เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับแบรนด์ DENZA (เดนซ่า) ในกลุ่มธุรกิจ BYD โดยยังคงเน้นความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีและความหรูหรา ผ่านการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลากหลายประเภทที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นรถครอสโอเวอร์ (Crossover) อย่าง DENZA N7, รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) อย่าง DENZA N8, รถแฮทช์แบ็กทรงสปอร์ตระดับพรีเมียมอย่าง DENZA Z9 GT และรถตู้อเนกประสงค์ (MPV) DENZA D9 ที่เน้นสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยีอัจฉริยะ
สำหรับรถยนต์รุ่นแรกที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยนั้นจะเป็นในรุ่น "D9" รถยนต์ MPV ไฟฟ้า 7 ที่นั่งสุดหรู โดย DENZA D9 ถูกนิยามให้เป็นยนตรกรรมสำหรับผู้บริหารยุคใหม่ โดดเด่นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มอบประสบการณ์การเดินทางอันหรูหราและเป็นเอกลักษณ์
ออกแบบภายใต้แนวคิด DENZA π - Motion ดีไซน์ด้านหน้ารถแบบ Pi Motion พร้อมด้วยไฟหน้ารูปแบบ Meteor Arrow และไฟท้ายออกแบบด้วยแนวคิดฝนดาวตกแห่งกาลเวลา มาพร้อมกับสมรรถนะอันเป็นเลิศจากมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุดถึง 275 kW และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาด 103.36 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ได้ภายใน 6.9 วินาที มาพร้อมระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C เทคโนโลยีช่วงล่างแบบไฟฟ้าเอกสิทธิ์เฉพาะจากบีวายดี รองรับการปรับแต่งความกระด้างและความนุ่มนวลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมรถ ลดปัญหาการยุบตัวของตัวรถ การพลิกคว่ำ การเกิดแรงกระชากเมื่อเบรกหรือเหยียบคันเร่ง รองกรับการชาร์จกระแสสลับ AC – กำลังสูงสุด 11 กิโลวัตต์ (3 เฟส) และรองรับการชาร์จกระแสตรง DC แบบ CCS2 – กำลังสูงสุด 166 กิโลวัตต์
ข้อมูลขนาดตัวถัง
· ความยาว 5,250 มิลลิเมตร
· ความกว้าง 1,960 มิลลิเมตร
· ความสูง 1,920 มิลลิเมตร
· ระยะฐานล้อ 3,110 มิลลิเมตร
· ระยะห่างของล้อ คู่หน้า/คู่หลัง 1,675/1,675 มิลลิเมตร
· รัศมีวงเลี้ยงแคบสุด 5.95 เมตร
· ความสูงใต้ท้องรถไม่รวมน้ำหนักบรรทุก 155 มิลลิเมตร
· ความสูงใต้ท้องรถรวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 140 มิลลิเมตร
· ความจุสัมภาระด้านท้าย 410 ลิตร
· ความจุสัมภาระด้านท้ายสูงสุด 2,310 ลิตร
ภายในห้องโดยสารของ DENZA D9 ให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วย Panoramic Glass Roof ขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะหุ้มหนังแท้ Nappa เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มาพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง รวมทั้งยังสามารถปรับหมอนรองศีรษะให้เข้ากับสรีระศีรษะ พร้อมระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ
นอกจากนี้ยังมีระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับและผู้โดยสารแถวที่สอง ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Welcome Seat และปุ่ม reset ตั้งค่าเบาะ ทำให้สะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถ หน้าจอมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 15.6 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลก Dynaudio Hi-Fi Class ลำโพง 14 ตำแหน่ง ที่พักแขนเบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง พร้อมหน้าจอ LCD แบบมัลติฟังก์ชัน ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ห้องโดยสารตอนหน้า 1 ตำแหน่ง และห้องโดยสารแถวที่สองอีก 2 ตำแหน่ง
ทั้งยังมีระบบตู้เย็นภายในรถยนต์ที่สามารถปรับแต่งองศาตั้งแต่ -6 จนถึง 50 และสัญญาณอินเตอร์เน็ต 4G ในตัว ให้ทุกคนใช้ชีวิตยุคออนไลน์ได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ พร้อมทั้งเติมเต็มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องโดยสารด้วยกระจกกันเสียง 2 ชั้นรอบคัน กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุรอบคัน 8 ตำแหน่ง ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) ขนาด 12 นิ้ว
รวมถึงเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครันสำหรับทุกเส้นทาง อาทิ
• ระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ (DMS)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC)
• ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
• ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
• ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTB)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
• ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
• ระบบช่วยเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
• ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
• ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
• ระบบช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
• ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
• ระบบช่วยป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
• ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)
• ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
• ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
• ระบบช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
DENZA D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท
ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา กำลังรวมสูงสุด 275 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 6.9 วินาที
DENZA D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท
ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังรวมสูงสุด 230 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 9.5 วินาที
สามารถสั่งจอง DENZA D9 ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการแบรนด์ DENZA ทั้ง 10 แห่ง ประกอบด้วย
• กรุงเทพมหานคร 3 แห่ง ได้แก่ สาธุประดิษฐ์ เพชรบุรีตัดใหม่ และศรีนครินทร์
• ต่างจังหวัด 7 แห่ง ได้แก่ ระยอง ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต