Next Gen Ford Ranger Raptor V6 : กระบะไฮโซ แรงและแพงกว่าใคร

 

 

                ใช่ครับบอกไว้แบบนั้นเพราะมันเป็นคำนิยามที่ชัดเจนที่สุดสำหรับรถกระบะ Ford Ranger Raptor ใหม่ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างที่สร้างความน่าสนใจให้กับรถกระบะในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาในงานมอเตอร์โชว์ 2022 กับ Next Gen Ranger รถกระบะเจนเนอเรชั่นใหม่ ท่าทางฟอร์ดนั้นได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคอย่างครอบคลุมในทุกด้าน ซึ่งหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความสนใจ และมียอดจองที่เกินความคาดหมายนั่นก็คือ Raptor รถกระบะรุ่นท๊อปที่สุดที่มีของฟอร์ด

 

   

 

             โดยยอดจองมากกว่าครึ่งเป็นของ Raptor ซึ่งสร้างความแปลกใจให้หลายๆ คนว่าทำไมรถกระบะที่มีราคาเกือบๆ สองล้านรุ่นนี้ถึงมีคนอยากได้ไปครอบครองเป็นเจ้าของกันเยอะจัง วันนี้รถเริ่มทยอยส่งมอบให้กับลูกค้ากลุ่มแรกๆ ที่จองไว้เรียบร้อยพร้อมกับที่ Autocar Thailand มีโอกาสทำความรู้จักกับ Ford Ranger Raptor ใหม่กันด้วย จึงอยากมาแบ่งปันความรู้สึกกันทุกๆ คนกัน

 

 

                อย่างแรกที่ทำให้ Raptor มีความน่าสนใจมากๆ คือเรื่องของเครื่องยนต์ครับ เพราะนี่เป็นการมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V6 ที่ให้แรงม้าเกือบๆ 400 แรงม้า ใช่ครับไม่ผิดนี่คือรถกระบะที่มีแรงม้ามากกที่สุดที่มีในตลาดตอนนี้เลย เรียกว่าเห็นตัวเลขแรงม้าขนาดนี้รถสปอร์ตบางคันมีอายเลยทีเดียว ที่สำคัญคือเป็นม้าจากโรงงานไม่ได้มีการปรับแต่ง จูนเพิ่มเติมอะไรออกจากโรงงานผลิตติดรถมาให้ก็มาแบบนี้เลย อัตราเร่งติดเท้า พุ่งแบบทันใจไม่เกรงใจน้ำหนักตัวรถที่เยอะเลยแม้แต่น้อย แต่จากการขับใช้งานก็ต้องแลกมาด้วยอัตราสิ้นเปลืองระดับ 5.4 กิโลเมตรต่อลิตรนะครับ ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของ Raptor คันนี้คงไม่สนใจเท่าไหร่ เพราะทันทีที่ตัดสินใจควักเงินเป็นเจ้าของก็คงรู้ตัวอยู่แล้วว่าต้องเจอกับอะไร แค่ขอให้มันเป็นรถที่รถยนต์ตอบสนองความต้องการ ความสะใจก็เพียงพอ ความเร็วสูงสุดที่ลองทำได้อยู่ที่ 188 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะว่าไปก็ถือว่าเยอะอยู่สำหรับรถกระบะ รถกระบะคันนี้คุณสามารถที่จะปรับตั้งเสียงท่อไอเสียได้แบบที่ชอบ ช่วงล่างและพวงมาลัยได้ตามความต้องการของคุณเลยครับ นอกเหนือจากโหมดการใช้งานทั้ง 7 แบบที่มีมาให้ ชอบแบบไหนก็ปรับตั้งไว้ตามที่ต้องการ และสามารถกดปุ่ม R ที่พวงมาลัยเพื่อใช้งานได้ทันทีขณะขับขี่

 

 

