Test Ride : Triumph Rocket 3 GT
2,500 ซีซี ที่กล้าท้า Porsche 911 Turbo S ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 2.73 วินาที
Triumph Rocket 3 GT รุ่นใหม่ มีทั้งสมรรถนะและภาพลักษณ์ที่คุณต้องตะลึง พร้อมความสะดวกสบายขั้นสูงสุด ด้วยท่าทางการขับขี่แบบเอนหลังสบายๆ สไตล์ Cruiser และใช้งานแบบ Touring หรือ Daily use ได้อย่างสบาย! ซึ่งตัว GT จะมีอุปกรณ์เพิ่มจากรุ่น R คือ Windshield ชิลด์บังลมใส ทรงสูงกว่าตัว R ที่กันตกบริเวณเบาะหลังซึ่งสามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้ แฮนด์จะออกแนว Cruiser ทำให้ท่านั่งสบาย หลังเกือบตรง ไม่โน้มตัวไปข้างหน้าเหมือนรุ่น R ที่พักเท้าคนขี่จะเยื้องไปข้างหน้ามากกว่ารุ่น R
ด้วยความจุเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในสายพานการผลิตรถจักรยานยนต์ พร้อมแรงบิดระดับหงายหลัง แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร โดยจะเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ 4,000 รอบต่อนาที จากนั้นก็จะคงแรงบิดสูงสุดไว้ตลอดช่วงรอบกลาง เพื่ออัตราเร่งและการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจในทุกๆ เกียร์
กำลังสูงสุดคือ 167 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ซึ่งเพิ่มจากรุ่นก่อนหน้า 11 เปอร์เซ็นต์ Rocket 3 รุ่นใหม่จึงให้การขับขี่ที่เร้าใจ โดยมีกำลังเพิ่มขึ้นตั้งแต่รอบต่ำที่ 3,500 รอบต่อนาทีไปจนถึงอัตรารอบสูงสุดใหม่ 7,000 รอบต่อนาที
เกียร์ 6 สปีด ถ่ายกำลังลงล้อหลังด้วยเพลาขับ Triumph Rocket 3 GT สามารถเร่ง 0 -100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 2.73 วินาที เท่ากับ Porsche 911 Turbo S (992) ที่เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาที่เท่ากันพอดี
รูปลักษณ์แบบซูเปอร์ไบค์ไซส์ยักษ์ของ Triumph ได้รับการออกแบบรายละเอียดที่โดดเด่นสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า LED คู่อันเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงตราสัญลักษณ์ไทรอัมพ์รูปสามเหลี่ยม และท่อไอเสียรวม 3 หัวแกะสลัก ที่พักเท้าแบบพับเก็บได้ ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปแบบ 20 ก้าน มาพร้อมกับความกว้างของยางหลังที่มีขนาด 240 มิลลิเมตร
เฟรมอะลูมิเนียมใหม่มีช่องดักอากาศหรือช่อง Ram Air อยู่หลังแผงคอ โช้กอัพหน้า Showa แบบ Upside Down ขนาด 47 มิลลิเมตร ปรับตั้งค่า Compression และ Rebound ได้ โช้กอัพหลังเดี่ยว Showa แบบ Piggyback Reservoir มีซับแทงค์ปรับได้เต็มระบบ มีรีโมทไฮดรอลิกแยกปรับพรีโหลดได้ง่ายที่ใต้บังโคลนท้ายในซุ้มล้อใต้เบาะนั่ง ทำงานร่วมกับเฟรมและสวิงอาร์มแขนเดี่ยวที่หุ้มเพลาขับไว้ที่ด้านซ้าย โชว์ล้อแม็กเต็มๆ วงที่ด้านขวา
