|
ขอรบกวนผู้รู้จริงเพราะดิฉันไม่รู้ | |
PLE | ดิฉันจะซื้อ benz E200 kompressor ปี 05 ราคา 2,280,000 กับ E2220 cdi ปี 03 1,890,000 บาท ควรซื้อรุ่นไหนได้ ดูแลซ่อมบำรุงไม่แพง ช่วยกรุณาตอบด้วยค่ะ |
ผู้ตั้งกระทู้ PLE :: วันที่ลงประกาศ 2010-03-29 19:15:56 IP : 110.49.3.198 |
1 |
ความคิดเห็นที่ 15 (3399000) | |
alan | ถอดหน้าปัด e200 cdiยังไงหรอคับรบกวนผู้รู้ด้วย |
ผู้แสดงความคิดเห็น alan วันที่ตอบ 2014-12-27 11:37:56 IP : 27.55.99.57 |
ความคิดเห็นที่ 14 (3393427) | |
เบนส์เจ้าปัญหา | เบ็นส์w212e250เวลาบิดสตารท์ไฟไม่โชว์หน้าปัดสตารท์เงียบไม่ติดใครพอรู้ช่วยตอบทีหรืออู่ไหนแก้ไขได้ตอบด่วนอยู่ลำลูกกาขอบคุณล่วงหน้า |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบนส์เจ้าปัญหา วันที่ตอบ 2014-08-07 21:10:17 IP : 124.122.222.84 |
ความคิดเห็นที่ 13 (3166740) | |
yngwie | ก็ซ่อมไปตามสภาพแต่ก็ต้องยอมเสียเพราะยังไม่อยากจะเปลี่ยนรถ ได้ของใหม่ก็ใช้ได้อีกนานหน่อย กำลังตัดสินใจกับแผงหน้าปัดรถอยู่ว่าจะเอาอย่างไรดี เปลี่ยนหรือซ่อม ขอบคุณครับสำหรับทุกความคิดเห็น |
ผู้แสดงความคิดเห็น yngwie วันที่ตอบ 2010-03-31 22:51:24 IP : 125.26.122.71 |
ความคิดเห็นที่ 12 (3166669) | |
ขับ estate เก่าๆ | จัดว่าหนักครับ ถ้าโดนขนาดนี้ผมคงซื้อหัวตัดเลยครับ ที่ยำเสร็จที่เหลือขาย....จะประมาณเจ็ดแปดหมื่นครับ ตัดเครื่องขายก็3หมื่นแล้ว แท่นเครื่องราคาถือว่าแรงมากๆครับ วัดโสมคู่ละ 2700 เองครับ ใช้แค่คู่เดียวด้วย..... คอมก็ประมาณนี้ครับ12000-14000 แล้วแต่ดวง..... ไฟหน้าปัทม์ดับเนี่ย R คือ Resistant ครับ เป็นตัวดิมเมอร์ปรับสว่างมืดหน้าปัทม์ ถ้าพี่ไม่ซีเรียส ไปต่อตรงเอาหลอด led ราคาไม่กี่ร้อยบาทเลือกสีได้ตามใจ แดง ฟ้า เหลือง ส้ม ขาว หรือถ้าจะให้ไฉไลก็ไปซื้อเพลทหน้าปัทม์ใหม่มาใส่ครับ คราวนี้หน้าปัทม์จะเหมือนw212 เลยครับ หรือถ้าอยากรกก็ใส่dimmerใหม่ครับเดินสายไปซ่อนไว้สักที่ อันเดิมเราก็ไม่ใช้ คราวนี้ก็ปรับมืดสว่างได้เหมือนเดิม ้เซ็นเซอร์รีโมท แนะนำเชียงกงครับ ส่วนลูกบิดรูดคงยังไม่เป็นปัญหามากครับ เพราะสวิตช์ที่เป็นคอนแทคไฟมันจะอยู่เป็นล็อกของมันอยู่แล้ว รูดนิดหน่อยไม่เป็นไรครับ ยังไงทีหลังจะลองซ่อมก็ลองบ้านเบนซ์รามอินทรา อยู่รามอินทรา 14 ใกล้ศูนย์กีฬารามอินทรา ดูครับ ผมทำร้านนี้ก็จบดีครับ สุดท้ายเป็นข่าวแจ้งเตือนครับพี่ แถวย่านจรัญ แถบบ้านบรรหารยันสะพานซังฮี้ กระจกหูช้างw202เป็นที่นิยมมากครับ คืนนึงหาย 5 คู่ก็มีครับ ไม่รู้มันจะเอาไปถมที่รึไง ถ้าแวะไปแถวนั้นก็ระวังนิดนึงครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ขับ estate เก่าๆ วันที่ตอบ 2010-03-31 16:09:10 IP : 183.89.171.11 |
