ชอบการตอบคำถามของคุณจริงๆ เลยครับ ขับ estate เก่าๆ จริงใจ และมีหลักการมาก อธิบายได้เห็นภาพ แล้วก็เข้าใจง่าย

ผมมาเก็บงานเรื่องสีครับ

ขี้นก หรือยางไม้ หากเปื้อนมาไม่นาน ล้างขัดออกได้ครับ ใช้น้ำยาขัดเคลือบสีธรรมดา

แต่ถ้าเปื้อนมานานมากๆประกอบกับโดนแดดจัด มันจะซึมลงไปถึงตัวแล้กเกอร์ รอยมันจะเหมือนแล็กเกอร์โดนย้อมสี (นึกถึงวุ้นสีๆนะครับ) อันนี้แก้ไม่ได้ครับซ่อมสีอย่างเดียว

ส่วนพวกรอยขนแมว ถ้าไม่ลึกมาก น้ำยาขัดเคลือบพอช่วยได้ครับ แต่ถ้าเป็นรอยลึกทำนองเห็นเนื้อแล็กยุบเข้าไปเป็นเส้น กรณีเช่นนี้ต้องขัดหน้าแล็คเกอร์ทิ้งอย่างเดียว ควรให้ช่างผู้ชำนาญทำครับ แต่ถ้าท่านจะเสี่ยงเอง ก็มีน้ำยาขัดสีของ 3m ผสมผลึก quatz ละเอียด ใช้ร่วมกับเครื่องขัดที่มีรอบการขัดเหมาะสม(ดูข้างขวด) ขัดแล้วรอยลึกจะหายไป แต่ถ้าท่านทำพลาด ผลงานดูไม่จืดนะครับ พื่นผิวท่านจะลายพร้อยเป็นตุ๊กแก

แถมเรื่องน้ำมันเครื่อง ผมได้สอบถามจากเพื่อนที่อยู่บริษัทน้ำมันเครื่องแล้วได้ความว่า

น้ำมันเครื่องมีหน้าที่หลักคือ ระบายความร้อน และลดการสึกหรอเป็นสำคัญ การประหยัดน้ำมันเป็นผลพลอยได้เพียงเล็กน้อย แทบไม่มีเสียด้วยซ้ำ แต่บริษัทมักนำผลพลอยได้(อันเล็กน้อย)มาขยายผลเป็นหน้าที่หลักของน้ำมันเครื่อง จริงๆแล้วหากคุณใช้น้ำมันเครื่องได้ถูกเบอร์(ความหนืด) แบบพี่หนุ่มว่า รถเราจะประหยัด แต่หากใช้ถูกเบอร์แล้ว ความประหยัดน้ำมันก็ไม่หนีกันมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันสังเคราะห์แท้ กึ่งสังเคราะห์ น้ำมันแร่ แต่ถ้าเป็นผลทางด้านการสึกหรอ อุณหภูมิขณะใช้ความเร็วสูง ต่างกันลิบลับครับ แม้จะเป็นน้ำมันกึ่งสังเคราะห์ด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น estate เก่าๆของผม ใช้น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์คนละยี่ห้อ ทำให้ความร้อนขณะวิ่งความเร็วสูงและรถจอดติดนานๆ มีความแตกต่างถึง 10 องศาเซลเซียส 

 น้ำมันเครื่อง มีผลต่อการประหยัดน้ำมันครับ โดยเลือกให้เหมาะสมกับรถขอเราครับ (ชนิด และค่าความหนืด รวมถึงราคา)

เอาเรื่องเดียวพอนะครับ