เบรกหน้ามาเต็มกับ Brembo Stylema แบบ Twin Disc Break ขนาด 320 มิลลิเมตร Monobloc ขนาด 4 ลูกสูบ ยึดแบบ Redial Mount ดิสก์เบรกหลังเดี่ยวขนาด 300 มิลลิเมตร ของ Brembo ขนาด 4 ลูกสูบ เป็นปั้ม Momobloc เช่นเดียวกัน มีระบบ ABS ที่ทำงานในขณะใช้เบรกแรงเพื่อหลบหรือเปลี่ยนทิศทางในขณะเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย , ระบบ Traction Control ที่อ่านค่าและทำงานในขณะเข้าโค้ง ช่วยให้ล้อหลังไม่ปั่นฟรีจากแรงบิดจนเสียการควบคุมในขณะเข้าโค้ง มีระบบ Cornering ABS ที่ช่วยปรับแรงดันน้ำมันเบรกให้เหมาะสม เมื่อผู้ขับขี่ได้ทำการเบรกในขณะเข้าโค้ง โดยจะมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดองศาการเอียงของตัวรถในขณะเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับทุกสถานการณ์ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ระบบ Hill Hold Control ระบบช่วยหยุดและออกตัวบนเนินชันได้อย่างปลอดภัยโดยที่รถจะไม่ไหล ระบบจะอ่านค่าจากมุมเอียงตอนจอดบนเนินและบีบเบรกหน้า ระบบจะสั่งงานให้คาลิปเปอร์หลังทำงาน ไม่ให้รถไหลไปหน้าหรือหลัง แม้เราปล่อยมือจากเบรกหน้าก็ตาม ระบบ Cruise Control ช่วยล็อกความเร็วในขณะเดินทางไกล โดยที่ผู้ขี่ปล่อยมือจากคันเร่งเพื่อผ่อนคลายได้
ล้อเป็นล้อแม็ก Aluminium Cast 20 ก้าน ล้อหน้าขนาด 17 x 3.5 นิ้ว ยางขนาด 150/80 R17 ล้อหลังขนาด 16 x 7.5 นิ้ว ยางขนาด 240/50 R16 ใช้ยางของ AVON Cobra ที่มาจากโรงงาน
โหมดการขับขี่ มีให้เลือกถึง 4 โหมดคือ Road, Rain, Sport และ Rider ใน 3 โหมดแรกจะทำงานกับระบบช่วยขับขี่หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มาจากโรงงาน ส่วนโหมด Rider จะให้ผู้ขี่ปรับตั้งค่าต่างๆ เองได้อย่างอิสระ ให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่ของแต่ละบุคคล มีระบบ Quick Shifter คือเข้าเกียร์ 2 - 6 โดยไม่ต้องกำคลัตช์
หน้าจอ TFT บอกฟังก์ชันครบและเลือกธีมของหน้าจอได้อีกด้วย, ไฟ LED รอบคัน มี Day Time Running Light , ระบบกุญแจ Keyless รถแรงและไฮเทคมีแอปพลิเคชั่น My Triumph ใช้ได้ที่ iOS และ Android มีรายละเอียดหลายอย่างในแอปฯ ให้เล่นและใช้งานเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้รถ ฟังเพลงในสมาร์ทโฟนได้ รับ-วางสายได้ มีระบบ Turn-by-turn และ Navigation ระบบช่วยนำทางโดยต้องเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นก่อน บอกจุดเลี้ยวจุดต่อจุดบนหน้าจอ TFT ให้เราได้เห็นเลย, มีช่อง USB ชาร์จอุปกรณ์ภายนอก
มีระบบ GoPro Control System เชื่อมต่อกล้อง GoPro และแสดงผลทางหน้าจอ TFT และยังสามารถควบคุมกล้อง GoPro ได้
เบาะนั่งสูง 773 มิลลิเมตรจากพื้น คล่อมขี่แล้วสามารถเท้าวางเต็มพื้นทั้ง 2 ข้างสบายๆ ไม่ต้องเขย่งหรือสไลด์ก้น มั่นใจเวลาจอดรถ ที่พักเท้าวางเยื้องไปข้างหน้า แบบ Forward Control ขนาด Handlebars ใหญ่และกว้างกำลังดี โดยรวมแล้ว ท่านั่งเท่ ขี่สบาย ควบคุมมั่นใจ
