dot




All New Ducati Monster 937

 

Test Ride : All New Ducati Monster 937

 

 

สาวก Ducati ที่ชื่นชอบเฟรมถักสีแดง ที่ได้รับความนิยมมาตลอด 9 ปี แต่ Ducati Monster 937 ได้แหกกฎและเปลี่ยนภาพจำในหัวของเหล่าสาวก Ducati ไป นั่นคือได้เปลี่ยนโครงถักออกเปลี่ยนมาใช้เฟรมอะลูมิเนียมอัลลอยขนาดกะทัดรัด เกาะหน้าเครื่องยนต์ แต่…มันทำให้น้ำหนักลดลงไปได้ถึง 4.5 กิโลกรัม พร้อมซับเฟรมที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ GFRP (Glass Fiber Reinforced Polymer) ทำให้น้ำหนักรถเหลือเพียง 166 กิโลกรัม เบากว่ารุ่น Monster 821 ถึง 18 กิโลกรัม มาจาก 1. ชุดเครื่องยนต์ถูกปรับปรุงและดีไซน์ใหม่ ใช้เครื่องยนต์แบบ L-Twin Desmodromic valve Testastretta 11˚ ทำให้มีน้ำหนักลดลงไปถึง 2.4 กิโลกรัม 2. ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยดีไซน์ใหม่ ทำให้มีน้ำหนักลดลงไปถึง 1.7 กิโลกรัม  3. Double Side Swingarm ได้รับการพัฒนาทำให้มีน้ำหนักลดลงไปถึง 1.6 กิโลกรัม แต่ยังคงความแข็งแรงไว้ได้อย่างดี 4. เพื่อความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น New Monster ได้รับการถ่ายทอดจากเทคโนโลยีสนามแข่ง Moto GP คือเฟรมแบบ Monocoque จึงทำให้มีน้ำหนักลดลงไปถึง 4.5 กิโลกรัม 5. ซับเฟรมด้านหลังใช้วัสดุ Glass Fiber Reinforced Polymer จึงทำให้มีน้ำหนักที่เบามากขึ้น 1.9 กิโลกรัม

 

   

 

Ducati Monster 937 โดดเด่นมาด้วยชุดไฟหน้าแบบใหม่ Full LED พร้อมไฟ daytime Running Light (DRL) ทรงสวย ช่วงเวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟหน้า แค่ LED ก็สว่างเกินพอ และอีกระบบคือ ไฟหน้าอัตโนมัติ ตั้งไว้เวลาแสงสว่างลดลง เข้าอุโมงค์ ไฟหน้าก็จะติดเองอัตโนมัติ หน้าปัดเรือนไมล์แบบ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว แสดงผลแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ มีลูกเล่นมากมาย ใช้งานง่าย มองได้ชัดเจนแม้แดดจัด

 

 

Ducati Monster 937 ใช้เครื่องยนต์ L-Twin Desmodromic Valve Testastretta 11˚ ขนาด 937 ซีซี เกียร์ 6 สปีดให้กำลังถึง 111 แรงม้า ที่ 8,750 รอบต่อนาที แรงบิด 93 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบต่อนาที ความจุถังน้ำมัน 14 ลิตร ส่วนเรื่องบำรุงรักษาทาง Ducati แจ้งว่า เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 15,000 กิโลเมตร และตั้งวาว์ลทุกๆ 30,000 กิโลเมตร

ความรู้สึกกับเครื่องยนต์ตัวนี้ของ Ducati Monster 937 ที่เกือบๆ จะ 1,000 ซีซีอยู่แล้ว ในส่วนของความนิ่งของตัวรถนั้น บอกเลยว่ามันนิ่งๆ แน่นๆ และมีความเรียบเนียนของคันเร่ง ประกอบกับตัวรถมีน้ำหนักโดยรวมค่อนข้างเบา ทำให้การขับขี่ที่เน้นการเล่นรอบ ตัวรถจะพุ่งทะยานออกไปแบบติดมือทุกย่านความเร็ว ซึ่งความแรงของเครื่องยนต์นั้นบอกเลยว่าถ้าเผลอตัว ไม่เกร็งตัว เกร็งแขนไว้ แล้วเปิดคันเร่งหนักๆ มีหงายหลังหรือมือหลุดจากแฮนด์รถได้ เพราะแรงบิดของตัวรถค่อนข้างหนักหน่วง และการต่อเกียร์ค่อนข้างดี ต่อเนื่องเพราะ Ducati Monster 937 มีระบบ Quick Shifter ซึ่งใช้ของ Domino ของแต่งแบรนด์ดังจากอิตาลี ใช้ได้ทั้งขึ้น และลง ช่วยเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ขึ้นและให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและต่อเนื่องไปอีก

