได้ราวๆ นี้แหละครับ อิอิ

ก่อนหน้านี้ก็อยากได้ Trailblazer ใจจะขาดรอน ๆ แต่ดูกำลังของเราแล้ว ไม่พอ เพราะเิพิ่งออก swift ให้แฟนคันนึง

ตอนนี้จึงต้องถอยมามอง Spin ซึ่งเป็นค่ายเดียวกัน ช่วงล่าง Euro Ride เกาะถนนอยู่แล้ว แถมแรงบิดมากกว่า Mini MPV

ในตลาด และมาในรอบต่ำ แสดงถึงความแรงที่มาพร้อมกับความประหยัดน้ำมัน ถ้าเทียบกับ Avanza แล้วต่างกันเยอะครับ 

เพราะSpin เล็กกว่า Innova นิดเดียวเองครับ แต่รูปโฉมทันสมัยไม่ตกยุค ที่สำคัญราคาโดนใจ 762000 บาทเอง ผมกะจะถอยแ้้ล้วเอาไปติด E85 Conversion Kit จะประหยัดสุด ๆ เลยครับ อีกอย่างผมทำการค้า ตัวนี้พื้นที่วางของเยอะมาก จึงตอบโจทย์รครับ

ตามคุณลูกบอลเลยครับ แต่ถ้าเป็น 2 ตัวนี้ ผมให้ภาษีเจ้า Trailblazer มากกว่า Pajero Sport เพราะความแรง ประหยัด ปลอดภัยกว่า เกาะถนนและเบรกพอๆ กันครับ.... ถ้าตอนนี้เจ้า FORD Everest ออกตัวใหม่ตาม Ranger ผมก็ควเชียรน์อีกรุ่นครับ เพราะผมใช้เจ้า Ranger 2.2 XLT 4WD 6MT อยู่ แรงและประหยัดใช้ได้เลยครับ (เหยียบยังไงก็ได้ 12 กว่าๆ กม./ลิตร)

ส่วนเจ้าตลาดผมไม่เลือกแน่นอน เพราะราคาสูงเกินคุณภาพ เพราะไปทุ่มกับการโฆษณาซะหมด

ถ้าจะเอาก่อนสิ้นปีนี้คือ งานมอเตอร์โชว์   หลัก ๆ มีแค่ 2 ตัว นี้ครับ  นอกนั้น ต้องรอสิ้นปี

MITSUBISHI Pajero Sport

CHEVROLET Trailblazer

สำหรับตัว ปาเจโร่  คาดว่าคงขายกันอีกหลายปี เพราะว่าเพิ่งเปลี่ยนเครื่อง + เกียร์ และยกช่วงล่างใหม่ มาได้ไม่นาน

ตัวที่ผมคิดว่าน่าจะประหยัดสุด คือ all new isuzu MU7 จะใช้ชื่อนี้อีกหรือเปล่าไม่ทราบเหมือนกัน  แต่โดยพื้นฐานรถพวกนี้จะบริโภคกันอยู่ในโซน 9 - 12 กิโลลิตรอยู่แล้วครับ   นอกจากว่าคุณจะซื้อตัวเบนซินมาติดแก๊ส ก็จะประหยัดไปได้อีกโขอยู่  ประหยัดในเรื่องอัตราบริโภคเท่านั้น ไม่ได้ประหยัดในเรื่องค่าซ่อมบำรุง   แนะนำว่า ถ้าจะซื้อ ซื้อเครื่องดีเซลครับ  ถ้าคิดจะลากไป 20 ปี  ดีเซลไมล์ตีกลับก็ยังไม่พัง นอกจากว่า เครื่อง overheat

ผมแนะนำว่าให้คุณไปลองขับทุกตัว  แล้ว เลือก มาแค่ 2 ตัว เพื่อเปรียบเทียบจะดีที่สุดครับ  ใจเย็น ๆ ไม่ต้องรีบครับ 