เปิดสวิตซ์ กดปุ่มสตาร์ทเสียงเครื่องทุ่ม นุ่ม ระรื่นหู พอเริ่มเร่งคันเร่งเสียงดุดัน เร้าใจใช่เล่น แต่คนที่ไม่คุ้นกับเครื่อง 3 สูบเรียงแบบนี้อาจจะงงและรู้สึกแปลกเล็กน้อยกับอาการของตัวรถที่มีแรงเหวี่ยงซ้าย ขวา อยู่บ้างพอสัมผัสได้ จะเป็นเฉพาะเวลาเบิ้ลคันเร่งเท่านั้น ซึ่งก็ถือเป็นเอกลักษณ์ของรถคันนี้
ตบเกียร์ 1 ออกตัวสบายเพราะแรงบิดเยอะ พาน้ำหนักตัวที่ 291 กิโลกรัมไปได้อย่างสบาย Handling รถดีมาก อาจมาจากรถที่มีศูนย์ถ่วงต่ำ คล่องตัวดี ซอกแซกตามการจราจรได้ค่อนข้างดี ถ้าคุณขี่บิ๊กไบค์อยู่แล้วจะรู้ว่าขี่รถใหญ่ต้องมองหาทางไป ทางออก เพราะเวลาติดรถเล็กข้างหลังที่ตามคุณจะไม่พอใจเอา และหลายคนอาจจะคิดว่าขนาดของยางหลังที่ใหญ่ถึง 240 จะเลี้ยวยาก บอกเลยครับ เลี้ยวง่ายมาก ทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูง อาจจะต้องมีการเอียงตัวช่วยนิดหน่อย แต่ระวังที่พักเท้าโดนพื้นเท่านั้นเอง ถ้าเผลอเอียงตัวรถมากเกินไป ความร้อนที่หลายคนกังวลบอกเลย ร้อนไม่มาก แต่...ถ้าพัดลมระบายความร้อนทำงานมันจะเป่าลมร้อนผ่านช่อง Ram Air ผ่านช่องขาด้านใน ลมจะตีขึ้นตัว เข้าหมวกกันน็อคเลย
ในทางกลับกันกับที่เราเล่นรอบต่ำไหลลื่นไปตามการจราจร แต่...หากทางโล่งเผลอกระแทกคันเร่งแรงๆ เจ้า Triumph Rocket 3 GT จะพุ่งทะยานยังกับโกรธถนน แรงบิดออกมาเต็ม แรงดึงมหาศาล อารมณ์คล้ายเครื่องบินออกตัว มือต้องจับ Handlebars แน่นๆ ไม่อย่างนั้นโดนดีดตกรถแน่นอน ไฟ Traction Control กระพริบยาว มาจากอาการล้อหลังฟรีทิ้ง จนต้องผ่อนคันเร่ง หลายครั้งผมถึงเตือนของระบบ Safety ที่ติดรถมาว่าอย่าปิด เปิดไว้อุ่นใจกว่าเยอะ ยกเว้นเอาไปลงสนามแข่ง
สรุป Triumph Rocket 3 GT เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์และทักษะในการควบคุมและขับขี่บิ๊กไบค์ มาพอสมควร มือใหม่หัดขี่ หรือเพิ่งเริ่มเล่นบิ๊กไบค์อาจจะอันตรายสักหน่อยกับแรงม้าและแรงบิดเยอะแบบนี้ การใช้งานเดินทางท่องเที่ยวสบาย ชิลด์กันลมตัดลมได้ดีระดับหนึ่งในความเร็ว 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกินกว่านั้นเหนื่อย ใช้งานในเมืองคล่องตัว ซอกแซกได้ดีเมื่อเทียบกับรถขนาดเท่ากัน จะมีแค่เรื่องความร้อนในเวลาจอดติดไฟแดง ซึ่งร้อนได้ใจเวลาพัดลมหม้อน้ำทำงาน และสำหรับคนที่กำลังมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่พร้อมจะพาท่านทะยานกับแรงบิดอันมหาศาลของตัวรถ เสมือนขี่จรวดทุกขณะ
All New Triumph Rocket 3 GT
ราคา 985,000 บาท
เครื่องยนต์ 2,458 ซีซี 3 สูบเรียง DOHC
เกียร์ 6 สปีด
พละกำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
น้ำหนักรถ 291 กก.
ความจุถังน้ำมัน 18 ลิตร
ล้อและยาง 150/80 R17 (น.), 240/50 R16 (ล.)