dot




รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Yamaha E01 ขี่ดี มีเกียร์ถอย แต่...ไม่ขาย!

 

 

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Yamaha E01 ขี่ดี มีเกียร์ถอย แต่...ไม่ขาย!

 

 

เกริ่นสักนิดหนึ่งว่า รถที่ทดสอบเป็นหนึ่งในจำนวน 40 คันในประเทศไทย ที่ทางไทยยามาฮ่า มอเตอร์ สั่งนำเข้ามาทดสอบเพื่อเก็บข้อมูลจากการผลิตที่ญี่ปุ่น ทั้งหมด 500 คันทั่วโลก โดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV Yamaha E01 เวอร์ชันนี้ยังเป็นรถ POC (Proof of Concept) หรือเรียกง่ายๆ ว่า พัฒนาเลยระดับโปรโตไทป์ขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่ใช่โปรดักชันไบค์ เพราะเปิดโอกาสให้วิศวกรสามารถแก้ไขในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ ก่อนจะขึ้นสายการผลิตจริง ซึ่งยังไม่มีแผนการทำตลาดในปีนี้แน่นอน อาจจะยาวถึงปีหน้า ทำให้ไม่สามารถบอกราคาขาย ณ ตอนนี้ได้ แต่จุดประสงค์ของการนำเข้า Yamaha E01 มาเพื่อทดลองวิ่งเก็บข้อมูลผ่านหน่วยงาน และพันธมิตรต่างๆ

 

 

หัวใจหลักของYamaha E01 คือตัวแบตเตอรี่ที่ใช้คือแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนความจุ 4.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 130 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WMTC คลาส 1 ในยุโรป มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 11 แรงม้า แรงบิด 30.2 นิวตันเมตร ส่วนความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตร ตามสเป็กของยามาฮ่า (แต่ลองขี่จริงวิ่งได้ถึง 104-105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบด้วยกันคือ

โหมดเพาเวอร์ PWR ให้กำลังเต็มที่ 11 แรงม้า แรงบิด 30.2 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดทำได้ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โหมดมาตรฐาน STD ให้กำลังเต็มที่ 11 แรงม้า ลดแรงบิดเหลือ 24.5 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดยังทำได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โหมดอีโค่ ECO ให้กำลังเต็มที่ 7 แรงม้า แรงบิดลดเหลือแค่ 21.4 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดทำได้ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยทางยามาฮ่าให้เหตุผลว่า เน้นความประหยัดจึงจำกัดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ ทำให้รถวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้น

 

 

การออกแบบภายนอกของ Yamaha E01 ใช้โครงสร้างของ Yamaha Nmax ทำให้เป็นรถที่ขี่ง่าย คล่องตัว ท่านั่งเหมือนขี่สกู๊ตเตอร์ขนาดเล็กทั่วไป แต่มีความหนักของตัวรถมากกว่า Yamaha Nmax อยู่พอสมควร อันเนื่องมาจากตัวแบตเตอรี่      

 

 

รูปลักษณ์ที่ดูพรีเมียม ด้านหน้าของตัวรถ ใช้ไฟหน้าแบบ LED สไตล์แบบ R-Series มาพร้อมกับไฟ DRL (Daytime Running Light) ที่อยู่ล้อมรอบช่องชาร์จแบตเตอร์รี่ โดยช่องชาร์จของ Yamaha E01 ยังใช้หัวชาร์จเป็นของตัวเองอยู่ ยังไม่สามารถใช้ร่วมกับหัวชาร์จ เมืองไทยได้ ต้องใช้หัวชาร์จที่ติดมากับตัวรถ แต่ชาร์จไฟบ้านได้ปกติ (ทางยามาฮ่าเคลมว่าอาจจะเปลี่ยนหัวชาร์จเป็นอีกแบบ)

 

 

หน้าจอเรือนไมล์เป็นแบบดิจิทัล บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน รองรับการเชื่อมต่อมือถือ

ชิลด์บังลมด้านหน้า มีขนาดใหญ่ ช่วยลดแรงปะทะจากลมขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดีพอสมควร

 

   

 

ช่วงล่างด้านหน้า ใช้ช็อกอัพแบบเทเลสโกปิก ล้อหน้าใช้ล้ออัลลอยขนาด 13 นิ้ว ใช้ยางขนาด 110/70-13 ชนิดไม่มียางใน ช่วงล่างด้านหลัง เป็นแบบสวิงอาร์ม ช็อกสปริงคู่ ยางหลังขนาด 130/70-13 ด้านระบบเบรก เป็นดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมปั๊มเบรก 1 พอต

