|
ใครว่าใช้ดีเซลคุ้มกว่าเบนซิล | |
แตน | ขอขอบคุณ คุณลูกบอล คุณสงคราม คุณnon มากค่ะที่ทำให้ตัดสินใจ ไปจองทูซอน แต่แล้วก้อเกิดคำถาม กับความอยากรู้อีกว่า ถ้าตัว เบนซิล กับตัวดีเซล ซึ่งมีส่วนต่างอยู่ สามแสนบาท ต้องใช้รถกี่ปีตัวดีเซล ถึงจะคุ้มกับส่วนต่างที่จ่ายไปก่อน ส่วนตัวปีหนึ่งใช้รถประมาณ สามหมื่นกว่าโล พอดีไปเจอข้อความว่า " ใครว่าใช้ดีเซลคุ้มกว่าเบนซิล " โดยส่วนตัวไม่ทราบจิงจิงค่ะ |
ผู้ตั้งกระทู้ แตน :: วันที่ลงประกาศ 2013-03-21 14:41:01 IP : 110.49.225.207 |
1 |
ความคิดเห็นที่ 17 (3403714) | |
art | LD28 คุ้มสุด |
ผู้แสดงความคิดเห็น art วันที่ตอบ 2015-05-28 18:33:11 IP : 61.19.90.30 |
ความคิดเห็นที่ 16 (3364959) | |
bird | มันอยู่ที่การให้คำจำกัดความว่า คุ้มหรือไม่คุ้ม วัดกันตรงอะไร เอาง่ายๆเลยนะครับ ก่อนปี 2554 หลายคนบ่นว่าเครื่องดีเซล 5L ช้าอืดอาด กินน้ำมันจนหลายคนตัดใจไปวางเครื่องเบนซิน 1j 2j อะไรก็ว่ากันไป แต่พอเจอน้ำท่วมโครมใหญ่เข้าให้ คนขับดีเซลขนทรัพย์สิน ลุกเมียหนีออกจากบ้านได้ทัน อันนี้เรียกว่าคุ้มแสนคุ้มแล้วครับ ส่วนเบนซินขับฝ่าน้ำออกมาอย่างนี้ไม่ได้ ไม่เอาไปจอดบนสะพาน ห้าง ก็ต้องจอดบ้านถ้าน้ำสูงก็จมไปกับบ้านด้วย บางคนตัดใจขับผ่าไปเลยปรากฏว่าเครื่องดับซ่อมตามมาอีกบาน แต่ถ้าบางคนที่น้ำไม่ท่วมก็อาจจะมองคำว่าคุ้มหรือไม่คุ้มที่อัตราการกินน้ำมัน ราคาน้ำมัน อันนั้นก็ว่ากันไปครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น bird วันที่ตอบ 2013-04-30 20:35:17 IP : 101.109.163.197 |
ความคิดเห็นที่ 15 (3362537) | |
เอก | ดีเชล |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอก วันที่ตอบ 2013-03-30 18:38:56 IP : 180.183.25.24 |
ความคิดเห็นที่ 14 (3362291) | |
Non Wacharakiat | ผมเอาเจ้า HYUNDAI H-1 เข้ามาหลายศูนย์แล้ว ตั้งแต่สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน) พระราม 9 สุดท้ายมาจบที่บางนาครับ บริการดีมาก... ตอนนี้ใช้ไป 150,000 กว่า กม.แล้วครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น Non Wacharakiat (nonwpresley-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-03-27 16:25:50 IP : 202.136.166.37 |
ความคิดเห็นที่ 13 (3362290) | |
แตน | ขอบคุณทุกคำตอบค่ะสรุปจองทูซอนดีเซลค่ะลองเสี่ยงดูกับศูนย์บริการของฮุนไดสักตั้ง |
ผู้แสดงความคิดเห็น แตน วันที่ตอบ 2013-03-27 16:11:49 IP : 49.49.128.102 |
ความคิดเห็นที่ 12 (3362132) | |
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ | ประเทศไทยเราส่งเสริมให้ Eco car ใช้เครื่องเบนซิน น้ำมันที่ใช้ก็ต้องเป็น Gasohol ขั้นต่ำ E20 หรือไม่ก็ Flex Fuel E85 เพราะพูดตามประสาชาวบ้าน นักการเมืองเป็นเจ้าของโรงกลั่น Ethanol ส่วนดีเซลนั้น จะเน้นในรถยุโรปเพราะยุโรปเก่งในการทำเครื่องยนต์ดีเซลโดยเฉพาะที่มีขนาดเล็ก ต้นทุนเครื่องยนต์ดีเซลมันสูงกว่าเบนวินเพราะเครื่องดีเซลใช้แรงอัดในการจุดระเบิด ในขณะที่เครื่องเบนซินใช้ระบบหัวเทียนในการจุดระเบิด ซึ่งเครื่องดีเซลจะต้องแข็งแกร่งกว่าเครื่องเบนวินเพราะต้องรองรับแรงอัดที่สูงกว่านี้ ทำให้ราคาของเครื่องดีเซลจึงสูงกว่าเบนซิน แต่ทุกวันนี้ เครื่องดีเซลมีสมรรถนะสูง สิ้นเปลืองต่ำ ทนทาน ดูแลรักษาต่ำ ความสามารถไม่ได้หนีเครื่องเบนซินเลยแม้นแต่น้อย แถมด้านมลภาวะ ในปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่าเครื่องดีเซลสะอาดกว่าเครื่องเบนซิน ซึ่งสมัยก่อนมองดูแต่เครื่องดีเซลเป็นพวกปล่อยมลพิษ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2013-03-26 11:58:13 IP : 171.99.188.154 |