ขอบคุณ คำชี้แนะของ คุณบอลนะครับ

1. CHEVROLET Trailblazer
2. FORD Everest
3. TOYOTA Fortuner
4. ISUZU Mu-7
5. MITSUBISHI Pajero Sport

อืม แสดงว่าอยากได้จริง  อยากได้จริงก็ซื้อครับ  ไงป้ายแดง มันก็ไม่ต้องซ่อมอะไรไปอีก 6 7 ปี น่ะล่ะครับ   แต่อย่างที่บอกมันปลาย ๆ model แล้ว อะไหล่ซึ่งปกติ ก็ราคาแพง และหายากอยู่แล้ว  มันจะลำบาก ถ้าคิดจะใช้ยาว ๆ ขนาด 10 - 20 ปี  ถ้า เอาแค่ 10 ปี ก็ ok อ่ะ ยังถูไถ ๆ กันไปได้   แต่ถ้าจะลากไป 15 - 20 นี่ ผมว่า PPV ดีกว่าครับ  อะไหล่เทียบของตัวกะบะ มาใช้แทนกันได้แทบทั้งหมด 

ลองตรองดูครับ  แค่ชี้แนะเป็นแนวทาง ไม่อาจบังคับใจใครได้ เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ

ขอตอบในส่วนของผมก่อนนะครับ... ที่ผมใช้มาตลอดระยะเวลา 5 ปี ไม่มีปัญหาเลยครับ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงครั้งละ 2-4 พันกว่าบาท (แค่น้ำมันเครื่องก็ใช้เกือบ 9 ลิตร ตกเกือบพันแล้ว) พอๆ กับกระบะ (เทียบกับกระบะ 4WD ที่ใช้อยู่ยังถูกกว่าเล็กน้อยครับ) อะไหล่ไม่ต้องกังวล เพราะที่ลาวนิยมใช้มากกว่ารถตู้ TOYOTA Hiace Commuter ซะอีก อัตราเร่งดี แซงพวกกระบะ 3.0 ลิตรสบายๆ ขึ้นดอยกำลังไม่ตก แต่ถ้าออกตัวเกียร์ 1 ที่ทางชันมากๆ ต้องเหยียบคันเร่งเยอะๆ ให้ถึงรอบแรงบิด แล้วค่อยปลดเบรกมือครับ

ส่วนของพี่ๆ อีก 2 ท่านขอตอบแทนนะครับ ถ้าไม่ครบถ้วนช่วยเสริมด้วยนะครับ

- PPV (Pick up Purpose Vehicle): ประกอบด้วย

  > รุ่นใหม่: CHEVROLET Trailblazer, MITSUBISHI Pajero Sport, TOYOTA Fortuner (เพิ่งเปลี่ยนเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ และปรับแรงม้าแรงบิดเพิ่ม)

  > รุ่นเก่าที่รอเปลี่ยนโฉม: ISUZU Mu-7, FORD Everest

ถ้าเอาสมรรถนะและความปลอดภัย ณ ตอนนี้ยกให้ CHEVROLET Trailblazer ครับ (เพราะ FORD Everest ตกรุ่นไปแล้ว)

- CHEVROLET Spin VS TOYOTA Avanza:

  > สมรรถนะและความสิ้นเปลือง: แรงบิดของ Spin อยู่ที่ 148 นิวตัน-เมตร สูงกว่า Avanza อยู่ที่ 141 นิวตัน-เมตร มีผลต่ออัตราเร่งและความสิ้นเปลืองขณะบรรทุกผู้โดยสาร/สัมภาระ

  > ห้องโดยสาร: Spin กว้างสบายกว่า Avanza พอสมควร

  > ความนุ่มนวล/เกาะถนน: Spin ดีกว่า Avanza มาก เพราะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวดี

  > ความปลอดภัย: Spin ดีกว่า Avanza มาก เพราะแพร่หลายในยุโรปซึ่งเน้นความปลอดภัย ขณะที่ Avanza ตัวถังบางๆ เน้นการใข้งานในเมือง ความเร็วไม่สูง

  > ค่าบำรุงรักษา: Avanza จะทนทานกว่า Spin ตรงระบบขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ตัวถังจะสู้ Spin ไม่ได้ ส่วนอื่นๆ พอๆ กัน และจะได้เปรียบด้านอะไหล่นอกศูนย์กว่า Spin ในระยะยาว