 

ถามถึงความร้อนของเครื่องยนต์ Ducati Monster 937 ว่าร้อนเหมือนตัวก่อนๆ ไหม ก็ต้องบอกว่า ร้อนครับ ถ้าขี่เรื่อยๆ ยาวๆ มีลมตลอดเวลาก็ไม่ร้อน แค่อุ่นๆ แต่ถ้าจอดรถติดไฟแดงนานๆ บอกได้เลยว่าร้อน แต่ร้อนทางด้านซ้ายมากกว่าทางขวา เพราะพัดลมหม้อน้ำจะทำงาน พัดลมร้อนอัดใส่ขาซ้ายด้านบนพอสมควร แนะนำว่าขี่ Ducati ให้ใส่กางเกงขายาวดีกว่า แต่ถึงร้อนก็ไม่ร้อนจนแสบ แดง เหมือนตัวสปอร์ตแน่ๆ

 

 

ช็อกอัพด้านหน้าเป็นแบบหัวกลับขนาด 43 มิลลิเมตร ปรับแข็ง-อ่อน ไม่ได้ แต่ให้ความรู้สึกกระชับรับกับสภาพถนนเป็นอย่างดี ส่วนทางด้านหลังใช้สวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียมพร้อมช็อกอัพเดี่ยวหรือ Mono Shock ก็ปรับระดับพรีโหลดได้

 

 

ขนาดล้อและยางทางด้านหน้านั้นใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว ใช้ยางของ Pirelli Diablo Rosso III ขนาด 120/70 ZR17 ส่วนทางด้านล้อหลังใช้ยางของ Pirelli Diablo Rosso III ขนาด 180/55 ZR17 ซึ่งยางรุ่นนี้บอกได้เลยว่าสายซิ่งชื่นชอบมาก เพราะยึดเกาะถนนดี ตัวยางมีความนุ่ม เหนียว เอาอยู่ทุกโค้งแต่หมดไวไปหน่อย

 

 

ในส่วนของเบาะนั่ง Ducati Monster 937 ค่อนข้างเตี้ยและกระชับมาก จากตัวเลขเบาะนั่งมีความสูงจากพื้นที่ 775 มิลลิเมตร ช่วงขาหนีบของรถมีความแคบ ทำให้ขาเหยียบพื้นได้เต็มเท้า เหมาะกับขนาดตัวคนเอเชียดี ขี่แล้วมั่นใจว่าเวลาจอดรถ ไม่ล้มแน่ๆ ไม่ต้องลุ้น ขายันพื้นสบาย แต่นั่งนานๆ แล้วเมื่อยรวมถึงเบาะคนซ้อน เพราะตัวเบาะบางและไม่นุ่มเท่าไหร่

Ducati Monster 937 มีการปรับตัวแฮนด์ให้หักเลี้ยวได้มากขึ้นเพื่อความคล่องตัวในการขับขี่ในเมือง และตัวแฮนด์บาร์ก็ปรับเข้าหาตัวอีก เพื่อให้การขับขี่ในเมืองคล่องตัวมากยิ่งขึ้น การซอกแซกท่ามกลางการจราจรติดขัดเป็นไปอย่างสบาย ตัวแฮนด์ไม่ได้กว้างมาก บาลานซ์ตัวรถดี ใช้โหมด Urban ในการขับขี่สบาย แรงกำลังดี คลัตช์ไม่แข็งมากและสามารถปรับระดับความแข็ง-อ่อนได้ทั้งคลัตช์และเบรกมือ