ความคิดเห็นที่ 11 (3166666) | |
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ | ทางเลือกของคุณ yngwie อีกทางคือหาซื้ออะไหล่เก่าจากเชียงกง ซึ่งราคาจะแตกต่างกันอย่างกับฟ้ากับดิน แต่อายุการใช้งานก็แตกต่างกันด้วย แต่ถ้าคุณไม่คิดจะเก็บรถคันนี้ไว้สักอีกยี่สิบปี ใช้อะไหล่เก่าไปเถอะครับ บางชิ้นช่วยลดค่าใช้จ่ายคุณได้ เช่นมอเตอร์ปัดน้ำฝนที่คุณไปเปลี่ยนมา ชุดคอพวงมาลัยหรือมอเตอร์ใต้เบาะที่คุณกำลังหาอยู่ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-03-31 15:57:50 IP : 61.90.38.192 |
ความคิดเห็นที่ 10 (3166646) | |
yngwie | เฉพาะชุดคอพวงมาลัยก็หมื่นแก่ๆแล้ว ของบีเอ็มซีรี่ส 3 เข้ามาเปลี่ยนเหมือนกันต้องเปลี่ยนยกชุด ราคาสามหมื่นแก่ๆ นี่ไม่รู้จะอะไรต่ออีกล่ะ คอมเพรสเซอร์ก็ 14000 กว่า ยางรองแท่นก็อันละ 3300 จำนวน 3 ตัว มอเตอร์ปัดน้ำฝน 15000 บาท รังผึ้งแอร์พร้อมเติมน้ำยาก็ 6800 บาท มอเตอร์ปรับเลื่อนใต้เบาะนั่ง และมอเตอร์ทางด้านหลังอยู่ใต้เบาะนั่ง ไม่รู้มอเตอร์อะไร นี่ก็ หมื่นกว่าๆ จำไม่ได้ นี่ก็รอตัวรับสัญาณปิดเปิด ฝากระโปรงหลังมันแตกกรอบ รออะไหล่อยู่ไม่รู้จะมีหรือเปล่าเห็นเขาขายเป็นชุด แยกขายมีหรือเปล่าไม่แน่ใจ search หาใน oui-autiservice ไม่ยักกะเห็นมี คอนโซลลายไม้ที่อยู่ด้านบนเหนือหน้าปัดแตกลายงา ไม่รู้มีขายหรือไม่และตอนนี้ปัญหาใหม่มาแล้วคือไฟหน้าปัดดับ ขับตอนกลางคืนมองไม่เห็นต้องกดสวิทซ์ปิดเปิดไฟหน้าเขย่ามันถึงจะโชว์ ช่างเขาบอก R มันเสียไม่รู้ R อะไรหรือเป็นของชุดสวิทซ์เพราะเวลาปิดเปิดไฟหน้า มันฟรี ไม่แกร๊กๆเป็น step ไป อีกแล้วครับท่านไม่รู้อีกเท่าไหร่ เกือบได้คันใหม่แล้ว |
ผู้แสดงความคิดเห็น yngwie วันที่ตอบ 2010-03-31 14:40:39 IP : 125.26.125.176 |
ความคิดเห็นที่ 9 (3166623) | |
ขับ estate เก่าๆ | คอมเนี่ยถึงอายุครับ...โดนกันหลายคัน รังผึ้งเปลี่ยนมาด้วยเลยก็สบายใจครับจะได้ระบายความร้อนดีแอร์จะได้ฉ่ำ ยางรองแท่นกับปั๊มเนี่ยถือว่าปรกติครับ แต่พี่มีอุปกรณ์หลายอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมันเสียกันครับ พวกมอเตอร์ที่ปัดน้ำฝน มอเตอร์เบาะ คอพวงมาลัย ซึ่งพวกนี้ราคาออกจะสูงหน่อยครับ ต้องหาเชียงกงแทน....... |