ความคิดเห็นที่ 11 (3362123) | |
ลูกบอล | ราคาเทคโนโลยี เครื่องดีเซล มันแพงกว่าไงครับ พอเอามาใส่ eco car แล้ว ราคารถมันจะเพิ่มขึ้นไปเป็นแสน แล้วราคาระดับนั้น มันก็ไม่ใช่ eco car แล้วซิ ผมว่าเค้าคิดถูกแล้ว เอามาขายไม่ออก |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2013-03-26 11:20:38 IP : 125.25.36.34 |
ความคิดเห็นที่ 10 (3362054) | |
peter | ดูตัวอย่างรถยุโรปครับ ขนาดเป็นอีโค่คาร์ยังใส่เครื่องยนต์ดีเซลเลย แต่เมืองไทยยังไม่มีอีโค่คา่ร์เครื่องดีเซล ไม่รู้ติดอะไร? |
ผู้แสดงความคิดเห็น peter (peterc-at-tstplaspack-dot-com)วันที่ตอบ 2013-03-25 20:05:01 IP : 125.25.186.142 |
ความคิดเห็นที่ 9 (3361996) | |
ขจกท | คุ้มในระยะยาวมั้งครับ เบนซินประมาณสามแสนโล ก็เริ่มซ่อมใหญ่ ขณะนี้ดีเซล เกินห้าแสนโล รถบันทุกที่เห็น ๆ ระยะทางเกินล้านโลไปไกลทั้งนั้นครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ขจกท วันที่ตอบ 2013-03-25 08:44:47 IP : 203.146.189.96 |
ความคิดเห็นที่ 8 (3361995) | |
แตน | ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบ และให้ความรู้ ดิชั้เพิ่งทราบจิงจิงว่าดีเซลไม่มีหัวเทียนกะคอยล์ร้อน (ไม่เคยใช้ดีเซลมาก่อนเลย) มิหน้าทุกคำตอบถึงเลือกดีเซล |
ผู้แสดงความคิดเห็น แตน วันที่ตอบ 2013-03-25 08:28:49 IP : 223.205.242.193 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3361936) | |
สายลม | ดีเซลด้วยอีกคนครับอัตราเร่งดีกว่าเบนซินเยอะ ประหยัด ทนทาน ดูแลง่าย ไม่มีระบบไฟแรงสูง(มีปัญหาเมื่อเจอความชื้นและเมื่อฉนวนเสื่อมสภาพตามกาลเวลา) แต่เสียงดังกว่านิดหน่อย |
ผู้แสดงความคิดเห็น สายลม วันที่ตอบ 2013-03-23 22:34:05 IP : 27.55.156.115 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3361827) | |
สงคราม | ณ ช่วงเวลานี้ ก็ต้อง ดีเซล ครับ แต่หากลอยตัวตามกลไกตลาด ก็ตัวใครตัวมัน..ซึ่งทำยาก.. |
ผู้แสดงความคิดเห็น สงคราม วันที่ตอบ 2013-03-22 13:01:15 IP : 101.108.104.52 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3361802) | |
Non Wacharakiat | เห็นด้วยกับคุณลูกบอล คุณ M(น่ารัก) และคุณ peter ครับ และก็ขออนุญาตนำเสนอข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบประกอบการตัดสินใจในแต่ละหัวข้อดังนี้ - เครื่องยนต์: - ดีเซล 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว VGT 177 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. 392 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,500 รตน. - อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ดีเซล 9.96 วินาที เบ็นซิน 14.08 วินาที - อัตราสิ้นเปลือง: - ในเมือง ดีเซล 8.48 กม./ลิตร เบ็นซิน 6.74 กม./ลิตร ดูจากค่าเฉลี่ยแล้ว ส่วนต่างค่าน้ำมัน คือ ดีเซล 2.03 บาท/กม. (ราคาน้ำมันดีเซล: 29.99 บาท/ลิตร / 14.77 กม./ลิตร) จุดคุ้มทุนในส่วนต่างราคารถยนต์ที่ 300,000 บาท = ประมาณ 7 ปี หรือ 210,000 กม. (306,694.29 บาท) อาจจะนานหน่อย แต่คุณได้สมรรถนะ ความประหยัด และทนทานกว่ากันเยอะครับ... สรุปว่าเป็นผมๆ เลือกดีเซลครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น Non Wacharakiat (nonwpresley-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-03-22 10:28:46 IP : 202.136.166.37 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3361757) | |