ตอบแทนก่อน

คุณเอ็ม แกออก  เอฟเวอร์เรส มาครับ  ราคาเกียร์ MT ตอนนี้ประมาณ 9 แสนนิด ๆ  ถ้า at ก็มีล้านนิด ๆ 

ของคุณชวลิต   ได้ครับ รถมัน mpv เหมือนกัน  เท่าที่ลองดูมา  ผมว่า  proton กว้างกว่า นิดหน่อย  ในรุ่นเดียวกัน พิกัดเดียวกัน proton น่าซื้อสุด เพราะได้เครื่อง turbo  แถมติดแก๊สมาให้จากโรงงาน    ส่วนเน้นการนั่ง เนี่ย ผมว่า เบาะหลัง ควรจะเป็นคนตัวเล็ก ๆ นั่งนะ   แต่ spin ฝรั่งตัวผอม ๆ แต่สูง พอ ๆ กับผม เค้านั่งได้ ไม่อึดอัดเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับ ตัว suzuki หรือ avanza   ลองไปดูโปรตอนเปรียบดูครับ  โปรตอนได้เครื่อง 1.6 cpe turbo  แรงใช้ได้เลย   ตอนแรกว่าจะออกเหมือนกัน  แต่รับเรื่อง อะไหล่ไม่ได้  เอิ๊ก  ถ้าจะดู MPV ดูหลาย ๆ ค่ายครับ 

เพิ่มเติมของคุณชวลิต  ถ้า MPV มัน ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ รถระดับเครื่อง 1.5 1.6 นะ  เครื่อง 2.0 2.2 2.4 ก็มี   ตัวเครื่องใหญ่น่ะ พวกมือ 2 ก็น่าเล่น ถ้าคุณเน้นว่ามันต้องมือ 2  ก็มีพวก mitsu spacewagon  ตัวนี้ตอนออกมาราคาแรงกว่า wish แถมดีกว่ากันเยอะ   แต่ถ้าเน้นอะไหล่หาง่ายกว่า ก็ต้อง wish ครับ  ถ้าเป็น wish หาปีหลัง ๆ เข้าไว้  ปีแรก ๆ มีปัญหาเรื่องแอร์ แถว 3 ไม่เย็นอย่างแรง   

ย้ำนิดนึง ถ้าจะเล่น mpv แนะนำเลยว่า ตัวที่เครื่อง 1.5 1.6 ที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ ยี่ห้อเด่น ๆ คือ avanza, eriga, spin, esxora   พวกนี้ซื้อป้ายแดงไปเลยดีกว่า

ส่วน mpv ที่เครื่อง 2.0 2.2 2.4  ซื้อมือ 2  ก็ spacewagon, wish   2 ตัวนี้ ถ้าปีล่าง ๆ ราคามันจะแตะพวกมือ 1 อย่าง innova ด้วยซ้ำไป  หาดี ๆ ผมก็อยากได้เหมือน spacewagon  ตอนนั้น ไม่มีอารมณ์หา แถม ผบ. ไม่อยากได้มือ 2 ก็เลย จบไป  ลองดูครับ  รถดี ขับสนัก ก็ wish กับ space  ส่วน innova รถมันสูงไปหน่อย แถมมือ 1 ต้องซื้อตัว top ถึงจะได้ของครบ  ก็ไม่ไหวคันละเป็นล้าน  เง้อ