การทรงตัวดี ควบคุมสบาย เบรกหน้า(มือขวา) แม่นยำมั่นใจ พร้อมระบบป้องกันล้อลื่นไถล Traction Control System คอยช่วยสนับสนุนความปลอดภัย

ตัวรถมีโหมดถอยหลังได้ด้วยความเร็ว 1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากยามาฮ่าเป็นห่วงว่า ตัวรถที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า NMAX หรือหนักขึ้นไปใกล้เคียงกับ XMAX กลัวผู้ขี่จะถอยหลังไม่สะดวก จึงเพิ่มระบบนี้เข้ามา

ส่วนระบบ Regenerative Brake ให้ความรู้สึกว่าระบบขับเคลื่อน (มอเตอร์ไฟฟ้า) จริงเวลาผ่อนคันเร่ง แต่การหน่วงดึงมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่สามารถคืนพลังงานกลับไปเก็บในแบตเตอรี่ได้ นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ Vehicle Control Unit, Battery Management System, Motor Control Unit พร้อมระบบเบรก Regenerative Brake ที่จำลองความรู้สึกของ Engine Brake เพื่อให้ลดความเร็วได้อย่างนุ่มนวล (แต่ไม่ชาร์จไฟกลับเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่)

 

 

ตัวรถ Yamaha E01 มี E-sim และมี GPS ในตัว เพื่อเก็บข้อมูลของการทดสอบส่งต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์กลางที่ประเทศญี่ปุ่น ใช้สำหรับวิเคราะห์และพัฒนาต่อไป

การชาร์จถ้าไม่มี Wall Box ของยามาฮ่า ต้องใช้ Portable Charge รองรับแรงดันไฟฟ้า 100 - 240 โวลต์ โดยเสียบปลั๊กตัวผู้เข้ากับเต้ารับที่บ้าน และอีกฝั่งเป็นหัวชาร์จของยามาฮ่า เสียบเข้ากับตัวรถ ซึ่งการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 100% ใช้เวลา 14 ชั่วโมง

 

 

หลังจากทดลองขี่แล้ว Yamaha E01 เป็นรถที่ขี่ง่าย คล่องตัว การเร่งแซงทำได้ดีพาวเวอร์ และ สแตนดาร์ด ส่วนโหมดอีโค่ อืดอย่างเห็นได้ชัด แต่มันวิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร ระบบเบรกพอตัว ABS จับได้ค่อนข้างไว แต่อนาคตทางยามาฮ่าน่าจะต้องอัปเกรดเบรกสักหน่อย เพราะตัวรถมีน้ำหนักค่อนข้างมาก และกล่องเก็บของใต้เบาะ ซึ่งทางยามาฮ่าดีไซน์ไว้เพื่อเก็บที่ชาร์จไฟแต่ใส่ของได้ประมาณความจุ 5 ลิตร ใส่หมวกกันน็อกแบบเปิดหน้าได้ แต่ใส่แบบเต็มใบไม่ได้

 

 

ในอนาคตทางยามาฮ่า น่าจะมีการปรับปรุงในส่วนของที่ชาร์จไฟให้สามารถใช้แบบ Type2 และในส่วนของแบตเตอรี่ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลกว่านี้

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า Yamaha E01 ไม่ได้ทำตลาดในเร็วๆ นี้ ทำให้ไม่มีราคาจำหน่ายประกาศออกมา ถึงแม้ว่าตอนนี้มีหลายคนสนใจก็ตาม

สำหรับใครที่อยากลองขี่ ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ลองสอบถามไปที่ Yamaha Rider's Club เกษตร-นวมินทร์

Yamaha E01

ราคา                                ยังไม่วางขาย        

เครื่องยนต์                      มอเตอร์ไฟฟ้า      

พละกำลังสูงสุด               11 แรงม้า

แรงบิดสูงสุด                   30.2 นิวตันเมตร  

ความเร็วสูงสุด                100 กม.

น้ำหนักรถเปล่า               158 กก.            

แบตเตอรี่                        ลิเธียมไอออน 4.9 kWh                   

ขนาดยาง                       110/70-13 (น.) 130/70-13 (ล.)

