“เลือกรถด้วยวงเงินไม่เกินล้านบาท”

ปิดฉากงานใหญ่”มอเตอร์โชว์” ของเสี่ยปราจินไปเมื่อวันก่อน มีหลายคนตัดสินใจไม่ทันว่าจะเลือกรถอะไรที่ใช่ ในราคาไม่เกิน งบ 1 ล้านให้ได้เท่กว่าใครในพระนคร  ก็อยากบอกให้อดใจมาถอยคันที่ใช่ ในงาน FAST AUTO SHOW THAILAND 2018  ซึ่งผมมีวิธีคิดแบบของผม ที่เปิดเผยแล้วสารพัดค่ายอย่าเพิ่งโกรธอย่าเพิ่งนอยด์กันเชียว  เพราะผมอยากแนะแบบ ค.ห.ส.ต. ที่ไม่ได้เอาใจใคร

 

             ผมอยากบอกว่าเรื่องนี้ มันเป็นปัญหาโลกแตก จริงๆ เริ่มต้นอยากให้หันมาโฟกัส จัดพิกัดตัวเองก่อนว่า จะซื้อรถเพื่อกิจอันใด อันนี้ถือเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญ ถ้าหลักๆ เพื่อการใช้งาน ที่เน้นขับในเมือง และไม่ได้ใช้ความเร็วกันมากนัก  หรือต้องการแบบขับเพลิน เมินการดูแลรักษา เป็นหน้าที่ของศูนย์บริการ และขับเบื่อต้องขายต่อได้ราคา ไม่งั้นขายหน้าเพื่อน เมื่อพินิจจากหลักการนี้ ผมก็ของฟันธงว่า ทางเลือก ที่จะเป็นทางรอดจากการได้รถที่คุ้มค่าสมความตั้งใจ ก็อยากแนะนำว่า น่าจะเป็นรถจากค่ายญี่ปุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 1600 – 1800 ซีซี. ก็น่าจะเป็นการดีแล้ว เหมาะแล้ว ควรแล้วเริ่มจาก กลุ่มคอมแพคคาร์ หรือ รถยนต์นั่งขนาดกลาง ที่ไม่ได้เล็กเหมือนอีโคคาร์ หรือใหญ่ไปในระดับพวกแอคคอร์ด คัมรี่ หรือ เทียน่า อันนี้ก็ขอแนะนำกลุ่มคอมแพคคาร์ก็แล้วกัน เริ่มตั้งแต่ ฮอนด้า ซีวิค ที่มี 2 รุ่นที่ราคาต่ำกว่าหนึ่งล้าน ได้แก่รุ่น 1.8 E ราคา 869,000 บาท และอีกหนึ่งรุ่น 1.8 EL  ราคา 959,000 บาท

 

           ส่วนโตโยต้า อัลติส นั้นมีให้เลือกหลายรุ่นหลายเกรด เริ่มตั้งแต่รุ่นล่างสุด  1.6 J ราคา 799,000 บาท ,รุ่น 1.6 G ราคา 869,000 บาท ,รุ่น 1.6 G CNG  ราคา 969,000 บาท ,รุ่น 1.8 E ราคา 874,000 บาท ,รุ่น ESPORT ราคา 939,000 บาท และรุ่น ESPORT Option  ราคา 979,000 บาท

 สุดท้ายคือ มาสด้า 3  ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่าเพื่อน คือ 2000 ซีซี. โดยมีให้เลือกทั้งแบบแฮทช์แบ็ค และ ซีดานแบบ 4 ประตู มีให้เลือก 3 รุ่นอย่าง 2.0 E Sports ราคา 857,000 บาท ,รุ่น 2.0 C Sports ราคา 951,000 บาท และรุ่น 2.0 S Sports ราคา 998,000 บาท

 

             ถ้าถามว่าตัวไหนใหม่สุดก็น่าจะเป็นฮอนด้า ซีวิค ส่วนมาสด้า 3 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ชื่นชอบดีไซน์ และเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ด้านโตโยต้านั้น มีรุ่นย่อยให้เลือกเยอะสุด แถมยังมีเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1600 ซีซี , ซีเอ็นจี และ 1800 ซีซี. ส่วนราคาเริ่มต้นเมื่อเทียบกับ 2 รุ่นก่อนหน้านั้นก็ถือว่าถูกกว่า อีกทั้งยังซื้อง่ายขายคล่องซึ่งถือเป็นจุดขายหลักของพวกเขา

 

            ส่วนน้ำหนักในการตัดสินใจเท่าที่ประมวลมาจากทุกค่ายก็คือ ข้อเสนอ แคมเปญ ลดแลกแจกแถมต่างๆที่ดีลเลอร์แต่ละเจ้าได้สรรหามาประเคนให้ และที่สำคัญอีกข้อคือ ความสะดวกของศูนย์บริการ เพราะเรื่องบริการหลังการขายนั้นถือเป็นหัวใจหลักที่ไม่ควรมองข้ามกันเลยทีเดียว.....แต่น่าอัศจรรย์ใจ มีจำนวนไม่น้อย ที่ตัดสินใจซื้อเพราะพริตตี้สวยจับจิต  นั่นเอง

            แน่นอนว่า รถทั้งหมดที่กล่าวมา พร้อมนำมาจัดแสดงในงาน FAST AUTO SHOW THAILAND 2018 ในวันที่ 27 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม นี้ ที่ไบเทคบางนา