BMW R18 CLASSIC หล่อ เท่ พร้อมค่าตัว 1.25 ล้านบาท
BMW R18 Classic ความคลาสสิกผสานกับความร่วมสมัยสไตล์ BERLIN BUILT ซึ่งผลิตในโรงงาน BMW ที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีทุกคัน ซึ่งมีความแตกต่างจาก BMW R 18 First Edition คือกระจกบังลมขนาดใหญ่ เบาะผู้โดยสาร กระเป๋าข้าง ไฟหน้า LED ท่อไอเสีย และล้อหน้าขนาด 16 นิ้ว
เครื่องยนต์ BMW R18 Classic แบบ Boxer Twin เอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์ BMW ที่พิเศษคือเป็นเครื่องยนต์ Boxer ที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดที่ BMW Motorrad เคยสร้างหรือผลิตมา มีปริมาตรความจุ 1,802 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ พร้อม Oil Cooler ช่วยระบายความร้อนน้ำมันเครื่อง ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที และสามารถใช้แรงบิดในรอบต่ำเพียง 2,000 - 4,000 รอบต่อนาที กล่าวคือมีแรงบิดให้ใช้มากกว่า 150 นิวตันเมตรได้ตั้งแต่รอบต่ำ และยาวต่อเนื่อง
ช่วงล่างของ BMW R18 Classic เป็นแบบเทเลสโคปิก แกนช็อกหน้าขนาด 49 มิลลิเมตร เบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ ด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยว คาลิปเปอร์เป็นแบบ 4 ลูกสูบทุกตัว มีคานรับน้ำหนักกลางที่ปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริง เพื่อเพิ่มการควบคุมที่ดีและยังนุ่มสบายทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ตามมาตรฐาน BMW คือระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ASC) ระบบป้องกันการลื่นไถลล้อหลังจากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ (MSR) ระบบช่วยออกตัวช่วยเบรกในทางลาดชัน (Hill Start Control) ระบบเกียร์ถอยหลัง (Reverse Gear) ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันรถกระชาก (Anti-Hopping Clutch) ระบบช่วยเบรกหลัง (Dynamic Brake Control หรือ DBC) ระบบกุญแจ Keyless Ride และระบบล็อกฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มปลอดภัย
เริ่มที่เรือนไมล์ทรงกลมบอกความเร็วแบบเข็มแอนะนาล็อก มีจอ LCD แสดงโหมดการขับขี่ ตำแหน่งเกียร์ รอบเครื่องยนต์ ระยะทาง ฯลฯ แบบดิจิทัลฝังอยู่ในเรือนไมล์ ไฟหน้า Adaptive LED ปรับมุมไฟที่ส่องออกไปได้เอง พร้อมกับ Daytime Riding Light และ Headlight Pro โคมไฟเป็นโลหะ ไฟเลี้ยว LED ในส่วนของไฟท้ายจะรวมเข้าด้วยกันทั้งไฟเลี้ยว
กุญแจ BMW R18 Classic เป็นแบบ Keyless Ride แต่ทาง BMW จัดมาให้มากกว่านั้นคือมีระบบกันขโมย เมื่อเรากดเปิดการทำงานระบบกันขโมยที่รีโมทหลังดับเครื่องยนต์แล้ว ระบบจะใช้เวลาเซ็ตตัวเอง 26 วินาที พอเราห่างจากรถไป หากมีใครมาขยับรถตัวสัญญาณที่รถก็จะดังทันที เราสามารถปิดระบบได้ที่ตัว Keyless Ride และยังสามารถตั้งค่าการทำงานระบบกันขโมยแบบ Auto ได้ คือเมื่อดับเครื่องแล้วไม่ต้องมากดที่ตัว Keyless Ride แต่ต้องเข้าไปเซ็ตระบบที่เรือนไมล์ให้เป็น On เมื่อดับเครื่องยนต์ พอเอาขาตั้งลงระบบจะทำงานอัตโนมัติภายใน 30 วินาที ในส่วนกุญแจ Keyless ของ BMW R18 Classic จะมีดอกกุญแจมาให้ไว้สำหรับล็อกคอรถ และใช้ล็อกฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ไม่มีตัวบอกปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเมื่อน้ำมันใกล้หมดจะมีไฟสัญลักษณ์ขึ้นเตือน ซึ่งถ้าไฟเตือนขึ้นก็ยังขี่ต่อได้อีกประมาณ 50 กิโลเมตรเพื่อหาปั๊มน้ำมัน
