อีซูซุพาล่องใต้ ขับรถเลาะริมอ่าวไทย กับ “อีซูซุคาราวานสัญจร 2559”
เส้นทางที่ 4 ชุมพร –เพชรบุรี
เดินทางมาถึงเส้นทางสุดท้ายกันแล้วกับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” ประจำปี 2559 สีสันแห่งความสุข สนุกสุด 4 เส้นทาง หนึ่งในกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าอีซูซุ และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ในรูปแบบคาราวาน กับเส้นทางที่ 4 นี้ อีซูซุพาล่องลงใต้ลัดเลาะเที่ยวไปริมอ่าวไทยด้วยเส้นทาง ชุมพร-เพชรบุรี ระยะทางกว่า 348 กิโลเมตร
โดยในงานนี้ได้รับเกียรติจาก มร.เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมด้วยนายสมดี คชายั่งยืน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และนางวิริยา แก่นแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชุมพร ให้เกียรติร่วมเปิดงานและตีธงปล่อยคาราวานรถอีซูซุ จำนวน 33 คัน ณ โชว์รูม บริษัท อีซูซุสุพรภัณฑ์ชุมพร จำกัด สำนักงานใหญ่ ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกกันที่ “วัดอ่างสุวรรณ” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดหนองหอย” ตั้งอยู่ในอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยความพิเศษของวัดแห่งนี้อยู่ที่อุโบสถสร้างมาจากไม้ตาล โดยชาวบ้านที่เป็นชาวสวนตาลในจังหวัดฯ มีจิตศรัทธาร่วมถวายไม้ตาลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 70-100 ปี เพื่อสร้างอุโบสถหลังนี้ โดยใช้ต้นตาลไปกว่า 10,000 ต้น ใช้เวลาสร้างกว่า 7 ปี จึงแล้วเสร็จ
นอกจากนี้สมาชิกอีซูซุคาราวานสัญจร ได้ร่วมสักการะพระพุทธรูปหลวงปู่ไทรซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางวันทา แกะสลักจากไม้ไทร มีอายุกว่า 200 ปี ก่อนจะเคลื่อนขบวนต่อไปยัง “โรงเรียนอุดมราชภักดี” ตำบลคลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมแบ่งปันน้ำใจ บริจาคเงินและอุปกรณ์การเรียนให้แก่เด็กๆ อิ่มบุญกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลามื้อกลางวันเหล่าคาราวานจึงออกเดินทางไปฝากท้องกันที่ “ร้านเฉี่ยวโอชา 3” ร้านอาหารทะเลรสจัดจ้าน บรรยากาศดีติดริมอ่าวประจวบฯ
อิ่มท้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหล่าทัพคาราวานอีซูซุก็เตรียมพร้อมมุ่งหน้าไปยังสถานีต่อไป เคลื่อนพลมาไม่นานขบวนคาราวานอีซูซุก็มาหยุดปักหมุดกันที่ “วนอุทยานปราณบุรี” ซึ่งเดิมเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยกำหนดพื้นที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า คลองคอย มีพื้นที่ประมาณ 1,984 ไร่ ประกอบด้วย ป่าชายเลน และมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่ป่ามีหาดทรายขาวสะอาดร่มรื่นด้วยแนวสนทอดยาว 1 กิโลเมตร อยู่ทางด้านตะวันออกของอุทยานฯ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเล เกาะสิงห์โต เขาตะเกียบ และเขาเต่า ซึ่งประชาคมอีซูซุได้ร่วมแรงร่วมใจปลูกต้นจิกทะเล พรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ดอกมีกลิ่นหอม นิยมปลูกเพื่อปรับภูมิทัศน์ ให้ร่มเงา ต้นจิกทะเลนี้ สามารถทนน้ำต่อท่วมได้ดี จึงนำมาปลูกในพื้นที่กว้างริมทะเลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เหล่าสมาชิกแวะพักผ่อนและซึมซับบรรยากาศธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์
ปิดท้ายความสนุกในทริปนี้ด้วยการเดินทางไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต ณ อุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ประกอบด้วย 7 พระองค์ ได้แก่ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (สมัยกรุงสุโขทัย) สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา) สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา) สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (สมัยกรุงธนบุรี) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ก่อนออกเดินทางสู่โรงแรมแกรนด์แปซิฟิก ซอฟเฟอริน รีสอร์ท แอนด์ สปา เพื่อร่วมปาร์ตี้มื้อค่ำด้วยบรรยากาศที่แสนครึกครื้นพร้อมด้วยกิจกรรมความสนุกมากมาย