 




TEST RIDE

BMW R nineT ขี่สนุก ออปชันพอตัว
Suzuki Raider J Crossover รถแม่บ้านสายลุย
Yamaha Fazzio Hybrid Connected เหมาะขับในเมือง เร่งแซงสบาย ออกตัวไฟแดงไม่ห้อยท้ายแน่นอน
Royal Enfield Himalayan ซีซีน้อย แต่ขี่อร่อยเว่อร์
All New Ducati Monster 937
BMW R1250 GS Adventure คือหนึ่งในใจสายเดินทาง ที่นักขี่หลายคนถวิลหา กับราคาเริ่มต้น 1,105,000 บาท
Ducati 1 คันแต่มันส์ได้ 4 แบบกับ Ducati Multistrada V4 ทัวร์ริ่งก็ซิ่งได้
Test Ride : DUCATI Panigale V4S : Fast Force & Hot!!!
BMW R18 CLASSIC หล่อ เท่ พร้อมค่าตัว 1.25 ล้านบาท
Harley-Davidson FLHT Electra Glide Standard | First Ride Review
Triumph Tiger 900 เสือหล่อ กล้ามใหญ่
Review KTM 790 ADVENTURE ตัวลุยที่ไม่ต้องเขย่ง!
BMW C 650 SPORT BIG SCOOTER ที่มีอะไรมากกว่า บิดอย่างเดียว!
Pan America รถ Adventure คันแรกของ Harley-Davidson!
ทริป HARLEY-DAVIDSON Pan America บุกตะลุยเส้นทางแอดเวนเจอร์
BMW R1250 GS รถ Adventure-Touring ระดับหัวแถวของโลก!
BMW R18 First Edition “เล่นได้ เพราะ Berlin Built " กับราคา 1,150,000 บาท
Triumph Trident 660 เล็ก สั้น มันส์ด้วย!!!
BMW C 400 X Size เล็ก แต่ราคา excite!
BMW F 900 XR : Option เพียบ! แต่ราคาเบา?
Bajaj Pulsar RS200 และ Bajaj Pulsar NS 200 ความเหมือนที่แตกต่าง จากดินแดนภารตะ
Test Ride : Triumph Rocket 3 GT 2,500 ซีซี ที่กล้าท้า Porsche 911 Turbo S ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 2.73 วินาที
TEST RIDE : BMW F 900 R หล่อ แรง ล้ำ!
BMW C 400 GT ทัวร์ริ่งก็ซิ่งได้!
รีวิวน้องใหม่ในเมืองไทย BAJAJ Dominar 400
BMW F850 GS ลุยได้ตามใจสั่ง
รถยักษ์ 2500 ซีซี ใหญ่ที่สุดในโลก! กับ All New Triumph Rocket 3
Harley Davidson Softail Heritage Classic
Triumph Street Scrambler 900 ขี่เท่ ขี่ลุย จบในคันเดียว!
หล่อ แรง สมรรถนะสุดเร้า Triumph Bonneville T120 Black
ลองขี่ Ducati Scrambler icon รถซุกซนของวัยมันส์
Triumph Bonneville Speedmaster
Harley Davidson Softail Low Rider custom by AAS Harley-Davidson of Bangkok
Royal Enfield Continental GT 650 หล่อ ใจดี ขี่สบาย!?!?
ลองของใหญ่ Drag Bike Style กับ Harley-Davidson FXDR V-Twin 1,868 ซีซี
Triumph Scrambler 1200 XE ตำนานความเก๋ามาตั้งแต่ในยุค 60's
Test-Ride : Harley-davidson roadster 1200
DUCATI SCRAMBLER SIXTY 2 บิ๊กไบค์สไตล์วัยรุ่น
ลองจับตั๊กแตนพันธุ์ดุ Triumph Street Triple RS
Triumph Tiger 800 XRT
Harley-Davidson Softail Fat Bob 2018 ฉีกลุคเดิมไปอย่างชัดเจน
คลาสสิกทั้งทีต้อง Triumph Bonneville T120 Black
Iron 1200 มอเตอร์ไซค์สไตล์ย้อนยุค พร้อมพละกำลังแรงสะใจ!
Test ride : Ducati Hypermotard 939
ลองขี่ Harley Davidson Softail Sport Glide
Royal Enfield Classic 500 การออกแบบย้อนยุค สไตล์ช่วงหลังสงคราม
ลองของใหญ่กับ Ducati Scrambler 1100 ตัวท็อปจากตระกูล Scrambler



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

V.A & Sons Co.,Ltd. / Advance Activity Co.,Ltd.
21 Soi Viphavadee 32, Viphavadee-Rangsit Road, Jatujak, Bangkok 10900 Thailand
Tel. 02-5114020-2 Fax. 02-5114023