ระบบที่บอกไปตอนต้นคือ เกียร์ถอยหลังหรือ เกียร์ R นั่นเอง การใช้งานง่ายมาก โดยตำแหน่งเกียร์ต้องอยู่ที่เกียร์ว่างหรือ เกียร์ N ก่อนและตัวเปลี่ยนเกียร์ถอยหลังจะเป็นคันโยกเล็กๆ อยู่ฝั่งซ้ายของรถ บริเวณใต้ที่นั่งคนขี่ลงมาจะมีตัวอักษร R อยู่ด้านบนและอักษร F อยู่ด้านล่าง เมื่อรถอยู่ในเกียร์ว่างก็กดคันโยกลงตำแหน่งเกียร์บนเรือนไมล์จะขึ้น R (Reverse) บอกสถานะเกียร์ถอยหลัง จะถอยก็ต่อเมื่อเรากดปุ่มถอย ซึ่งเป็นปุ่มเดียวกับสวิตช์สตาร์ทเครื่องยนต์ที่แฮนด์ด้านขวา จังหวะแรกรถจะมีแรงกระตุกเพื่อดึงรถให้ถอยหลัง จะมีแรงกระตุกมากหน่อย ควรจับแฮนด์ให้ตรง ขายืดให้มั่นคง ค่อยๆ กดสวิตช์สตาร์ทระบบนี้ต้องใช้ความคุ้นเคยสักหน่อยแล้วคุณจะชอบ
BMW R18 Classic มี 3 โหมดขับขี่ คือ Rock Roll และ Rain สำหรับคนที่ยังไม่เคยสัมผัสกับเคื่องยนต์แบบ BOXER ลูกสูบใหญ่คือ การเคลื่อนตัวของลูกสูบขนาดใหญ่ไปซ้ายและขวาในรอบต่ำมากๆ จึงเกิดแรงเหวี่ยง ให้อารมณ์สะบัดเล็กๆ เป็นเอกลักษณ์ที่เท่ มีเสน่ห์
โหมด Rain เป็นโหมดที่เป็นมิตรกับคนขี่ทั้งใหม่และเก่า เป็นโหมดที่ระบบการช่วยเหลือการขับขี่มาเต็มทุกระบบทำให้ควบคุมรถที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักตัวเยอะและแรงบิดมาก การขี่บนถนนลื่นในขณะฝนตกเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทำให้ลดความเครียดเรื่องการลื่น ท้ายปัดไปได้เยอะ หรือ ทางฝุ่น ทราย หรือแม้กระทั่งในเมืองที่มีการจราจรวุ่นวาย คนตัดหน้า มอเตอร์ไซค์ตัดหน้า ทราย น้ำมันจากการทำอาหารข้างถนน และอื่นๆ อีกมากมาย ระบบ Rain เป็นผู้ช่วยที่ดีทีเดียว
โหมด Roll เป็นอีกโหมดที่ลดทอนระบบการช่วยเหลือลงมานิดหน่อยทำให้ขี่อร่อยขึ้น คันเร่งมาเร็วขึ้น ถ้าจะเดินทางไกลโหมดนี้ผมว่าสบายสุด เพราะให้ความราบรื่น นุ่มนวล แต่ยังคงให้กำลังอัตราเร่งที่ดุดัน ขี่สบาย ไม่ทำให้คนขี่ต้องสั่นสะเทือนตามกำลังหรือรอบเครื่องยนต์ที่ใช้ และถ้ามีคนซ้อนท้ายด้วยแล้วแล้วไม่มีกล่องหลังให้นั่งพิง โหมด Rain และ Roll จะดีสุด เพื่อไม่ทำให้คนซ้อนหงายหลังหรือนั่งเกร็งจนเกินไป
มาถึงโหมด Rock ดิบ มัน และได้เสียงท่อที่เร้าอารมณ์มากขึ้น มีเสียงท่อ BackFire เวลาผ่อนคันเร่ง การตอบสนองของคันเร่งและรอบเครื่องดิบ รุนแรง เร้าใจ โหมดนี้ถ้าเอาไว้ขี่ทางไกลนานๆ ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ เพราะใช้กำลังเครื่องมาก แรงบิดหนักหน่วง และบริโภคน้ำมันมาก กินแรงคนขี่มากเช่นกัน
กล่าวคือ BMW R18 Classic เป็นรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ เครื่องใหญ่ แรงบิดเยอะ การใช้งานเดินทางไกลแน่นอนทำได้อย่างสบายมาก พละกำลังเหลือมาก ยิ่งมีชิลด์หน้าไว้คอยตัดลมไม่ไห้โดนตัว โดยลมจะไปโดนบริเวณหมวกกันน็อกแทน ต้องเกร็งคอช่วยไม่อย่างนั้นหัวส่ายตลอด ถ้าไม่นั่งหลังตรงให้ลมโดนเต็มหัวหรือตัวหน่อยก็ต้องก้มต่ำเพื่อให้ลมไม่โดน ที่พูดนี่คือความเร็วเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าต่ำกว่านั้นก็ไม่เป็นปัญหา ส่วนกระเป๋าข้างที่ติดมากับตัวรถมีความแข็งแรงดี ไม่ต้านลม ใส่ของได้เยอะพอสมควร และถอดออกได้ถ้าจะใช้งานในเมือง ส่วนคนที่กังวลว่าการที่แฮนด์กว้าง และเครื่องยนต์ BOXER ที่ใหญ่อและกว้างออกมาทางด้านข้างนั้นจะเป็นปัญหาในการใช้งานหรือเปล่า พูดง่ายๆ ว่าถ้าตัวแฮนด์ผ่านได้ ตัวเครื่องรวมถึงกระเป๋าข้างก็ผ่านได้สบาย ยกเว้นฟุตปาธบ้านเราที่มีความสูง-ต่ำไม่เท่ากัน ต้องคาดเดาเอาเอง ส่วนเรื่องท่อไอเสียทรงนี้ดูแล้วมีความสวยงาม ให้เสียงที่ดุดันกว่าตัว BMW R18 First Edition ที่เป็นแบบปลายหางปลา แต่ก็คนเรามีรสนิยมไม่เหมือนกัน
การเลือกใช้โหมดขับขี่ที่ต้องการได้ตลอดเวลาที่สวิทตช์แฮนด์ ทำให้การขับขี่ทั้งทางไกล ทางใกล้หรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน แม้รถรุ่นนี้จะสร้างมาในทรงคลาสสิก แต่ก็แฝงความทันสมัยไว้ได้อย่างลงตัว ไฟหน้าทรงกลม ที่เป็นไฟหน้าแบบ LED Headlight Pro ทั้งไฟสูง, ไฟต่ำ และไฟหรี่ในโคมทรงกลม ที่ดีไซน์มาได้อย่างลงตัว และยังมีคุณสมบัติเป็นไฟแบบ Cornering light ส่องสว่างเข้าไปในโค้งได้ในขณะที่รถกำลังเลี้ยวโค้ง เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ในเวลากลางคืนได้ดีกว่าเดิม ส่วนไฟเลี้ยว ก็ยังให้ไฟแบบ LED มาด้วยเช่นกัน
ช่วงล่างของ BMW R 18 Classic จัดว่าดีตามมาตรฐาน BMW ช่วงล่างดีมาก ไม่ว่าทางตรง ทางโค้ง ขี่สนุกดี ไม่มีอาการดื้อโค้ง ถ้าในอนาคตใส่ช่วงล่างไฟฟ้าแบบ BMW GS 1250 ADV แล้วล่ะก็ ขี่สนุกกว่านี้เยอะ กล้าโค้ง เล่นโค้งมากขึ้นกว่านี้อีก แต่ติดตรงที่ช่วงล่างเตี้ยไปหน่อย แต่ก็ดีทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำเลี้ยวโค้งมาก ปลายท่อกับที่พักเท้าจะถูกับพื้นเอา แค่นี้ก็ถูพื้นเป็นว่าเล่น
เอาเป็นว่าการเสียเงิน 1,250,000 บาท กับการได้รถมอเตอร์ไซค์ที่สวยตั้งแต่ออกมา แต่...อย่าได้ไปตกแต่งให้เสียรถเลย แบบนี้สวยแบบอมตะอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ขี่จอดอยู่เฉยๆ ยังหล่อ เท่ขนาดนี้ ยิ่งถ้าได้ขี่ออกถนน มีแต่คนมอง มองจนคุณเขินทีเดียวเชียว เสียงเครื่องทุ้ม นุ่ม เครื่องสั่นเบาๆ เท่สุดๆ คุณผู้อ่าน ยังไงเสียถ้ามีโอกาส ลองไปคร่อมดู ไปดูให้เห็น ไปลองขี่ดู ผมว่าคุณต้องชอบไม่มากก็น้อย
BMW R18 CLASSIC
ราคา 1,250,000 บาท
เครื่องยนต์ เครื่องยนต์ Boxer 4 จังหวะ 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน
เกียร์ ชุดเกียร์ 6 สปีด แบบ claw-shift ในชุดเกียร์แยกต่างหาก
พละกำลังสูงสุด 91แรงม้า ที่ 4,750 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที
น้ำหนักรถ 195 กก.
ความจุถังน้ำมัน 16 ลิตร
ล้อและยาง 3.00” x 16”, 130/90 B16 (น.) และ 5.0" x 16", 180/65 B16 (ล.)