ในปี 2002   Lexus ขึ้นแท่นเป็นเป็นอันดับหนึ่งในตลาดรถหรูของสหรัฐอเมริกา ทิ้งคู่แข่งอย่าง Mercedes Benz  BWM และ Volvoไว้ข้างหลัง ชนิดแทบไม่เห็นฝุ่น  แต่ใครจะรู้บ้างว่า กว่าจะเป็นรถยนต์ที่หลายคนชื่นชม ทีมงาน Lexus ต้องฝ่าฟันคำสบประมาทว่า“ทำไม่ได้” มานักต่อนัก

เมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อนที่อยู่อเมริกาก็โทรมาหาอีก ก็คุยเรื่องนี้กันอีกเค้าก็ยืนยันว่า lexus เป้นรถในฝันของคนอเมริกาไปแล้ว เค้าถามเพื่อนๆ ที่ใช้ทุกคนตอบเหมือนกันว่าทุกอย่างก็เหมือนรถอเมริกัน แต่ lexus ไม่จุกจิก ใช้จนลืม  กับข่าวที่ออกมาเรื่อง recall เค้าบอกกว่าคนอเมริกาเค้ามองเป็นเก็มส์การเมือง เพราะช่วงนั้น gm กำลังแย่สุดๆ และเค้าให้สังเกตุว่าที่ recall มีแต่รถญี่ปุ่นทั้งนั้น แต่ท้ายที่สุดสาเหตุที่คันเร่งค้างก็เพราะพรมรองพื้นแค่นั้นเอง หากเปลี่ยนทุกอย่างก็จบ แต่ข่าวเรืองนี้ลงเพียงกรอบเล็กๆ ในหนังสือพิมพ์บางฉบับเท่านั้น พอมาวันนี้ gm เริ่มฟื้น การrecall รถยี่ห้อต่าง ๆ ก้ไม่เห็นมีถึงมีก็น้อย เค้าบอกอย่างนั้น (ขอให้ฟังหูไว้หูนะครับ)

ลองใช้แคมรี่ 3.0 (ไม่แน่ใจว่ามีอยู่ไหม) พื้นฐานเดียวกัน แต่อาจต่างตรงอุปกรณ์

เลกซัสรถดีครับ เข้าไปอเมริกาประมาณปี 90 ปีแรกก็ติดตลาด

คนอเมริกันใช้รถแบบทิ้งขว้าง

โรงรถไว้เก็บของ

รถจอดหน้าบ้าน

ถ้าไม่ดีไม่ทน

ป่านนี้เจ๊งไปนานแล้ว

      ความเห็นเพิ่มเติมครับ   พิจารณาจากการขับทางไกล สำหรับถนนเมืองไทย ระยะทางที่ผมทดสอบ ประมาณ 900 กม. / ผมชอบ lexus ตอนเข้า-ออกโค้ง โดยเฉพาะโค้งยาก ๆ และการแซง แล้วกลับเลน  หรือกลับเข้าเลนถ้าแซงไม่ได้ / แต่ยอมรับว่าทางตรงความเร็วไม่เกิน 150 รถเยอรมัน 2ยี่ห้อ นิ่งกว่าครับ  

SUBARU อีกยี่ห้อที่ชื่อชั้นติดคุณภาพแต่หายไปจากตลาดเมืองไทยคล้าย เล็คซัส ที่เป็นรถคุณภาพแต่ไม่นิยมในไทยเพราะคนไทยชอบของมียี่ห้อ แต่ทั้งสองยี่ห้ออยู่ระหว่างตรงกลาง จะตลาดล่างไปเลยก็ไม่ใช้ จะตลาดบนไปเลยก็ไม่เชิง อันนี้วิจารนะครับไม่ได้เสริมข้อมูลทางเทคนิคของผู้ตั้งกระทู้

เคยมีคนมาเปรียบในรายการวิทยุ ยังไงมันก็สู้เบนซ์ไม่ได้ ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอาจรย์พัฒนเดชลอง E250CGI เหยีบ 190 กม. ยังบอกว่านิ่งเลย รถญี่ปุ่นยังนั้นผมไม่เชื่อว่ามันจะสู้รถยุโรปได้ เมื่อก่อนผมก็เกลียดเบนซ์ แต่ผมได้ขับเลยติดใจมันจับทุกโค้ง วิ่งเร็วเท่าไหร่ก็นิ่ง เก็บเสียงก็สุดยอด แต่ค่าใช้จ่ายมันสูงเท่าตัวของรถญี่ปุ่น รถญี่ปุ่นเหมาะวิ่งในเมือง วิ่งไกลๆยาวๆ เหมาะกับรถยุโรป เพราะมันขับสบาย ไม่เหนื่อย