ส่วนของพี่นนท์ ผมไม่มีความรู้  รอพี่แกมาตอบล่ะกันครับ  เอิ๊ก ๆ

@คุณเด็กนอกอู่.... ผมใช้เจ้า HYUNDAI H-1 เกียร์ธรรมดาเข้าปีที่ 5 กับระยะทางเกือบ 150,000 กม. จึงอยากแนะนำให้ใช้ครับ วงเลี้ยวแคบพอๆ กับรถเก๋งขนาดใหญ่ (NISSAN Teana, TOYOTA Camry, HONDA Accord) ล่าสุดผมไปกลับ จ.ระนองได้ราวๆ 12.5 กม./ลิตร (ขับที่ความเร็ว 120-140 กม./ชม.เป็นส่วนใหญ่ สลับกับรถติดขาไปช่วงชะอำ หัวหิน) ผมเคยลองเหยียบได้เกือบ 175 กม./ชม. โดยไม่มีอาการวูบวาบ แต่ตัวปัจจุบัน (เกียร์ธรรมดา) จะแรงน้อยกว่าผม เพราะรุ่นเดิม 174 แรงม้า ที่ 3,800 รตน.392 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-2,500 รตน. เท่ากันทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ แต่ตัวปัจจุบันรุ่นเกียร์อัตโนมัติแรงกว่าที่ 175 แรงม้า ที่ 3,800 รตน.440 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-2,500 รตน. (เพิ่มขึ้น 48 นิวตัน-เมตร) ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดาอยู่ที่ 134 แรงม้า ที่ 3,800 รตน.343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รตน. (แต่เพิ่มเป็น 6 จังหวะ)

ผมเคยเล็งมาหลายรุ่น รถใหม่ก็ล้านกว่า มือสองก็กลัว

จนได้แต่เล็ง ไม่ยิงมาสักคัน เพราะงบประมาณมีจำกัด

ก็ทนขับรถเก่าไปพลาง ๆ ตอนนี้มีรถใหม่ยี่ห้อหนึ่งที่ตอบโจทย์ผม

คือราคาไม่ถึงล้าน มี 7 ที่นั่ง คันใหญ่พอสมควร นั่นก็คือ

เจ้า Chevrolet Spin เป็น MPV. ที่น่าสนใจเป็นอย่างแรง

ราคา 762000 บาท เท่านั้นเอง 107 แรงม้า แรงบิด 148

แรงบิดมาสุดในบรรดา Mini MPV ในตลาดตอนนี้

ดาวน์ห้าหกแสน งบล้านต้น ผ่อนเดือนละหมื่นต้น
และที่สำคัญ โดยสาร 5-7 คน ใช้ระยะยาว สิบปีขึ้นไป
ผมเชียร์ PPV เครื่องดีเซลครับ ขับสองก็พอ ไม่ต้องขับสี่ ถ้าทางไม่ทุรกันดารป่าเขาจริงๆ
ส่วนยี่ห้อตอนนี้ ก็มีทั้งเชฟ ฟอร์ด โตต้า อีสุ มิตซู ใช้งานทั่วไปดูความชอบของเราเองดีที่สุดครับ

ผมเองก็อยู่ในจุดนั้น เมื่อสามปีก่อน
กำตังค์หกเจ็ดแสน หารถครอบครัวมือสอง
สุดท้ายคิดสะระตะหลายเรื่องรวมกัน

ก็ไปดาวน์ PPV ใหม่มาหนึ่งคัน มีความสุขดี อีกปีก็ผ่อนหมดแล้ว
run-in ให้ดีๆ ระยะยาว น่าจะมีโอกาส happy กว่ามือสองครับ

ขอบคุณ คุณลูกบอลมากครับ

ขอถามเพิ่มเติมต่อนะครับ   แล้วถ้าจะหันมามอง รถมือ2 ในตอนนี้ 5-7ที่นั่ง ตัวไหนน่าใช้มั่งครับ ที่ปัญหาน้อย ใช้ดีครับ อะไหร่หาง่ายๆครับ ควรเป็นตัวไหน รุ่นอะไร ปีไหนดีครับ  และแนะนำราคาที่น่าคบไว้ให้ด้วยก็ดีนะครับ เพราะไม่ค่อยรู้ราคามือสองเท่าไหร่ครับ ว่าแต่ละรุ่นช่วงปี ควรอยู่ในงบประมาณไหนนะครับ  รบกวนด้วนนะครับ เพราะตอนอยู่ในช่วงหาข้อมมูล ทำการตัดสินใจอยู่ครับ แบบว่าอยากไม่ใจร้อนรีบออก อยากได้ของดี ใช้กันยาวๆครับ  แนะนำทีนะครับ ขอบคุณมากครับ 