ผู้แสดงความคิดเห็น ขับ estate เก่าๆ วันที่ตอบ 2010-03-31 13:26:05 IP : 183.89.188.195 |
ความคิดเห็นที่ 8 (3166549) | |
yngwie | 1.เปลี่ยนกุญแจคอพวงมาลัยทั้งชุด พร้อมลูกกุญแจ 2.คอมเพรสเซอร์แอร์ 3.มอเตอร์ปัดน้ำฝน 4.รังผึ้งแอร์ 5.มอเตอร์เลื่อนเบาะใต้ที่นั่ง ทั้งหน้าและที่อยู่ใต้เบาะหลัง 6.ปั๊มน้ำหรือเปล่าตัวนี้ไม่แน่ใจ พร้อมยางรองแท่นเครื่อง นี่แหละครับที่ไปซ่อมมา c220 |
ผู้แสดงความคิดเห็น yngwie วันที่ตอบ 2010-03-31 07:06:07 IP : 125.26.131.147 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3166517) | |
ขับ estate เก่าๆ | พี่yngwie ครับซ่อมห้าหมื่นพี่ไปทำอะไรมาบ้างครับ เล่าสู่กันฟังหน่อยครับ ผมนึกไม่ออกจริงๆครับ ถ้าวัดโสมไม่ต้องเข้าไปครับจอดรถยาก โทรไปถามมันทุกร้านแหละ ถ้าโปะ ก็รู้ครับเพราะราคาต่างกัน แล้วได้ถูกใจสั่งแล้วโอนเงินให้ไป เดี๋ยวรถวิ่งของเขาก็มาส่งเองครับ มี ข้อยกเว้นประการเดียวที่คุณต้องไปเองคือ ไม่ทราบว่าอะไหล่ชื่ออะไร หรือไม่มีpart number ส่วน ลูกรอกสายพานถ้าดังลองเอามาต้มในจาระบีที่ใช้งานรอบสูง หรือน้ำมันเครื่องก่อนครับ ถ้ายังดังต่อค่อยทิ้งครับ ปล.ขอ บิณฑบาตคำว่าเจ้าแก่เถอะครับ ผมฟังแล้วแสลง T_T |
ผู้แสดงความคิดเห็น ขับ estate เก่าๆ วันที่ตอบ 2010-03-31 00:20:29 IP : 183.89.178.68 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3166291) | |
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ | ผมแนะนำว่าคุณ Yngwie เดินทางไปแถวหลังวัดโสมฯ ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าอะไหล่ของรถเบนซ์รายใหญ่ ซึ่งถึงแม้นคุณจะอยู่ต่างจังหวัดก็ตาม แต่คุณสามารถที่จะสั่งอะไหล่เหล่านี้เอาไปใช้ได้ ขออย่างเดียวว่าช่างให้เบอร์อะไหล่ที่ถูกต้องกับคุณเท่านั้นแหละครับ ขอเบอรืโทรศัพท์และเบอร์แฟกซ์เขาเอาไว้ เอาไปหลายๆร้าน เอาไว้ต่อรองราคา แต่เรียนตามตรง อะไหล่บางตัวถ้าร้านหนึ่งไม่มีก็จะยืมของอีกร้านมาโปะอยู่ดีนั่นแหละ เครื่องยนต์ผ่านการใช้งานแค่สองแสนกิโลเมตร ผมถือว่าไม่น่าจะโทรม แต่ปัญหาที่มีเสียงดังนั้น ผมคิดว่าคุณน่าที่จะให้ช่างทำการตรวจสอบครับ เครื่องยนต์จะโทรมหรือไม่ตรวจสอบได้ วัดกำลังอัดดูครับ ถ้ากำลังอัดลดลงไปมาก แสดงว่าเครื่องหลวม แต่ถ้าไม่มีอาการควันขาว กินน้ำมันเครื่อง ไม่น่าจะเป็นปัญหาของการหมดสภาพครับ รถนะครับ ไม่ใช่ภรรยา แต่ไม่เท่าไร หมดสภาพนะ ขอโทษ คุณนะที่หมดสภาพนะ 5555 |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-03-30 10:36:04 IP : 61.90.30.199 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3166280) | |
yngwie | ขอบคุณคุณคนว่างมากครับ ถ้าได้เข้ากรุงเทพจะลองไปเดินหาดู เครื่องเบ็นซ์ตัวนี้มันเป็นรุ่นโบราณไม่มีระบบซับซ้อนอะไรมากมายเหมือนรถรุ่นใหม่ๆ รถวิ่งมา 200000 กว่าๆไหงมันโทรมเร็วจัง เววลาสตารท์แล้วเหยียบคันเร่งเสียงดังแครกๆ อยู่บริเวณสายพานไม่รู้ว่าอาจจะเกี่ยวกับตัวลูกรอกกดสายพานหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่โดยรวมก็โอเค ครั้นจะขายไปเล่นรถญี่ปุ่นก็ไม่ชอบที่ตัวรถเบาไม่นิ่งเหมือนเบ็นซ์ความรู้สึกผมนะมั่นใจกว่ากัน วิ่ง 200 กว่าก็เคยตอนออกมาใหม่ๆ เรื่องช่วงล่างลืมไปได้เลยไม่ได้ตั้งศูนย์บ่อยเพราะขับเคลื่อนล้อหลัง ตัวถังหนักเอาการแต่ก็ชดเชยด้วยกำลังของเครื่องยนต์ที่แมตกันพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป 150 แรงม้ายุโรปสมัยนั้นวัดกับเซฟิโร่ ขาดไม่เห็นฝุ่นเลยอาจจะเป็นเพราะม้ายุโรปตัวมันสูงขามันยาวไม่เหมือนม้าญี่ปุ่นที่ตัวมันเตี้ยช่วงขามันสั้นก็เป็นได้ ขอบคุณที่แนะนำครับ อยู่ต่อดีกว่าเนาะเจ้าแก่ c220 |
ผู้แสดงความคิดเห็น yngwie วันที่ตอบ 2010-03-30 09:59:59 IP : 113.53.75.65 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3166271) | |
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ | ในกรณีของคุณ Yngwie น้น ผมต้องเดาเอาว่า C220 ที่คุณพูดถึงนั้นเป็นรุ่น W202 โฉมปี 94-00 ซึ่งผมไม่สามารถที่จะทราบได้ว่ารถของคุณนั้นจดทะเบียนปีอะไร จึงแนะนำได้อย่างเดียวว่าไปดูที่ www.one2car.com เพื่อค้นหาราคาเอาเองดีกว่าครับ ข้อดีของรุ่นนี้ก็อย่างที่บอกไปแล้วคืออะไหล่ใช้ร่วมกับ E220 ได้ แต่ต้องขยันหาอะไหล่แถวหลังวัดโสมฯเอาเอง เพราะถ้าเบิกห้าง กรอบครับ รถเยอร์มันถ้าคิดจะไปกินเจ เรียนตามตรง ไม่แนะนำเลยแม้นแต่น้อยเพราะทั้งรถและเครื่องจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วในที่สุดคุณก็ต้องขายทิ้งแบบเป็นขยะ รถอายุขนาดนี้ เครื่องยนต์สภาพ 80-90% อาจจะหาได้ตามเชียงกง ซึ่งคุณเองจะต้องวนเวียนไปหาบ่อยๆ (คำว่า 80-90% นั้น หมายถึงการประเมินโดยสายตาโดยอาศัยประสพการณ์และอารมณ์ของเจ้าของร้านเป็นหลัก ซึ่งไม่มีใครทราบได้ว่าสภาพเครื่องจริงๆมันจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ เพราะวิธีเดียวที่จะบอกได้แน่ชัดคือผ่าเครื่องออกมาพิสูจน์ ซึ่งไม่มีเชียงกงร้านไหนจะยอมผ่าเครื่องมาดูถ้าคุณไม่จ่ายเงินซื้อเขาก่อนและถ้ามันไม่ได้ 80-90% เขาก็ไม่คืนเงินคุณหรอกครับ) แต่ไม่เข้าใจว่าเครื่องตัวปัจจุบันมันหมดหนทางซ่อมแล้วหรือครับ ผมว่าไม่น่าจะเลวร้ายอย่างที่คุณคิดนะ เพียงแต่ขอให้หาช่างที่เป็นมวยจริงๆเอาอยู่ครับ เรื่องกินเจเรียนตามตรงว่าลืมไปเถอะเพราะรถเยอรมันคุยกับญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง รับรองติดลงไปใช้ได้ไม่นาน ขายทิ้งเป็นเศษเหล็ก ขาดทุนป่น*** |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-03-30 09:35:07 IP : 61.90.30.199 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3166256) | |
yngwie | อยากเอา c220 elegance ไปขายจังเลยซ่อมจังเลย เดือนครึ่งหมดไป 50000 กว่าบาทแล้ว เซ็ง จะเหลืออยู่เท่าไหร่ตอนนี้ เครื่องรุ่นนี้ยังพอหาได้อยู่หรือเปล่าสภาพ 80-90% ราคาอยู่ประมาณสักเท่าไหร่ วางเครื่อง j ดีไหม กะจะใช้อีกสัก 5 ปี |
ผู้แสดงความคิดเห็น yngwie วันที่ตอบ 2010-03-30 08:51:03 IP : 125.26.130.90 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3166246) | |
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ | E220 CDI ครับ ดูแลรักษาง่ายกว่า ความสิ้นเปลืองต่ำกว่า คือบริโภคทางไกลราวๆ 14-16 กม/ลิตรขึ้นอยู่กับน้ำหนักเท้าผู้ขับ อัตราการเร่งแซงดีกว่ามากครับ ซึ่งสมัยก่อนจะเชื่อว่าเครื่องดีเซลการเร่งแซงแย่กว่าเบนซิน แต่ปัจจุบัน มันไม่ใช่แล้วครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-03-30 07:23:39 IP : 61.90.30.199 |
ความคิดเห็นที่ 1 (3166153) | |
yngwie | e200 เป็นเครื่องเบ็นซิน ส่วน 220 cdi เป็นเครื่องดีเซล การบำรุงรักษาดีเซลไม่จุกจิกเครื่องทนกว่า เงียบใช้ได้เลยทีเดียว ทีนี้ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะชอบแบบไหน ดีคนละแบบ น้ำมันดีเซลก็ถูกกว่าเบ็นซิน |
ผู้แสดงความคิดเห็น yngwie วันที่ตอบ 2010-03-29 20:10:28 IP : 125.26.130.252 |
1 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 4868142 |