MAZDA DNA SKYACTIVE CARAVAN เดินทางผ่าน EAST-WEST ECONOMIC CORRIDOR รวมระยะทางกว่า 2,900 กิโลเมตร
มาสด้ากับเทคโนโลยีล่าสุด สกายแอคทีฟ - วิฮีเคิล ไดนามิกส์ (SKYACTIV – Vehicle Dynamics)ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-Vectoring Control : GVC) ซึ่งเป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่มาสด้าภูมิใจนำเสนอ กับรถยนต์ที่เพียบพร้อมไปด้วยสมรรถนะที่เต็มเปี่ยมด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลัง ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง รวมไปจนถึงระบบช่วงล่าง ที่สอดประสานการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถรีดสมรรถนะอันทรงพลังได้เต็มขั้น ให้อารมณ์สปอร์ตเร้าใจ แม้กระทั่งผู้โดยสารยังรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง
สำหรับดีเอ็นเอ สกายแอคทีฟสายพันธุ์ล่าสุดนี้ ได้ถูกฝังในหัวใจของรถมาสด้ารุ่นปัจจุบันของปี 2017 ซึ่งได้แก่ มาสด้า2, มาสด้า3, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะถูกส่งต่อในรุ่น มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ที่กำลังจะมาเติมเต็มความสมบูรณ์ในตลาดรถครอสโอเวอร์อีกครั้ง และเพื่อเป็นการพิสูจน์เจนเนอเรชั่นใหม่ครั้งนี้ จึงได้ค้นหาสนามเส้นทางที่จะมาร่วมทดสอบดีเอ็นเอสกายแอคทีฟทุกรุ่น
เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยรถยนต์ จะถูกบันทึกสำหรับการเดินทางด้วยคาราวานมาสด้า เส้นทางที่ใช้ครั้งนี้คือ EAST – WEST ECONOMIC CORRIDOR จากเวียดนาม-ลาว-ไทย-พม่า เชื่อมโยงอารยธรรม บนระเบียงเศรษฐกิจจากมหาสมุทรแปซิฟิกสู่มหาสมุทรอินเดีย รวมระยะทางกว่า 2,900 กิโลเมตร ด้วยขบวนมาสด้านับ 10 คัน ที่ขับเคลื่อนด้วยสื่อมวลชนพร้อมด้วยผู้บริหาร โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ เวียดนาม-ไทย, กรุงเทพฯ-พม่า-ย่างกุ้ง, พม่า-ไทย ที่จะมาผลัดเปลี่ยนกันควงพวงมาลัยเพื่อสัมผัสถึงเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ
มาสด้าปักหมุดไว้ที่เส้นทางสายเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง สืบเนื่องจากความร่วมมือจาก 6 ประเทศ ประกอบด้วย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน และไทย ได้ร่วมผนึกกำลังทางเศรษฐกิจ ด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ที่กำหนด 9 เส้นทางหลัก เพื่อเป็นพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ขบวนคาราวานมาสด้าจะออกโลดแล่นไปทางแนวตะวันออกสู่ตะวันตก เรียกว่าเส้นทางนี้ว่า R2 หรือ R9 สัมผัสขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รวมไปถึงการเติบโตของสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียน
โดยผู้ร่วมเดินทางกลุ่มแรกจะเริ่มต้นภารกิจครั้งนี้ด้วยการบินลัดฟ้าสู่เมืองเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พาคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์มาสด้าในแถบอาเซียน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองเว้ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของเวียดนาม กจากนั้นสู่ด่านชายแดนลาวบาวของเวียดนาม-ลาว ข้ามแม่น้ำโขงผ่านประเทศลาวด้วยสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เข้าสู่ประเทศไทยในจังหวัดมุกดาหาร ผ่านขอนแก่น มุ่งหน้าสู่พิษณุโลกซึ่งเป็นจังหวัดที่รัฐบาลไทยปลุกปั้นให้เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงการเดินทางจากทั่วทุกสารทิศ นั่นคือ “4 แยกอินโดจีน” ด้วยตำแหน่งที่อยู่กึ่งกลางจุดตัดระหว่าง NSEC และ EWEC จึงเกิดการเชื่อมโยงเศรษฐกิจจากทั้ง 4 ทิศ ภาครัฐจึงสนับสนุนให้เกิดการลงทุน มีการจัดตั้งศูนย์บริการกระจายสินค้า และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติสร้างรายได้ให้ครัวเรือนได้อีกด้วย
การเดินทางช่วงที่ 2 รับช่วงต่อโดยผู้ร่วมเดินทางกลุ่มที่ 2 ซึ่งมาผลัดเปลี่ยนกับกลุ่มแรก เดินทางจากพิษณุโลกสู่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อข้ามแดนสู่เมืองมะละแหม่งซึ่งเป็นท่าเทียบเรือขนส่ง เมืองตากอากาศชายทะเล เป็นเมืองหลวงใหญ่อันดับ 2 ของประเทศพม่า ถนนของพม่าไม่มีไหล่ทาง อีกทั้งยังเป็นเลนสวน ทำให้ผู้คนใช้สัญจรขวักไขว่กันบนถนน ทั้งจักรยาน จักรยานยนต์ คนเดิน ฝูงวัวควาย ซึ่งต้องขับขี่อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องขับชิดขวา-เลี้ยวซ้าย ใช้ความเร็วมากไม่ได้ วันรุ่งขึ้นขับไปยังเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเมืองนี้ไม่อนุญาตให้รถจักรยานยนต์เข้า เมืองย่างกุ้งเป็นศูนย์กลางทางการค้าหลักที่สำคัญของประเทศ บ้านเมืองเจริญหูเจริญตา แวะเยี่ยมชมเมืองหงสาวดี แบะไปสักการะพระประจำวันเกิด ณ มหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ก่อนจะปิดท้ายทริปด้วยบรรยากาศและความงดงามของสาวพม่า ณ “ตลาดสก๊อต” ก่อนที่จะส่งมอบพวงมาลัยต่อให้ร่วมเดินทางกลุ่มสุดท้าย
สมาชิกกลุ่มที่ 3 ก่อนรับภารกิจทดสอบได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพม่า ที่แม้แต่คนไทยยังต้องดั้นด้นไปไหว้ขอพร เริ่มต้นที่วัดเจ๊าทัตยี พระนอนองค์ใหญ่ที่ตาหวานที่สุด และเจดีย์โบดาทาวน์ หรือ วัดเทพทันใจ หลังจากอิ่มบุญก็เริ่มภารกิจนำทัพ MAZDA DNA SKYACTIV กลับสู่ประเทศไทย ผ่านด่านแม่สอด มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครถือเป็นอันเสร็จสิ้นสุดภารกิจ ผู้ร่วมเดินทางกลับมาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของเส้นทางประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN ณ ร้านอะเบาท์ฮิพ (About Hip) บนถนนประชาชื่น บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และอบอุ่นเป็นกันเองของผู้ร่วมเปิดประสบการณ์ในเส้นทางเศรษฐกิจนี้