ส่วนตัวผมว่ามีผลก็คงน้อย ไม่งั้นเค้าจะออกแบบมาให้ทำการล๊อคแบบนี้ทไมครับจริงไหม ล๊อคไปเหอะครับแล้วหาอุปกรณ์ตัวอื่นๆ มาช่วยล๊อคด้วย โจรมันเห็น จะได้ไมขโมยคันที่ไม่ล๊อคไงครับ เรายังขี้เกียจไข ขโมยมันไม่ได้มีกุยแจเหมือนเรามันขโมยยากมันก็ไปเอาคันอื่นดีกว่าจริงหมครับ

ผมชอบใช้เป็นการป้องกันขโมย ประจำ...

1. การบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง LOCK เป็นการล๊อคที่ตัวพวงมาลัย มีผลทำให้ไม่สามารถหมุนพวงมาลัยไปซ้ายหรือขวาได้ (ไม่นับระยะฟรี) และมีผลต่อเนื่องไปที่ล้อคือไม่สามารถหมุนล้อไปทางซ้ายหรือขวาได้เช่นกันเพราะติดที่ล๊อคพวงมาลัยอยู่  การบิดกุญแจไปที่ LOCK แล้วดึงกุญแจออก กับการที่หมุนพวงมาลัยต่ออีกหน่อยให้ลงไปที่เฟืองล๊อค  ผมว่ามีผลไม่แตกต่างกันครับ (สำหรับผมไม่ได้หมุนต่อครับ คือเมื่อบิดกุญแจเสร็จก็ลงจากรถเลย)

2. เมื่อล๊อคพวงมาลัยแล้ว  ล้อจะหมุนซ้ายหรือขวาไม่ได้  ก็ไม่มีผลอะไรกับลูกหมาก  แท่งแร็ก หรือกระปุกลูกปืนครับ

3. ถ้าไม่ได้ล๊อคพวงมาลัยและรถคันนั้นไม่ได้เคลื่อนที่ แล้วไปหมุนพวงมาลัยซ้ายขวา  จะหนักแรงกว่าให้รถเคลื่อนที่  เพราะน้ำหนักกดบนล้อตรงๆ ไม่ได้ทิ้งไปตามการเคลื่อนที่ของรถ แบบนี้ลูกหมากหรือแท่งแร็กรับภาระหนัก  มีโอกาสหลวมคลอนมากกว่า

4. รถรุ่นใหม่มีระบบพาวเวอร์พวงมาลัย จะช่วยผ่อนแรง  แม้รถไม่เคลื่อนที่ก็สามารถหมุนพวงมาลัยซ้ายขวาได้อย่างไม่หนักแรง  แต่ต้องติดเครื่องให้พาวเวอร์ทำงาน เมื่อดับเครื่องพาวเวอร์ไม่ทำงานก็จะหนักมือครับ

เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ และเห็นด้วยที่ว่าถ้ารถไม่เคลื่อนที่ก็ไม่ควรหมุนพวงมาลัยไปซ้ายหรือขวาเพราะจะทำให้อุปกรณ์บังคับเลี้ยวทำงานหนักตามเหตุผลในข้อ 3.ครับ

เพื่อล็อคพวงมาลัยงัยครับคุณชัยพร

หรือว่าผมล็อคผิดวิธี

รถจอดแล้วหมุนพวงมาลัยทำไปเพื่อประโยชน์อะไร