ธุรกิจแบบยั่งยืนสำหรับรถยนต์มือสอง ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินตัว
ความโปร่งใส การมองการณ์ไกล และการปรับตัวให้ทันยุคสมัย นับเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจแบบยั่งยืน Autocar Thailand ฉบับนี้จะพาไปแลกเปลี่ยนแนวความคิดกับตัวแทนผู้บริหารธุรกิจรถยนต์มือสอง “อมรวารันตี” โดยอมร รัชดา ว่ามีวิธีคิดหรือเคล็ดลับในการดูแลธุรกิจให้ครองใจลูกค้ามาได้อย่างยาวนานอย่างไร
ทำความรู้จักกันก่อน
ผมนพดล นิลธรรมชาติ เรียนจบด้านบริหารธุรกิจ การค้าระหว่างประเทศ ที่ประเทศอังกฤษ หลังเรียนจบก็เริ่มทำงานสายการบิน จากนั้นก็มีโอกาสมาทำงานที่บริษัทอมร รัชดากรุ๊ป โดยระหว่างนั้นก็เปิดบริษัททัวร์ของตัวเองไปด้วยอยู่ประมาณ 20 ปี ก่อนจะหันมาจริงจังกับธุรกิจรถยนต์เมื่ออินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แล้วธุรกิจทัวร์ซบเซาลง ซึ่งผมก็ใช้ความรู้ที่เรียนรู้มาปรับใช้กับสิ่งที่ผมชอบนั่นคือการบริการ เอาความรู้จากสายการบินมาใช้ ที่ข้อมูลต้องเป๊ะทุกอย่าง พลาดไม่ได้ เวลาคุยกับลูกค้าก็ใช้วิธีอธิบายไปตรงๆ ให้ลูกค้าเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเมื่อซื้อ-ขาย หรือตอนรับบริการซ่อมรถยนต์ก็ตาม เราต้องอธิบายข้อมูล ข้อเท็จจริงให้ลูกค้าฟัง ซึ่งผมทำงานอยู่ที่นี่ประมาณ 30 ปีแล้วครับ
ปัจจุบันดูแลงานตรงส่วนไหนบ้าง
ปัจจุบันผมเป็นผู้จัดการทั่วไป และเป็นฝ่ายตรวจสอบของบริษัทอมร รัชดากรุ๊ปครับ เนื่องจากเราเป็นธุรกิจครอบครัว มีหลายแผนก หลายบริษัท ซึ่งการทำงานต้องโปร่งใส และต้องเข้าใจว่าคนในครอบครัวเราใช่ว่าจะเก่งทุกอย่าง บางครั้งก็จำเป็นต้องใช้คนนอกที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ งานแต่ละตำแหน่งต้องเหมาะกับบุคคลนั้นๆ ตามความสามารถ ซึ่งตำแหน่งที่ผมทำต้องเข้าใจทุกอย่างที่ว่ามา ต้องคุยต้องวิเคราะห์งาน บางครั้งก็คุยกับลูกค้าต่างชาติ แลกเปลี่ยนความรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เราต้องตามให้ทัน ทุกวันนี้การดำเนินธุรกิจทุกอย่างต้องโปร่งใส ทั้งกับลูกน้องและลูกค้า ผมจะบอกลูกค้าไปตรงๆ ว่าเราขายรถมือสองในราคาที่เหมาะสมกับสภาพรถยนต์ ไม่ได้วัดราคาจากปีของรถ แต่เน้นคุณภาพรถในตอนนั้น พูดง่ายๆ ว่า “ซื้อถูกขายถูก ซื้อแพงขายแพง กำไรเท่าเดิม”
แนวคิดที่ทำให้ อมรวารันตี แตกต่างจากรถยนต์มือสองทั่วไป
เราเรียกรถยนต์มือสองของเราว่า “Used Car Premium” ซึ่งจำหน่ายรถมือสองของ Benz และ BMW โดยต้องอธิบายก่อนว่าเราพยายามตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยให้วารันตีลูกค้า 2 ปี จากแต่เดิมแค่ 3 เดือน ซึ่งเราเข้าไปคุยกับบริษัทประกันต่างชาติที่เรารู้จักจากการที่ได้เป็นดีลเลอร์ของรถ BMW เมื่อปี 2013 ต้องยอมรับว่าใช้เวลาคุยนานกว่าเขาจะยอมทำกับค่ายรถยนต์มือสองของเรา ซึ่งเรามีบริการหลังการขายครบวงจร ติดปัญหาอะไรก็เข้ามาซ่อมกับเราได้ หรือหากรถไปเสียอยู่ที่ต่างจังหวัด คุณก็สามารถนำรถเข้าศูนย์บริการของ Benz หรือ BMW ที่อยู่ในจังหวัดนั้นๆ ได้เลย
เราต้องมีวิธีคิดนะ คิดแบบต่างชาติได้ แต่บางครั้งเราก็ต้องคิดแบบคนไทย คือเอาความคิดทั้งสองอย่างมารวมกันให้ได้วิธีที่ดีกับเราที่สุด ผมถึงย้ำว่า ต้องขายรถที่เซลล์อยากจะขาย ขายรถที่ลูกค้าอยากจะซื้อ ไม่ใช่ซื้อรถที่ตัวเองอยากได้ เพราะเซลล์จะรู้ว่าลูกค้าต้องการรถอะไร แบบไหน ซึ่งมันจะตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากกว่า เพราะเราไม่ได้ขายรถป้ายแดงที่เขามีรายละเอียดให้เลือกเป็นแคตตาล็อก รถมือสองต้องขายในสิ่งที่มี ฉะนั้นเราต้องเลือกสิ่งที่ตลาดต้องการมาขาย