peter | ผมว่าคุณสมบัติของดีเซลมากกว่าที่ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลมีความทนทานมากกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้เบนซินหรือLPG-CNG ถ้าเคยเอาน้ำดีเซลมาสัมผัสดูจะรู้สึกว่ามันลื่น ๆ แต่เบนซินไม่ลื่นเท่าไร แสดงถึงคุณสมบัติช่วยในการหล่อลื่นของดีเซลมีส่วนช่วยในการป้องกันการสึกหรอได้ดีกว่า อันนี้ตอบแบบมีวิชาการนิด ๆ แต่ประสบการณ์ที่ใช้งานจริงบอกผมว่า เครื่องดีเซลโคตรทนเลยครับ ถ้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะก็พอ จะใช้จนลืมไปเลย ตอนนี้ถ้าเทียบราคาดีเซลนั้นถูกกว่า แก๊สโซฮอล์95 อยู่ประมาณ 25% ปีหนึ่ง ๆ คุณจะประหยัดไปประมาณ 24000 บาท ถ้าเทียบกันแล้ว ผมว่าสูสีครับ ส่วนใหญ่ใช้รถกัน 10ปี ก็ขายต่อ แต่เครื่องดีเซล รถราคาไม่ค่อยตกเท่าไร ขายง่ายกว่า และยังได้อัตราเีร่งที่ดีกว่าด้วยครับ ถ้าผมเป็นคุณ(มีตังก์น่ะ) ผมจะจัด ทูซอน ดีเซล อย่างไม่ลังเล เสียดายอย่างเดียวรถราคาล้านปลาย ๆ ไม่มี Cruise control ซะงั้น |
ผู้แสดงความคิดเห็น peter (peterc-at-tstplaspack-dot-com)วันที่ตอบ 2013-03-21 17:55:49 IP : 1.2.202.172 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3361746) | |
ลูกบอล | เพิ่มเติมนิดนึง ผมไม่รู้ว่าทูซอน กินน้ำมันกี่โลลิตร นะ คุณต้องเอาอัตรากินน้ำมัน ของตัวดีเซล กับตัวเบนซินมาเทียบกัน ว่าอันไหนคุ้มกว่ากันครับ ผมเทียบของ triton vg ไว้แล้ว ตัวดีเซล กินน้ำมันอยู่ประมาณ 2 บาท ต่อกิโลเมตร ส่วนเบนซิน cng กินอยู่ประมาณ 1.8 บาท ต่อกิโลเมตร แต่ค่าบำรุงรักษามันค่อนข้างต่างกันมาก ราคาอะไหล่เครื่องก็ไม่เท่ากันแล้ว
เบนซินไม่ติดแก๊สก็ไม่ไหว น้ำมันลิตรละเกือบ 40 เง้อ
ดังนั้น ดีเซล คุ้มค่ากับผม มากกว่าเบนซิน ติดแก๊สครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2013-03-21 15:23:04 IP : 110.171.86.204 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3361744) | |
M(น่ารัก) | ผมไม่ได้อ่านกระทู้ตั้งต้นนะครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น M(น่ารัก) วันที่ตอบ 2013-03-21 15:22:21 IP : 10.132.0.38, 202.12.97.118 |
ความคิดเห็นที่ 1 (3361743) | |
ลูกบอล | มันก็หลายปัจจัย อ่ะครับ ตอบยากว่าอันไหนคุ้มค่ากว่ากัน แต่ผมใช้มาแล้วทั้งดีเซล และเบนซิน และเบนซินพ่วงแก๊ส เครื่องที่ทนที่สุดก็คือ ดีเซล ครับ ไม่จุกจิก ไม่อะไรมากมาย อะไหล่ก็ ok เครื่องเบนซิน มันก็ ok ถ้าไม่ติดแก๊ส มันก็เรื่อย ๆ ของมัน อะไหล่ถึงอายุ ก็เปลี่ยน เครื่องเบนซินพ่วงแก๊ส เอ่อ ถามว่าจุกจิกไหม ก็ไม่ครับ แต่เสียบ่อย เสียไอตรงเดิม ๆ น่ะล่ะ ระบบไฟ ซะส่วนใหญ่ เสียจนซ่อมรถเองได้ วิเคราะห์อาการเองได้ หาอะไหล่เองได้ เง้อ อะไหล่เทียบมันก็ไม่ทน เหมือนอะไหล่แท้
ก่อนหน้านี้ผมไปจอง triton vg ไว้ ครับ ทะเลาะกับน้องอยู่นานมาก เพราะผมจะออก vg ดีเซล แต่น้องไซโคพ่อ ให้ผมเอาตัว 2.4 เบนซิน เอ่อ ตังค์ผมง่ะ ผมขับมาแล้วเบนซิน เบื่อ ขี้เกียจซ่อม ต่อภาษีก็ต้องไปหลายที เหนื่อย เอาง่าย ๆ ใช้นาน ๆ เค้าถึงยอมกัน |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2013-03-21 15:13:14 IP : 110.171.86.204 |
1 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 4870471 |