เอ็มจี เดินหน้าหนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทย
จับมือ สวทช. กำหนดมาตรฐานสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า
พร้อมเตรียมเปิดให้บริการสถานีชาร์จ MG SUPER CHARGE
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เร่งผลักดันการใช้รถยนต์พลังานไฟฟ้าในประเทศให้เติบโต อย่างแข็งแกร่ง แถลงความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาระบบการรับรองและมาตรฐาน EV Charging Station และเดินหน้าทยอยเปิดให้บริการสถานีชาร์จ MG SUPER CHARGE หลังบรรลุแผนติดตั้งสถานีชาร์จที่โชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศแล้วเสร็จจำนวนทั้งสิ้น 108 แห่ง พร้อมเดินแผนขยายเพิ่มอย่างต่อเนื่องอีก 500 แห่งภายในปีนี้
มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนงานการขยายสถานีชาร์จของเอ็มจีที่ประกาศไว้ เมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้บรรลุแผนระยะที่ 1 มีการติดตั้งสถานีชาร์จ จำนวน 108 สถานีที่โชว์รูมและศูนย์บริการเอ็มจีเรียบร้อยแล้ว โดยมีความพร้อมเปิดให้บริการแล้ว 67 สถานี ซึ่งราคาค่าบริการในช่วง Off Peak* จะอยู่ที่ 6.5 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง และในช่วงเวลา Peak* จะอยู่ที่ 7.5 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง พร้อมเดินหน้าสู่แผนระยะที่ 2 ในการติดตั้งสถานีชาร์จอีก 500 จุดทั่วประเทศด้วยงบลงทุนมูลค่า 500 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับสถานีชาร์จ และเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าด้วยจำนวนสถานีชาร์จที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”
หมายเหตุ
· Peak : วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ ระหว่างเวลา 08:00 - 22:00
· Off Peak : วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ ระหว่างเวลา 22:00 - 08:00 และ วันเสาร์ – อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง
MG SUPER CHARGE ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดที่ใช้งานง่าย ลูกค้าสามารถใช้เครื่องชาร์จได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถตรวจสอบเวลาการทำงานและความพร้อมใช้งานของ MG SUPER CHARGE ค้นหา จอง และเติมเงินก่อนเริ่มชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้จากโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชั่น i-SMART ซึ่งลูกค้าสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชั่นใหม่ของ i-SMART ได้แล้วตั้งแต่วันนี้
สำหรับ เอ็มจี ถือเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยด้วยความสำเร็จด้านยอดขายหลังจากการเปิดตัว MG ZS EV ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีก 2 รุ่น ได้แก่ MG HS PHEV และ MG EP เมื่อปีที่แล้ว โดยทั้งสองโมเดลได้รับการตอบรับที่ดีเกินความคาดหมายเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เอ็มจีพร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์และพัฒนายนตรกรรมที่มีคุณภาพที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านเทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และความคุ้มค่า (Value) เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ตลอดจนบริการที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าของเอ็มจี ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไกลยิ่งขึ้นต่อไป