กลุ่มลูกค้าหลักๆ ของอมรวารันตี
ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนที่ชอบเปลี่ยนรถบ่อยๆ แต่ต้องการรถที่ให้ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ซึ่งถ้ามาซื้อรถยนต์มือสองที่มีคุณภาพและประวัติดีไม่แพ้รถป้ายแดง เวลาเอาไปขายต่อเพื่อเปลี่ยนรถรุ่นใหม่ก็คุ้มกว่า ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มคนที่ไม่เคยซื้อรถยุโรปเลย อธิบายง่ายๆ ว่ามีกำลังทรัพย์ซื้อรถป้ายแดงจำพวกรถญี่ปุ่น ซึ่งไปๆ มาๆ ราคานั้นมันใกล้เคียงกับรถยุโรปมือสองของเรา แล้วยิ่งบวกกับวารันตี 2 ปีที่เราให้อีก ลูกค้าก็จะอยากใช้รถที่ตัวเองไม่เคยใช้บ้าง เรียกว่าตอบโจทย์ลูกค้า ให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
บทบาทของรถยนต์ไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริดในปัจจุบันนี้
จริงๆ ทางบริษัทของเราเริ่มทำ EV Charging Station ตั้งแต่ปีที่แล้ว สามารถนำรถ Benz และ BMW เข้ามาชาร์จได้ฟรีเลย โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นรถที่ซื้อจากทางเรานะครับ จะซื้อรถจากที่ไหนก็ได้ ขอแค่เป็นยี่ห้อ Benz และ BMW เท่านั้น ซึ่งตอนแรกที่ผมเริ่มทำก็มีหลายคนถามว่าจะทำไปทำไม จริงๆ แล้วมันเป็นเหมือนการตลาดนะครับ เพราะคนที่ขับรถมาใช้บริการชาร์จไฟกับทางเราเขามีกำลังซื้อนะ อาจจะเป็นลูกค้าในอนาคตของเราก็ได้ ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราโดยเฉพาะเลย
ในตอนนี้รัฐบาลเปิดให้รถปลั๊กอินไฮบริดเข้ามาแล้ว และที่จะเข้ามาในอนาคตอย่างแน่นอนก็คือ รถพลังงานไฟฟ้าล้วน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมันมีปัญหาอยู่ที่แบตเตอรี่ลิเธียม เพราะควรทำและประกอบแบตเตอรี่ลิเธียมในประเทศไทยเองเลยจะดีกว่า ซึ่งตอนนี้ทาง Benz และ BMW ก็เริ่มทำโรงงานแล้วนะครับ แต่อาจจะใช้เวลา 1-2 ปีกว่าจะเสร็จ เพราะหัวใจของรถไฟฟ้าคือแบตเตอรี่
รถยนต์ไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริดในอนาคตของธุรกิจรถยนต์มือสอง
อนาคตธุรกิจรถยนต์มือสองในความคิดของผม ผมขออนุญาตเปรียบค่ายรถหรือดีลเลอร์รถต่างๆ เป็นเสมือนโรงแรม 5 ดาว ที่ตั้งอยู่ติดชายหาด ธุรกิจรถยนต์มือสองเหมือนโรงแรม 3 ดาว ที่ไม่ได้อยู่ติดทะเล ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่แน่นอน ยังไม่รู้ว่าจะมาตอนไหนก็เปรียบเสมือนคลื่นสึนามิ หากในอนาคตเกิดสึนามิขึ้น บรรดาโรงแรม 5 ดาวต่างๆ ก็จะโดนผลกระทบก่อน ส่วนโรงแรม 3 ดาวก็ยังพอมีโอกาสเตรียมความพร้อมอยู่บ้าง ยังพอมีเวลารับมือได้อยู่
แต่ก็ต้องบอกว่าในอนาคตเราหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ไม่ได้แน่นอน เพราะฉะนั้นคุณต้องปรับตัว ธุรกิจรถยนต์มือสองต้องเปลี่ยนเพื่อตามให้ทัน แม้ตอนนี้มันจะยังไม่มาก็ควรศึกษาถึงข้อดี-ข้อเสียก่อน แต่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับผมในอนาคตคือ เมื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา บางอาชีพจะหายไป อย่างรถมือสอง อาชีพที่เสี่ยงคือช่างซ่อมเครื่องยนต์ เพราะต่อไปรถจะมีแค่มอเตอร์กับแบตเตอรี่ ไม่มีเครื่องยนต์ ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ช่างจึงต้องปรับตัว ต้องให้ช่างรู้จักซ่อมรถไฟฟ้าเป็น การปรับตัวจึงจำเป็นเสมอ ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม...