ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบด้วยครับ ...

ผมแย้งนะครับ ส่วนตัวที่บ้าน 8คันไม่มีอีโคคารสักกะคัน

แต่ มีโอกาสนั่งเครื่องแล้วเช่า ยาริสตัวปัจจุบัน 1.2 ออโต้ นั่ง ผู้ใหญ่ 5คนกระเป๋า 3ใบ (รถใหญ่รถตู้ไม่ว่าง ส่วนที่ว่างก็โทรม ผมเลยเลือก อีโค)
ด้วยความที่ขี้กลัว ว่า พันสองจะไหวไหม

เส้นทาง สนามบินเชียงใหม่ ฝาง เชียงราย

จะบอกว่า สมรรถนะ เหลือเชื่อมาก เฉลี่ย น้ำมัน 11-18โลลิตร

ทางขึ้นลงเขาตลอด น้ำหนักบรรทุกตามด้านบน ไม่มีช่วงใดเลยที่ใช้รอบ ต่ำกว่า 3,000rpm ส่วนมากจะเลี้ยงรอบแถวๆ 4,500

ยกตัวอย่างง่ายๆ สนามบินเชียงใหม่ไป ฝาง ระยะทางราว 170 โลใช้เวลา แค่ 1ชม 45นาที 

เบรคเดิม ช๊อคเดิม ยางเดิม ทำได้ดีเหลือเชื่อ เกียรและเฟืองท้ายออกแบบมาได้ เหมาะกับรถมาก

ไม่เหมาะในย่านความเร็วสูงก็จริง แต่ช้วง ไม่เกิน 110 ผมประทับใจมาก

ไม่ได้เชียร์ให้ขับเร็ว แต่จะบอกว่า สมรรถนะ ไม่ห่วยแน่นอน

จขกท อาจจะถามถึง โมบิลิโอ้ ไม่ก็ฟรีด แน่ๆ

ผมตอบได้เลยว่า 7ที่นั่ง 1500 ใช้งานในเมืองได้ดีครับ ในย่านความเร็วตามกฎหมายกำหนด

ส่วนถ้าวิ่งทางยาว ผมคงเชียร์ รถที่ใหญ่ขึ้นอยู่ดีครับ กำลังเครื่องเกีบร์เฟืองท้าย จะเหมาะทางไกลมากกว่า

ผมว่าสมรรถนะเครื่่องยนต์มาอวดอ้างกันเกินจริงกัน รถเครื่อง 1500 ไปได้หมดทั่วประเทศก็จริงอยู่ครับ แต่ควรไปแบบช้าๆเนิบๆแต่ต้องใช้ความระมัดระวังและฝีมือคนขับระดับสูง ซิตี้คาร์เครื่อง 1500 แค่นั่งผู้ใหญ่ 5 คนถนนปรกติเบรคก็แทบเอาไม่อยู่แล้ว ยุคนี้เอาแต่แรงม้า แรงบิด แต่สมรรถนะของระบบเบรค ช่วงล่าง การเกาะถนน เขาไม่เอามากล่าวอ้าง เอามาโฆษณากันครับ บริษัทรถในไทยใช้คำว่า "เอนกประสงค์" ฟุ่มเฟือยจนทำให้เกิดการสูญเสียบนท้องถนนไปมากมายเหลือเกินครับ

เห็็นด้วยกับคุณแคนครับ ที่ตั้งกระทู้เข้ามาแลกเปลี่ยนครับ

ผมว่าการดูความแรงและกำลังที่ขนาดความจุกระบอกสูบนั้นค่อนข้างโบราณไปแล้วครับ

สมัยเมื่อ 30 ปีก่อน เคยนั่งรถ TOYOTA Corolla ที่แม่ขับ เครื่อง 1.2 ลิตร วิ่งแค่ 90-100 กม./ชม.ก็ดังกระหึ่ม รถกระพือแล้วครับ ไปต่อก็ไม่เกิน 120 กม./ชม. กินน้ำมันพอสมควร (9-10 กม./ลิตร)

สมัยนี้เครื่องพิกัดเดียวกันเช่น NISSAN March ที่ขนาดตัวถังใหญ่กว่าเยอะ (ตัวหมีควายอย่างผมนั่ง 4 คนหลวมๆ) ทำความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม. แต่กินน่้ำมันน้อยกว่าเยอะ (14 กม./ลิตรขึ้นไป)

หรือดูเทรนรถยุโรปที่ลดขนาดเครื่องยนต์แต่แรงและประหยัดขึ้น เครื่อง 1.4 - 1.6 ลิตร วางเทอร์โบ 180 แรงม้า เหยียบได้เกิน 200 กม./ชม. แต่จิบน้ำมันพอๆ กับ Eco Car

การขึ้นเนินหรือขึ้นเขา กำลังเครื่องยนต์อย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จังหวะการเร่งส่งตอนช่วงลงเนิน เพื่อขึ้นเนินได้อย่างแรงไม่ตก ไม่ต้องเค้นกำลังมาก... รถป๊อกๆ 1.0 ลิตร หรือ DAIHATSU Mira ก็ขึ้นได้ครับ อยู่ที่ฝีมือและประสบการณ์... ในกรณีที่คุณบรรทุกเต็มอัตราศึกขนาดนั้นบ่อยๆ เล่นดีเซลเทอร์โบดีกว่าครับ แรงบิดสูง กำลังฉุดลากดีกว่าเยอะ แถมประหยัดและทนทานกว่ามากครับ...

แต่บ้านเราขณะนี้รถ 7 ที่นั่งพิกัดไล่เลี่ยกันไม่มีเครื่องดีเซลครับ ต้อง

- ลดเหลือ 4 ที่นั่งอย่าง MAZDA 2 SkyActiv-D 1.5 ราคา 6 แสนปลาย - 7 แสนปลาย หรือ CX-3 ที่จะมาปลายปี (น่าจะอยู่ที่ 8-9 แสน) หรือ

- ข้ามไปเล่นรุ่นใหญ่กว่า เช่น พวก PPV ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคาล้านเศษ เช่น FORD Everest 2.2 XLT, MITSUBISHI Pajero Sport 2.4 DI-D, ISUZU Mu-X 2.5 VGS Turbo, TOYOTA Fortuner D-4D 2.4 หรือ

- SUV เช่น CHEVROLET Captiva 2.0 VDCi, MAZDA CX-5 SkyActiv-D 2.2, HYUNDAI Tucson 2.0D

- รถตู้ MPV เช่น HYUNDAI H-1

ฯลฯ

ลองพิจารณาดูนะครับ และขอให้คุณแดนโชคดีมีความสุขกับรถคันใหม่นะครับ