ปล. ฮุนได H1 ตัวเกียร์ธรรมดา น่าใช้มั้ยครับ

ถ้าเอาราคาไม่เกิน 1.2 ล้าน ก็มี

furtuner 2.5 ทั้ง AT และ MT ครับ  ส่วนเครื่องเบนซิน ต้อง + อีกนิดนึง

pajero sport  ขับ 2 ได้ทุกตัว ยกเว้น 2.5 vg gt ที่ต้องเพิ่ม 9000 นืด ๆ ครับ   แต่ถ้าเอาตัวเบนซิน  เอาตัว v6 จะดีกว่า 2.4 เยอะ

ส่วนเทรลเบเซอร์ ตัวนี้ ดีสุดแล้ว ราคา ล้านนิด ๆ ครับ

ขอบคุณ คุณลูกบอลมากครับ

ผมขอถามต่อนะครับ คือ ณ ตอนนี้ ถ้าจะเอารถ 5-7 ที่นั่งแบบใช้ยาวๆ ปัญหาเครื่องยนต์ รวมถึงด้านอื่นๆ แบบจุกจิกน้อยๆ จะมีรุ่นไหนที่แนะนำบ้างครับ  ถ้าเป็นมือ1 งบสุดๆของผมคงจะไม่เกินล้านสองครับ  แล้วถ้าจะหาเล่นรถมือสอง ควรเล่นรุ่นไหนดีครับ  เพราะจากที่คุณลูกบอลแนะนำมา ดูท่าถ้าผมจะใช้รถแบบยาวๆไป เจ้าฟอร์ด เอสเคป E20 ใหม่ 4x2 XLT  ก็ไม่ควรมองใช่หรือเปล่าครับ  ที่ถามคือแบบความรู้เรื่องรถน้อยมากๆครับ เพราะงบน้อยเลยไม่ค่อยได้มองรใหม่เท่าไหร่ แต่พอเจอเจ้าฟอร์ดไม่เกิดล้านเลยอยากลองมือ1บ้าง(กิเลสแท้ๆ)  สรุปก็คือ      อยากให้แนะนำหน่อยว่าผมควรเลือกรุ่นไหนดี ครับ ตามงบที่แจ้งไป เน้นนั่ง 5-7คน ใช้ยาวๆ มากกว่า 10ปีไปเลย ประหยัด อะไหร่หาง่าย/ถูก สมรรถนะ  ความปลอดภัย ครับ

ขอถามอีกรุ่นเลยแล้วกันครับ เจ้า  ฮุนได h1 ตัวเกียร์ธรรมดา น่าสนใจมั้ยครับ ถ้าจะคบกันยาวๆ เพราะเพิ่มงบไม่มาก

ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

ทน สุด ดีสุด ในกลุ่ม suv ที่ขายในไทยที่ไม่ต้องนำเข้า ณ ตอนนั้น ครับ   ตอนนั้นหมายถึง ก่อนที่จะมี captiva กับ ทูซอน มาขายนะครับ

พอมันดีที่สุดแล้ว  อะไหล่ดันแพงที่สุดในกลุ่มอีกตะหาก ครับ   อีกอย่างมันใกล้จะ model change แล้วด้วย  สายการผลิตมันใกล้จะยุติแล้ว  ต่อไปอะไหล่ มันจะหายากกว่าเดิมเยอะมาก และ ราคาเหมือนซื้อทอง   ผมว่าถ้าที่บอกว่า ไม่ค่อยมีตังค์ 

ดูพวก PPV จะดีกว่าครับ อะไหล่ถูกกว่ากันเยอะ   ถ้ามีงบระดับ 900000 เนี่ย เติมอีกหน่อย ออก PPV ป้ายแดง สบายใจกว่ากันเยอะครับ  อะไหล่เทียบเยอะ ชิว ดี

ฟอร์ด เอสเคป E20 ใหม่ 4x2 XLT   รุ่นนี้ครับ

[img]http://www.motortrivia.com/section-new-car/new-car-thai/0009-ford-escape-e20/01-ford-escape-e20-xlt.jpg[/img]