dot




บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่

     บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย

เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่

แรงถึงใจพร้อมพุ่งสู้เส้นทางใหม่ที่ท้าทาย

 

 

     บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เผยโฉมมอเตอร์ไซค์ครูสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พร้อมออกโลดแล่นบนท้องถนน กับการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และบีเอ็มดับเบิลยู R 18 B “Bagger” ที่ผสมผสานความหรูหรา ความมีสไตล์ และสมรรถนะเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยมอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับพลังเต็มเปี่ยมจากเครื่องยนต์ "บิ๊กบ็อกเซอร์" ที่ใจกลางแชสซีสุดคลาสสิก ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

     มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ได้รับการออกแบบและวางโครงสร้างทางวิศวกรรมเพื่อรองรับการขับขี่ทางไกล เพียบพร้อมด้วยความสบาย ปราดเปรียว และลุคที่โดดเด่นที่จะยกระดับทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพียงลำพัง หรือพร้อมผู้โดยสารซ้อนท้ายและกระเป๋าสัมภาระก็ตาม ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู R 18 B ได้รับการออกแบบให้เป็นมอเตอร์ไซค์สำหรับผู้รักการขับขี่ มอบประสบการณ์ความพึงพอใจที่เหนือกว่าสำหรับแฟนมอเตอร์ไซค์พันธุ์แท้ เติมเต็มที่สุดแห่งการขับขี่บนท้องถนน 

 

บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental “First Edition” ใหม่ราคาจำหน่าย 1,640,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู R 18 B “First Edition” ใหม่ราคาจำหน่าย 1,500,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

 


     มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ใหม่ โดดเด่นด้วยความเป็นมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งหรูหรา ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู R 18 B ใหม่ มาพร้อมความเป็นมอเตอร์ไซค์สไตล์แบกเกอร์เต็มตัวด้วยรูปลักษณ์ที่ดูทั้งเรียบง่ายและปราดเปรียว พร้อมด้วยกระเป๋าสัมภาระข้างรถที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับฝาครอบไฟหน้ารถ และสำหรับรุ่น R 18 Transcontinental จะมีกล่องสัมภาระท้ายรถ (top case) อีกด้วย  ส่วนประกอบเพื่อการใช้งานและดีไซน์ต่างๆ อาทิเช่น โครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำขนาด 24 ลิตร เพลาแบบเปิดเปลือย พร้อมลูกเล่นการทำสีแบบลายเส้นคู่ ล้วนสะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมอเตอร์ไซค์แบบทัวริ่งและครูสเซอร์ยอดนิยม และด้วยระบบสวิงอาร์มคู่ขนาบข้างและคานรับน้ำหนักแบบยื่น โครงสร้างตัวรถอันแข็งแกร่งจากมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานอย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 5 จึงถูกถ่ายทอดสู่ยุคปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม

 

 

     หัวใจหลักของมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ คือเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบที่เรียกว่า "บิ๊กบ็อกเซอร์ ซึ่งนับเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 สูบวางเรียงที่มีสมรรถนะสูงสุดในรถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตออกจำหน่ายในตลาดทั่วไป ด้วยความจุ 1,802 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ (91 แรงม้า) ที่ 4,750 รอบต่อนาที ส่งแรงบิดมากกว่า 150 นิวตันเมตรตลอดในช่วง 2,000 ถึง 4,000 รอบต่อนาที พร้อมพลังขับเคลื่อนและเสียงเครื่องยนต์กระหึ่มเร้าใจ

     ด้านแชสซีของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ เป็นโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น พร้อมแกนหลักชิ้นส่วนขึ้นรูปจากแผ่นเหล็ก ทั้งยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูงและความประณีตในรายละเอียดต่างๆ เช่น การเชื่อมข้อต่อระหว่างโครงสร้างเหล็กและการขึ้นรูปชิ้นส่วนเหล็กหล่อต่างๆ  นอกจากนี้ สวิงอาร์มหลังยังยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม

     ระบบช่วงล่างของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ ใช้ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิก และระบบสวิงอาร์มที่ติดตั้งโดยตรงบนคานรับน้ำหนักแบบยื่นที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อให้ควบคุมล้อที่หล่อด้วยวัสดุอัลลอยน้ำหนักเบาชั้นเลิศได้อย่างแม่นยำ พร้อมมอบการขับขี่ที่นุ่มสบาย คานรับน้ำหนักด้านหลังสามารถปรับตั้งค่าความหนืดได้และมีระบบชดเชยโหลดอัตโนมัติเพื่อตอบสนองการขับขี่ที่เหนือระดับ  และเช่นเดียวกับรถรุ่นตำนานอย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 5 แกนโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกของ R 18 ทั้งสองรุ่นก็มาพร้อมกับปลอกหุ้มโช้ค นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับระบบดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า และดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ และระบบเบรกเอบีเอสของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

     บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานอย่างครบครัน เช่น ระบบควบคุมการขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์ DCC (Dynamic Cruise Control) และระบบควบคุมการขับขี่แบบ Active Cruise Control (ACC) ทั้งนี้ ระบบ DCC จะเป็นการควบคุมระดับความเร็วในการขับขี่อัตโนมัติที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าได้ด้วยตัวเอง ส่วนระบบ ACC จะช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายด้วยระบบควบคุมระยะห่างจากคันหน้า โดยระบบตรวจจับด้วยเรดาร์ที่ติดตั้งบนฝาครอบไฟหน้ารถจะช่วยกำหนดให้มอเตอร์ไซค์เร่งความเร็วเพื่อปรับระดับความเร็วได้โดยอัตโนมัติ หรือเปิดใช้งานระบบเบรกมาตรฐานใหม่เพื่อลดความเร็ว  นอกจากนี้ ระบบ ACC ยังช่วยเสริมความปลอดภัยในการเข้าโค้ง และในยามจำเป็น ระบบควบคุมการเข้าโค้งจะชะลอความเร็ว เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับมุมเอียงของถนนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่และเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ

     มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ติดตั้งเบาะที่นั่งที่นุ่มสบายพร้อมระบบอุ่นเบาะที่นั่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อความสบายในการขับขี่ทางไกลแม้มีคนนั่งซ้อนท้าย  ส่วนเบาะที่นั่งในรุ่น R 18 B เป็นเบาะที่นั่งสำหรับสองคนที่มีขนาดเล็กลง บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ใหม่ มาพร้อมบันไดข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น R 18 B ใหม่ มากับที่พักเท้าที่กว้างขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่า R 18 รุ่นก่อนหน้า

     ส่วนขับขี่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับมาตรวัดแบบอนาล็อก หน้าปัดทรงกลม 4 ช่อง และจอสีแสดงผลแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว พิมพ์ตัวอักษร "BERLIN BUILT" เสริมความคลาสสิกให้บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ จอสีแสดงผลแบบ TFT ยังสามารถอ่านได้ง่าย และสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน BMW Connected App เสริมความสะดวกในการใช้งานและแสดงข้อมูลการขับขี่อย่างเต็มที่

 

 

     เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละราย มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่มาตรฐาน 3 โหมด ได้แก่ "Rain", "Roll" และ "Rock"  อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการขับขี่ ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) และระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ส่วนระบบเกียร์ถอยหลังจะช่วยให้การกลับรถเป็นเรื่องง่าย ทั้งยังมีระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ที่จะช่วยให้การออกตัวขึ้นเขาเป็นไปได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับระบบป้องกันการโจรกรรมและระบบเซ็นทรัลล็อคมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

     บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ มาพร้อมกับประสบการณ์เครื่องเสียงคุณภาพ โดยพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตเครื่องเสียงสัญชาติอังกฤษอย่าง Marshall และลำโพงแบบ two-way (แยกซับวูฟเฟอร์) ที่ติดตั้งบนหน้าปัดของฝาครอบไฟหน้ารถ พร้อมด้วยหน้ากากลำโพงสีดำที่แต่งด้วยตัวอักษร Marshall สีขาว เสริมลุคคลาสสิกให้กับมอเตอร์ไซค์  โดยบีเอ็มดับเบิลยู R 18 B มาพร้อมกับระบบเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 1 ซึ่งประกอบด้วยลำโพง 2 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ติดตั้งระบบเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 2 มาพร้อมลำโพง 4 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว ด้วยกำลัง 280 วัตต์

     ในการเปิดตัวครั้งนี้ มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่จะวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในรุ่น “First Edition” ที่ผสมผสานลุคมาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 เข้ากับเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการเลือกใช้สีดำคลาสสิกตัดกับลายเส้นคู่สีขาว โดดเด่นด้วยพื้นผิวที่ออกแบบเป็นพิเศษ (สีโครเมียม) เบาะที่นั่งปักลวดลายด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมอักษร "First Edition” นอกจากนี้ ลูกค้าที่ซื้อมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental “First Edition” หรือ บีเอ็มดับเบิลยู R 18 B “First Edition” ยังจะได้รับ Welcome Box สุดพิเศษ ที่มาพร้อมกับไอเท็มสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อต้อนรับการมาถึงของมอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นสู่ประเทศไทยอีกด้วย




NEWS

“IONIQ 6” รถไฟฟ้าเจ้าของรางวัล 2023 World Car of The Year พร้อมให้คุณสัมผัสและทดลองขับแล้ว
เปอโยต์ ประเทศไทย เปิดตัว New Peugeot 408 สปอร์ต ฟาสแบ็ค ครอสโอเวอร์ ขุมพลัง 218 แรงม้า เริ่มต้นเพียง 1.499 ล้านบาท
เบนท์ลีย์ แบงค็อก เปิดตัว BENTAYGA S HYBRID สปอร์ตเอสยูวีหรูพันธุ์ดุอย่างเป็นทางการ ณ งานมอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 45
Toyota Gazoo Racing Thailand 2024 พร้อมระเบิดความมันส์ทั้ง 5 สนาม นำสู่แนวคิด “ถนนสร้างคนและคนสร้างรถ” กับการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า article
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ปลูกป่าชายเลน ณ จังหวัดจันทบุรี สานต่อโครงการ “Root for Sustainability: รากกล้าแห่งความยั่งยืน” ปีที่ 3 article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

V.A & Sons Co.,Ltd. / Advance Activity Co.,Ltd.
21 Soi Viphavadee 32, Viphavadee-Rangsit Road, Jatujak, Bangkok 10900 Thailand
Tel. 02-5114020-2 Fax. 02-5114023