                การทำงานของท่อไอเสียนั้นจะมีระบบวาล์วเปิด-ปิดเพื่อให้เสียงของเครื่องยนต์ V6 เป็นไปตามที่ต้องการ ช่วงล่างของ Fox นั้นก็รองรับการขับใช้งานได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการขับในเมือง นอกเมืองหรือการลุยในแบบที่มั่นใจได้หายห่วง โหมดการขับขี่ที่โดดเด่นนั้นยกให้โหมดสปอร์ต (Sport) กับ บาฮา (Baja) ในโหมดสปอร์ตนั้นแทบจะไม่เชื่อว่าจะมีในรถกระบะแต่ Raptor แต่ก็มีมาให้และขับได้แบบสปอร์ตเร้าใจจริงๆ ทั้งการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง และเสียงท่อไอเสีย

 

 

ส่วนในโหมดบาฮานั้นก็มาจากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่จะช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีระบบช่วยให้การทำงานของเทอร์โบทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่งกำลังได้ทันทีไม่มีขาดตอน ในโหมดลุยๆ อย่างออฟโรดก็มีระบบ Trail Control ที่ช่วยให้การขับในทางสมบุกสมบัน ขึ้นลงทางลาดชันมากๆ เป็นเรื่องง่าย ซึ่งต้องใช้ร่วมกับการใช้งาน 4L

 

   

 

                ภายในห้องโดยสารนั้นยกให้เป็นสิ่งที่ชอบที่สุดใน Raptor ใหม่นี้เพราะมันให้ความรู้สึกที่ไม่ใช่รถกระบะมากนัก เป็นอารมณ์แบบรถสปอร์ตเลยทีเดียว ทั้งการออกแบบเบาะนั่งที่ได้แนวคิดมาจาดเครื่องบินขับไล่ หน้าจอและหน้าปัดที่คมชัดรายละเอียดครบถ้วนสวยงาม วัสดุภายในห้องโดยสารที่ใช้มาแบบรถสปอร์ตเลย แม้กระทั่งเครื่องเสียงที่ติดมาให้เรียกว่าเอสยูวีหรูๆ บางคันมีอายนะครับ

 

   

 

                หลายคนมีภาพในหัวว่า Ford Ranger Raptor ลุยทางฝุ่น ลุยออฟโรด ไปได้ทุกที่ ซึ่งศักยภาพของรถนั้นทำได้แน่ครับ แต่สิ่งที่ผมเห็นนี่คือกระบะไฮโซ กระบะของคนมีเงินหรือใครที่อยากมีรถกระบะสักคันที่ไม่เหมือนใคร ขับไปไหนก็ต้องมีเหลียวให้กับรูปโฉมของกระบะคันนี้ และเสียงเครื่องยนต์ V6 ของมัน ใช้งานแบบสปอร์ต หรือจะบอกว่าเป็นซูเปอร์คาร์ของรถกระบะก็ว่าได้ มากไปกว่านั้นจะมีกระบะสักกี่คันที่มาพร้อมเครื่องเบนซิน V6 ที่ให้เสียงดุดันเร้าใจ และให้กำลังแรงม้าได้ขนาดนี้ ยินดีกับคนที่ได้จอง Ford Ranger Raptor V6 ใหม่นี้ไว้ด้วยนะครับ และขอให้ทุกท่านมีความสุขกับรถคันโปรดคันนี้อย่างเต็มที่ ว่าแต่ใครที่จองคิวหลังๆ อาจจะต้องรอรับรถนานหน่อยนะครับ โดยเฉพาะคนที่จองสีขาวไว้...

 

 

Next-Generation Ford Ranger Double Cab Raptor

ราคา                                                       1,869,000 บาท    

เครื่องยนต์                                              3.0 ลิตร V6 ทวินเทอร์โบ Ecoboost

กำลังสูงสุด                                            397 แรงม้า ที่ 5650 รอบต่อนาที         

แรงบิดสูงสุด                                          583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที 

เกียร์                                                       อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ Electronic Shifter         

ความยาว                                               5,341 มม.

ความกว้าง                                             2,028 มม.             

ความสูง                                                 1,922 มม.

ระยะฐานล้อ                                           3,270 มม.             

ล้อและยาง                                            อัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางออลเทอเรน ขนาด T285/70 R17