เปิดตัวรถสปอร์ตสมรรถนะสูง Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT C เสริมความแกร่งให้แบรนด์ AMG
บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถสปอร์ตสุดร้อนแรง 2 รุ่น ของแบรนด์ Mercedes AMG เพื่อท้าทายตลาดรถปลอร์ตในขณะนี้ ได้แก่ Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT C อย่าง “GT R” รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์แรงด้วยเทคโนโลยีแบบมอเตอร์สปอร์ต และ “GT C” สปอร์ตโรดสเตอร์ที่จะมอบความเร้าใจในทุกการขับขี่
แบรนด์ Mercedes-AMG ซึ่งถือเป็นแบรนด์ รถสปอร์ตระดับแถวหน้าของโลก ที่ยึดถือหลักการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สามารถ ‘ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ – Driving Performance’ Performance’ เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ ผ่านการส่งมอบเทคโนโลยีที่ ล้ำสมัย มอบความโฉบเฉี่ยวและเร้าอารมณ์ให้กับทุกการขับขี่ และในโอกาสอันดีที่แบรนด์รถสปอร์ตนี้ได้ดำเนินงานมาถึง 50 ปี และเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จึงเผยโฉมรถสปอร์ตสุดแกร่ง เข้ามาเสริมทัพให้แบรนด์ โดยมุ่งเน้นกลุ่มรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง อย่าง Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT C
Mercedes-AMG GT R รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์แรง นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมแบบรถแข่งหรือมอเตอร์สปอร์มาประยุกต์ใช้ เพิ่มความเร้าใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ภายนอกของ GT R ส่วนหน้าของตัวรถมีลักษณะลาดต่ำ กระจังหน้าแบบ AMG Panamericana ซึ่งยื่นออกไปคล้ายจมูกฉลามนั้นช่วยลดแรงกดที่ด้านหลังตัวรถ ช่วยให้อากาศไหลเวียนขณะรถเคลื่อนที่ดีขึ้น อีกทั้งยังประกอบด้วยวัสดุบังคับลมชุบโครเมี่ยม 15 ซี่ ล้ออัลลอยแบบ AMG Performance มีน้ำหนักเบา หลังคารถที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอน เสริมให้ตัวรถมีสีสันตัดกันสวยงาม พร้อมติดระบบเบรกแบบ AMG high-performance composite brake สีเหลืองที่เป็นสีพิเศษสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ
ภายในประยุกต์มาจากรถแข่ง เบาะที่นั่งจึงต่ำกว่าปกติ โอบกระชับสรีระ หุ้มด้วยหนัง Nappa หรูหรา ทั้งนี้สามารถเลือกติดตั้งเบาะที่นั่งแบบเอเอ็มจีเพอร์ฟอร์มานซ์ ชุดเข็มขัดนิรภัยสีเหลือง ชุดแผงหน้าปัดสีเหลือง หรือชุดแต่ง AMG Interior Night เป็นชุดแต่งมาตรฐาน ทั้งพวงมาลัย และเกียร์จะชุบสีดำเงาทั้งหมด, แผงหน้าปัดกว้าง
Mercedes-AMG GT C สปอร์ตโรดสเตอร์ที่เร้าใจ ดีไซน์ภายนอก มีการเสริมสปอยเลอร์หลังที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ในสนามแข่งรถยนต์ ล้อหลังถูกปรับให้ใหญ่ขึ้นที่เพลาหลัง เข้าโค้งและยึดเกาะดีขึ้น, กระจังหน้าแบบเอเอ็มจีแพนอเมริกาน่า กระโปรงหน้ายาว อีกทั้งยังมีช่องรับอากาศที่กว้าง ช่วยให้อากาศไหลผ่านเข้าสู่ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ได้ดียิ่งขึ้น ติดตั้งหลังคาผ้าใบ 3 ชั้นที่มีผิวสัมผัสนุ่ม
ภายในมาพร้อมกับเบาะหนัง Nappa ที่อยู่ต่ำเพื่อช่วยโอบล้อมผู้ขับขี่ให้รู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง อีกทั้งยังติดตั้งระบบให้ความอบอุ่นบริเวณช่วงคอแบบแอร์สคาร์ฟ (AIRSCARF) และระบบ ทำความเย็นให้กับเบาะสำหรับการขับขี่แบบเปิดประทุนทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว และยังปรับเลือกอุณหภูมิของระบบทำความร้อนและความเย็นได้ 3 ระดับ, แผงหน้าปัดกว้าง และห้องโดยสารที่เปลี่ยนสีได้หลากหลายเพื่อเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่
Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT C มาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดของเกียร์หลักได้ 3 แบบ คือ “C” (Comfort) สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน, “S” (Sport) และ “S+” (Sport Plus) เน้นความเร้าใจในการขับขี่ และ “I” (Individual) ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้ และโหมด “RACE” ที่เป็นโหมดเสริมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแรงและเกียร์ที่เปลี่ยนได้รวดเร็วเหมือนอยู่ในสนามแข่งรถ
รถยนต์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 4 ลิตร ระบบไดเรค อินเจคชั่น และระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7 สปีด (seven-speed dual clutch transmission) ที่ช่วยทำให้รถมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ความจุกระบอกสูบ 3,982 ซีซี รุ่น GT R ให้พละกำลัง 585 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 700 นิวตันเมตร ที่ 1,900 – 5,500 รอบต่อนาที และรุ่น GT C ให้พละกำลัง 557 แรงม้า ที่ 5,750 – 6,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 680 นิวตันเมตร ที่ 1,900 – 5,500 รอบต่อนาที
· โดย Mercedes-AMG GT R ราคาเริ่มต้นที่ 17,400,000 บาท และ Mercedes-AMG GT C ราคาเริ่มต้นที่ 16,800,000 บาท