“รู้เรื่องรถกับพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ”
วัยเกษียณอายุ....เลือกรถแบบไหนดีล่ะ ?
พบกันอีกครั้งแล้ว สำหรับ“รู้เรื่องรถกับพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ” วันนี้หัวข้ออาจจะคล้ายกับที่เคยเขียนบอกเล่ากันไป แต่ที่เพิ่มเติมและแตกต่างขึ้นมาคือ รถแบบไหนดีละ ? ที่เหมาะกับคนวัยเกษียณอายุ
ถามว่าทำไมต้องโฟกัสเฉพาะเจาะจงไปที่วัยนี้ ก็เนื่องมาจากช่วงใกล้ๆปลายปี จะเริ่มเกษียณอายุกันแล้ว และแต่ละคนเมื่อเจอหน้า หรือ ว่าฟังรายการวิทยุ หรือว่าทายทักเข้ามาทางช่องทางโซเซียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊ค ก็จะมีคำถามมาถามกระผมอยู่เรื่อยๆว่า แก่ตัวแล้ว ต้องเกษียณจากราชการแล้ว และไม่มีรถประจำตำแหน่ง หรือไม่มีคนขับรถแล้ว...หลังจากนี้จะต้องขับเอง จะต้องเลือกรถแบบไหน ยังไงให้เหมาะสมกับตัวเอง
เอาเป็นว่ากระผมจะเล่าให้ฟังแบบง่ายๆสำหรับท่านทั้งหลายที่กำลังตัดสินใจกันอย่างหนักว่าจะซื้อรถอะไรมาขับในวัยในอายุปูนนี้ ซึ่งจริงๆก็จะมีเกณฑ์ในการคัดเลือกอยู่ไม่กี่อย่าง ซึ่งกระผมก็จะรวบมานำเสนอสั้นๆ ประกอบไปด้วย
-คนวัยเกษียณอายุที่ต้องการรถยนต์สำหรับใช้สอยในชีวิตประจำวัน ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ก็แค่ขับไปส่งหลานเหลนที่โรงเรียน ,ขับไปหาเพื่อน ,ขับไปห้างหรือศูนย์การค้าสองคนตายาย ...หากไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของคุณๆท่านๆเป็นแบบนี้ กระผมก็ขอแนะนำว่าให้ซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก ราคาไม่แพงมาก จะได้ไม่ต้องไปเบียดเบียดเงินบำเหน็จบำนาญที่เราอาจจะต้องจัดสรรไปใช้ในส่วนอื่นๆ ซึ่งตัวเลือกรถยนต์ที่จะแนะนำก็คืออีโคคาร์ ที่บ้านเราผลิตกันออกมาหลายรุ่น มีให้เลือกทั้งแบบรถซีดานหรือเก๋ง 4 ประตู หรือจะเป็นแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ราคาก็เริ่มต้นก็ตั้งแต่ 3.6 – 7.8แสนบาท
-ส่วนใครที่ไลฟ์สไตล์ชอบท่องเที่ยว และวางแผนไว้ในหัวเลยว่าเมื่อเกษียณอายุปุ๊ป ฉันจะไปเที่ยว ..อันนี้กระผมของแนะนำเลยว่า รถปิ๊กอัพ แบบเครื่องยนต์ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ และขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่จะช่วยเบาแรงของผู้ขับขี่ได้ ซึ่งปัจจุบันรถปิ๊กอัพแบบนี้ก็มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นอีซูซุ ดีแมคซ์,มิตซูชิบิ ไทรทัน ,โตโยต้า รีโว่ ,ฟอร์ด เรนเจอร์ ,เชฟโรเลต โคโลราโด ,มาสด้า บีที 50 โปร ,นิสสัน นาวาร่า
หรือหากมีงบเพิ่มขึ้นมาอีกนิดก็อาจจะเลือกแบบพีพีวี หรือรถยนต์เอนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถปิ๊กอัพยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันชัดๆก็เช่น อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ,มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ,โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ,ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ,เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ และเร็วๆนี้จะมีนิสสัน เทอร์ร่า มาให้เลือกอีกหนึ่งรุ่น