ส่วนเรื่องเบรกอันนี้ไว้ใจได้เพราะใช้เบรกของเบรมโบ้คู่หน้าปรับความแข็ง-อ่อนได้ส่วนเบรกหลังเป็นเบรกเดี่ยว ไม่สามารถปรับแข็ง-อ่อนได้

 

 

             All New Ducati Monster 937 ยังใส่ระบบอิเล็กทรอนิกส์อีกเพียบ มีอะไรบ้าง 1.โหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด คือ Sport, Touring และ Urban 2.Cornering ABS (เฉพาะล้อหน้า) ระบบที่ช่วยปรับแรงดันน้ำมันเบรกให้เหมาะสม โดยเซนเซอร์จะทำงานตรวจวัดการเอียงของรถในขณะเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกในโค้งให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น 3. Traction Control ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของตัวรถ เมื่อรถเกิดการลื่นไถล หรือสูญเสียการควบคุม 4.Wheelie Control ระบบควบคุมการยกของล้อหน้าและหลัง 5. Launch Control เทคโนโลยีจากสนามแข่ง Moto GP ถูกเพิ่มเติมขึ้นมาใน New Monster ครั้งแรก ช่วยควบคุมการออกตัวรถด้วยความเร็วสูงอย่างมีเสถียรภาพ 6. Quickshifter up &down ระบบเปลี่ยนเกียร์ทั้งขึ้นและลง โดยไม่ต้องบีบคลัตช์ 7. Smart Power Mode ระบบที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเซ็ตค่าการขับขี่ในระบบต่างๆ ด้วยตัวเอง

ถ้าคุณชอบแบรนด์ Ducati เป็นทุนเดิม หรืออยากลองความเป็น Ducati ชอบความทันสมัย เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ใส่มาในรถจักรยานยนต์ เน้นขี่ในเมืองหรือขี่เที่ยวบ้างแล้วแต่โอกาส และไม่ขี่ไกลเกิน 200 กิโลเมตร แต่ต้องมีความคล่องตัวสูง ขับขี่สนุก แรงแบบจัดจ้าน Ducati Monster 937 คงตอบโจทย์คุณสุดๆ ในเวลานี้ แต่…ไฟเลี้ยวน่าจะย้ายกลับมาตำแหน่งเดิม เพราะดูจากด้านหน้าแล้ว มันแปลกๆ

All New Ducati Monster มีให้เลือก 2 สี 2 ราคา รุ่น DUCATI MONSTER RED ราคา 449,000 บาท และ DUCATI MONSTER AVIATOR GREY ราคา 453,000 บาท

 

All New Ducati Monster 937                             

เครื่องยนต์                     4 วาล์ว 2 สูบ Testastretta 11°  937 ซีซี

เกียร์                               6 สปีด

พละกำลังสูงสุด             111 แรงม้า ที่ 8,750 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด                   93 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบต่อนาที

น้ำหนักรถ                      188 กิโลกรัม      

ความจุถังน้ำมัน             14 ลิตร

ล้อและยาง                     ขนาด 17 นิ้ว และ ยาง Pirelli Diablo Rosso III

                                         ขนาด 120/70 ZR17 (น.), 180/55 ZR17 (ล.)             




