Suzuki XL7 Hybrid : ขับง่ายใช้คล่อง เสริมสมรรถนะด้วย Mild-Hybrid
วันนี้เราได้รับเจ้า Suzuki XL7 Hybrid ที่เพิ่งเผยโฉมกันไปเมื่อปลายปีที่แล้วช่วงงาน Motor Expo มาทดสอบกัน ส่วนมันจะเป็นยังไง มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน ตามเราไปทดสอบกันได้เลยครับ
Suzuki XL7 Hybrid ต้องบอกก่อนว่า Hybrid ของรถคันนี้นั้นเป็นแบบ Mild-Hybrid ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ระบบจะเข้ามาช่วยเหลือในเวลาออกตัวและการเร่งแซงเท่านั้น โดยรถยนต์รุ่นนี้มีค่าตัวแปะป้ายอยู่ที่ 799,000 บาท แต่รถคันที่เรานำมาทดสอบเป็นสี Two Tone ซึ่งมีราคาเพิ่มอีก 10,000 บาท รวมเป็น 809,000 บาท โดยสีตัวถังของรถคันนี้เป็นสีเบจใหม่ที่ชื่อว่า Savanna Ivory Metallica ส่วนอุปกรณ์ที่ปรับปรุงเพิ่มเติมมาจากรุ่นก่อนหน้านี้ที่เห็นได้ชัดเลยก็มีส่วนของกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ฝาท้ายตกแต่งเส้นโครเมียมใหม่พร้อมสัญลักษณ์ Hybrid
Suzuki XL7 Hybrid คันนี้มาในรูปแบบของรถที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยที่นั่งภายในห้องโดยสารสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งแถว 3 ที่สามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระเมื่อไม่มีผู้โดยสาร หรือหากต้องเพิ่มที่เก็บของเข้าไปอีกก็สามารถพับที่นั่งแถว 2 ได้เช่นกัน
โดยภาพรวมแล้วเป็นรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ง่ายกับการใช้งาน การออกแบบภายในมีการใช้ลายไม้เข้ามาประกอบ เบาะที่นั่งใช้วัสดุผสมผสานระหว่างผ้าสังเคราะห์กับหนังสังเคราะห์ ดูแลรักษาได้ง่าย แผงหน้าปัดมาตรวัดอ่านง่ายสบายตา ส่วนหน้าจอกลางระบบสัมผัสมีขนาด 10.1 นิ้ว สำหรับระบบความบันเทิงต่างๆ ระบบปรับอากาศด้านหน้า 4 ช่อง ส่วนช่องแอร์บริเวณแถวสองสามารถปรับความแรงเบาได้เอง ส่วนของระบบช่วยเหลือของตัวรถมีมาให้ครบตามแบบที่รถยนต์สมัยใหม่มีให้
ตัวเครื่องยนต์ของรถยนต์ Suzuki XL7 Hybrid คันนี้ใช้เครื่องยนต์รหัส K15B เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุ 1,462 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่วนของระบบไฮบริดเป็นแบบ Integrated Starter Generator (ISG) ทำงานในลักษณะ Mild-Hybrid โดยมีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 10Ah 12V ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พวงมาลัยเป็นแบบ Rack & Pinion
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทและคอยล์สปริง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีมและคอยล์สปริง โดยมียางติดรถมาขนาด 195 ซีรีส์ 60 ขอบ 16 นิ้ว ด้านของระบบเบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์เบรก ชณะที่ด้านหลังใช้เป็นดรัมเบรก ถังน้ำมันมีความจุ 45 ลิตร
น้ำหนักรวมของรถทั้งคันประมาณ 1 ตันเศษๆ หรือตัวเลขเป๊ะๆ คือ 1,195 กิโลกรัม ตัวรถมีความยาว 4,450 มิลลิเมตร กว้าง 1,775 มิลลิเมตร และสูง 1,710 มิลลิเมตร โดยมีระยะฐานล้อวัดจากดุมล้อหน้าจนถึงดุมล้อหลังอยู่ที่ 2,740 มิลลิเมตร
ขับรถออกตัวมาก็ขับได้อย่างง่ายๆ แอร์เย็นฉ่ำ บนท้องถนนในเมืองขณะที่เรากำลังทดสอบอยู่นั้นมีการจราจรที่เรียกว่าค่อนข้างหนาตาหน่อย แต่ไม่ได้ติดขัดอะไร ซึ่งด้วยความที่ XL7 คันนี้มีขนาดค่อนข้างกะทัดรัดแต่มีตัวรถที่ค่อนข้างสูง ทำให้ทัศนวิสัยค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว มองรอบๆ ได้ง่าย เลยขับขี่ได้ง่าย การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารค่อนข้างใช้ได้ ช่วงล่างให้ความรู้สึกไปในทางนุ่มนวลสักหน่อย เมื่อรวมกับวัสดุที่ใช้ทำเบาะที่ค่อนข้างนุ่มด้วย เลยให้สัมผัสของการนั่งขับขี่ที่สบายและนุ่มนวล พร้อมอัตราเร่งที่ดีใช้ได้จากการช่วยเหลือของระบบ Mild-Hybrid
โดยภาพรวมแล้ว Suzuki XL7 Hybrid ถือเป็นรถที่ขับง่ายขับคล่อง ไม่มีอะไรซับซ้อนยุ่งยากมากนัก สามารถใช้งานได้ง่ายๆ จะขับไปจ่ายตลาด รับลูกหลาน หรือขนอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างถุงกอล์ฟก็พับเบาะลงเพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระก็ได้ เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันมากคันหนึ่ง แต่จะถูกใจกับรสนิยมของท่านผู้อ่านที่สนใจหรือไม่ อันนี้แนะนำให้ติดต่อโชว์รูมของทางซูซูกิแล้วไปทดลองนั่งทดลองขับกันดูได้เลยครับ
Suzuki XL7 Hybrid
ราคา |
799,000 บาท เพิ่มสี Two Tone 10,000 บาท เป็น 809,000 บาท |
เครื่องยนต์ |
เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว, 1,462 ซีซี บวกมอเตอร์ ISG |
พละกำลังสูงสุด |
105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด |
138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที |
เกียร์ |
อัตโนมัติ 4 สปีด |
แบตเตอรี่ |
ลิเธียมไอออน 10Ah 12V |
ความยาว |
4,450 มิลลิเมตร |
ความกว้าง |
1,775 มิลลิเมตร |
ความสูง |
1,710 มิลลิเมตร |
ระยะฐานล้อ |
2,740 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก |
1,195 กิโลกรัม |
ล้อและยาง |
ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยปัดเงาขนาด 16 นิ้ว และยาง 195/60 R16 |