โดยข้อดีของรถประเภทนี้นอกจากจะพาบุกตะลุยไปในทุกที่ได้แล้ว ยังมีจุดเด่นที่ค่าซ่อมบำรุงต่ำ การสึกหรอต่างๆก็น้อย หาที่ซ่อมทั่วไปได้ง่าย และที่สำคัญรถปิ๊กอัพสมัยนี้ผู้ผลิตรถยนต์แต่ละบริษัทมีการออกแบบ ดีไซน์ และมอบความสะดวกสบายในห้องโดยสารไม่ต่างจากรถเก๋งเลย ส่วนที่กระผมเน้นย้ำว่าเครื่องยนต์ควรจะเป็นดีเซลนั้นก็เพราะว่า สามารถหาน้ำมันเชื้อเพลิงเติมได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือประเทศเพื่อนบ้านไปจนถึงประเทศจีน ส่วนที่แนะนำว่าให้เลือกขับเคลื่อนสี่ล้อเพราะขีดความสามารถในการขับเคลื่อนผ่านอุปสรรคได้หลากหลายรูปแบบมากกว่ารถยนต์ประเภทขับเคลื่อนสองล้อนั่นเอง
ถือเป็น 2 ทางเลือกที่จะแนะนำ และคาดว่าคำตอบน่าจะช่วยตอบคำถามในใจของใครหลายคนได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งคุณๆท่านๆที่อยู่ในวันเกษียณก็ต้องลองทบทวนกันดูว่าตนเองมีไลฟ์สไตล์ การใช้งาน การใช้ชีวิตแบบไหน
สิ่งที่กระผมจะฝากทิ้งท้ายไว้อีกข้อคือ คนสูงวัยอย่างเราๆท่านๆควรหลีกเลี่ยงรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีสลับซับซ้อนและทันสมัยมากๆ อันนี้กระผมไม่ได้ดูถูกว่าอายุขนาดนี้อย่างเราๆท่านๆแล้วจะไม่ทันสมัย เรียนรู้เทคโนโลยีกันไม่ได้ แต่ที่ให้หลีกเลี่ยงเพราะเราต้องเข้าใจว่าสมองของคนสูงวัยย่อมรับสิ่งแปลกใหม่ได้ยากและช้ากว่าคนหนุ่ม
ที่สำคัญอะไรก็ตามที่เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยนั้นย่อมเป็นสิ่งที่มีราคาแพงและมีค่าบำรุงรักษารวมทั้งค่าซ่อมบำรุงที่สูงมากขึ้นกว่าปรกติ ซึ่งคนในวัยเกษียณอายุที่ไม่ได้มีรายได้ประจำ หรือไม่มีรายได้ทางไหนที่เพิ่มมา หากรถมีปัญหาอะไรค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นก็จะไปสร้างความเดือดร้อนหรือเป็นภาระของท่านอีก
ดังนั้นต้องจุดนี้เองเราต้องตระหนักและรอบคอบให้มากที่สุด เอาให้ตรงวัตถุประสงค์ในการใช้งานมากที่สุด สิ่งสำคัญคือควรจะเป็นรถที่มอบความสุข มิใช่เป็นตัวถ่วงหรือภาระในช่วงบั้นปลายชีวิต.. ...เว้นซ่ะแต่ใครที่ฐานะดีอยู่แล้ว หรือยังมีรายได้เข้ามา อันนี้กระผมก็ขอยกเว้นและแล้วแต่พวกท่านจะเลือก
เอาเป็นว่าใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วยังไม่ได้คำตอบหรือบทสรุปในใจ กระผมก็จะขอแนะนำให้คุณๆท่านๆลองแวะมาที่งาน FAST AUTO SHOW THAILAND 2018 ที่มีขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม ณ ไบเทค บางนา ลองมาชม หรือ จะทดลองขับด้วยตัวเองกันก่อนก็ได้ ...งานนี้ฟรีครับ ...กระผมขอเรียนเชิญ!!