TEST RIDE

BMW R nineT ขี่สนุก ออปชันพอตัว
Suzuki Raider J Crossover รถแม่บ้านสายลุย
Yamaha Fazzio Hybrid Connected เหมาะขับในเมือง เร่งแซงสบาย ออกตัวไฟแดงไม่ห้อยท้ายแน่นอน
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Yamaha E01 ขี่ดี มีเกียร์ถอย แต่...ไม่ขาย!
Royal Enfield Himalayan ซีซีน้อย แต่ขี่อร่อยเว่อร์
BMW R1250 GS Adventure คือหนึ่งในใจสายเดินทาง ที่นักขี่หลายคนถวิลหา กับราคาเริ่มต้น 1,105,000 บาท
Ducati 1 คันแต่มันส์ได้ 4 แบบกับ Ducati Multistrada V4 ทัวร์ริ่งก็ซิ่งได้
Test Ride : DUCATI Panigale V4S : Fast Force & Hot!!!
BMW R18 CLASSIC หล่อ เท่ พร้อมค่าตัว 1.25 ล้านบาท
Harley-Davidson FLHT Electra Glide Standard | First Ride Review
Triumph Tiger 900 เสือหล่อ กล้ามใหญ่
Review KTM 790 ADVENTURE ตัวลุยที่ไม่ต้องเขย่ง!
BMW C 650 SPORT BIG SCOOTER ที่มีอะไรมากกว่า บิดอย่างเดียว!
Pan America รถ Adventure คันแรกของ Harley-Davidson!
ทริป HARLEY-DAVIDSON Pan America บุกตะลุยเส้นทางแอดเวนเจอร์
BMW R1250 GS รถ Adventure-Touring ระดับหัวแถวของโลก!
BMW R18 First Edition “เล่นได้ เพราะ Berlin Built " กับราคา 1,150,000 บาท
Triumph Trident 660 เล็ก สั้น มันส์ด้วย!!!
BMW C 400 X Size เล็ก แต่ราคา excite!
BMW F 900 XR : Option เพียบ! แต่ราคาเบา?
Bajaj Pulsar RS200 และ Bajaj Pulsar NS 200 ความเหมือนที่แตกต่าง จากดินแดนภารตะ
Test Ride : Triumph Rocket 3 GT 2,500 ซีซี ที่กล้าท้า Porsche 911 Turbo S ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 2.73 วินาที
TEST RIDE : BMW F 900 R หล่อ แรง ล้ำ!
BMW C 400 GT ทัวร์ริ่งก็ซิ่งได้!
รีวิวน้องใหม่ในเมืองไทย BAJAJ Dominar 400
BMW F850 GS ลุยได้ตามใจสั่ง
รถยักษ์ 2500 ซีซี ใหญ่ที่สุดในโลก! กับ All New Triumph Rocket 3
Harley Davidson Softail Heritage Classic
Triumph Street Scrambler 900 ขี่เท่ ขี่ลุย จบในคันเดียว!
หล่อ แรง สมรรถนะสุดเร้า Triumph Bonneville T120 Black
ลองขี่ Ducati Scrambler icon รถซุกซนของวัยมันส์
Triumph Bonneville Speedmaster
Harley Davidson Softail Low Rider custom by AAS Harley-Davidson of Bangkok
Royal Enfield Continental GT 650 หล่อ ใจดี ขี่สบาย!?!?
ลองของใหญ่ Drag Bike Style กับ Harley-Davidson FXDR V-Twin 1,868 ซีซี
Triumph Scrambler 1200 XE ตำนานความเก๋ามาตั้งแต่ในยุค 60's
Test-Ride : Harley-davidson roadster 1200
DUCATI SCRAMBLER SIXTY 2 บิ๊กไบค์สไตล์วัยรุ่น
ลองจับตั๊กแตนพันธุ์ดุ Triumph Street Triple RS
Triumph Tiger 800 XRT
Harley-Davidson Softail Fat Bob 2018 ฉีกลุคเดิมไปอย่างชัดเจน
คลาสสิกทั้งทีต้อง Triumph Bonneville T120 Black
Iron 1200 มอเตอร์ไซค์สไตล์ย้อนยุค พร้อมพละกำลังแรงสะใจ!
Test ride : Ducati Hypermotard 939
ลองขี่ Harley Davidson Softail Sport Glide
Royal Enfield Classic 500 การออกแบบย้อนยุค สไตล์ช่วงหลังสงคราม
ลองของใหญ่กับ Ducati Scrambler 1100 ตัวท็อปจากตระกูล Scrambler



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

V.A & Sons Co.,Ltd. / Advance Activity Co.,Ltd.
21 Soi Viphavadee 32, Viphavadee-Rangsit Road, Jatujak, Bangkok 10900 Thailand
Tel. 02-5114020-2 Fax. 02-5114023