Newton Motor Group ทุ่มงบลงทุนธุรกิจแบรนด์ใหม่ กับโชว์รูม
เราจะพาไปร่วมพูดคุยถึงมุมมอง วิสัยทัศน์และหลักการบริหารงานกับ 2 ผู้บริหารโชว์รูม Mitsu Newton
คุณปรเมศวร์ และคุณพีรพร ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ และกรรมการบริหาร Newton Motor Group ที่ตัดสินใจทุ่มงบลงทุนสู่ธุรกิจแบรนด์ใหม่ กับการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ มิตซูบิชิ อย่างเป็นทางการ ด้วยแนวคิดใหม่ ส่งมอบความสุขให้ลูกค้า โดยเริ่มจากตัวพนักงานเอง
จริงๆ พวกเราทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์มา 51 ปีแล้วครับ เริ่มตั้งแต่รุ่น
คุณพ่อที่ทำยูสคาร์ในช่วงแรก ก่อนจะร่วมงานกับทางยนตรกิจในเวลาต่อมา ร่วมงานกันเรื่อยๆ จนได้เป็นดีลเลอร์รถยนต์เจ้าหนึ่งในที่สุด และเมื่อคุณพ่อเสียชีวิตก็ได้คุณน้ามาดูแลธุรกิจให้ จนกระทั่งปี 2000 ที่ตัวผมเรียนจบจากเมืองนอกกลับมาก็เลยมารับช่วงต่อพอดี แล้วก็ได้คุณพีรพร มาช่วยงานภายหลังด้วย ซึ่งต้องบอกก่อนว่าจริงๆ แล้วโชว์รูมแห่งนี้เพิ่งจะได้เปลี่ยนเป็นแบรนด์มิตซูบิชิก็เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เองนะครับ ก่อนหน้านี้จะเป็นอีกแบรนด์หนึ่ง
โดย Mitsu Newton แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ถนนบรมราชชนนี ย่านตลิ่งชั่น เป็นโชว์รูม 4S ที่มีทั้งแผนก Sales, Service, Parts และ Body&Paint ครับ มีพื้นที่ทั้งหมด 7 ไร่ ลงทุนไปประมาณ 12 ล้านนะครับ โชว์รถในโชว์รูมได้ 7 คัน และมีพื้นที่ติดถนน ไว้จอดรถได้อีก 3-4 คัน ในตอนนี้มีช่องซ่อมทั้งหมด 15 ช่อง และในส่วนของ Body&Paint ก็รองรับลูกค้าได้ประมาณ 150-200 คนต่อเดือนครับ
- สาเหตุที่ตัดสินใจเปลี่ยนเป็นแบรนด์มิตซูบิชิ
มิตซูบิชิ เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้า และเรื่องคุณภาพของงาน ก็เลยคิดว่าน่าสนใจ เพราะตรงกับความตั้งใจในการทำธุรกิจของเราที่อยากจะส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า อยากส่งมอบความสุขให้กับพนักงาน โดยรวมแล้ว ผมมองว่ามิตซูบิชิให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าการจะเปลี่ยนแบรนด์หนึ่งไปสู่อีกแบรนด์หนึ่งเป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้นะครับ ถ้าเราวางแผนไว้ดีเราก็ทำได้ครับ
- วางกลยุทธิ์ในการดำเนินธุรกิจโชว์รูมมิตซูบิชิไว้อย่างไรบ้าง
อย่างที่คุณปรเมศวร์บอกไปว่า เราอยากจะส่งมอบความสุขให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรา ทั้งลูกค้า พนักงาน พาร์ทเนอร์อย่างมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สรุปคือให้แฮปปี้ทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นสำหรับลูกค้า ยังไงการบริการก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ เน้นซื่อตรง จริงใจ การทำให้ลูกค้าพึงพอใจอย่างที่สุดก็ถือเป็นเรื่องท้าทายนะคะ เพราะขอบเขตของความพึงพอใจในแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจว่าเราจะทำ คือ ทำตามมาตรฐานในส่วนของทางมิตซูบิชิ และในส่วนของมาตรฐาน Newton Motor Group เองให้ดีที่สุดค่ะ
คิดว่ามาจากคุณภาพในการทำงานนะคะ เราทำงานอย่างใส่ใจ เมื่อใส่ใจไป 100% ผลงานก็จะออกมา 100% และทางเราก็มีแนวคิดในการให้ความสุขกับคนในบ้านก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหยุดพักที่พนักงานทุกคนต้องได้วันหยุด 2 วันต่อสัปดาห์ ไม่มีการลดเงินเดือนหรือให้พนักงานออกแม้ในช่วง Covid-19 ฉะนั้น เมื่อคนของเรามีความสุข เขาก็จะส่งมอบความสุขเหล่านั้นให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วยความจริงใจ ไม่ได้ทำเพราะเป็นแค่หน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เป็นการ
ส่งต่อความรู้สึกจากเราสู่ลูกค้า ฉะนั้นถ้าถามว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้ต้องมาโชว์รูมของเรา นั่นคือ มาแล้วสบายใจ มีความสุข ลูกค้าไม่รู้สึกกดดัน แล้วพนักงานเองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขายหรือทางเซอร์วิส ก็บริการลูกค้าด้วยความจริงใจ ดูแลลูกค้าทุกคันตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางอย่างแท้จริงค่ะ
- ในสถานการณ์ Covid-19 ที่ผ่านมา มีการปรับตัวอย่างไรบ้าง
จริงๆ มันถือเป็นจุดพลิกของเราเลยก็ว่าได้ครับ เพราะเป็นช่วงที่เราเปลี่ยนแบรนด์พอดี ช่วงนั้นทุกอย่างหายไปหมด ยอดขายและส่วนเซอร์วิสน้อยมาก แต่เรามองเป็นข้อดี ก็คือใช้เวลานั้นทำการรีโนเวทไปเลย แต่งโชว์รูมใหม่ ให้เป็นมากกว่าโชว์รูมและศูนย์บริการที่เน้นความสบาย ทั้งในส่วนของโซนทางโชว์รูมเอง และก็โซนดูแลลูกค้าด้านหลังเองด้วยเหมือนกัน และก็มีในส่วนของคาเฟ่ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาใช้บริการกับทางเราได้ สบายเหมือนบ้านตัวเอง
สำหรับในส่วนของพนักงาน เราก็มีการฝึกฝนเพิ่มเติม เรียนรู้ไปด้วยกันค่ะ สิ่งสุดท้ายที่ไม่เคยอยู่ในหัวเราเลย นั่นคือ การให้พนักงานออก เราไม่ลดต้นทุนแบบนั้น แต่เน้นศักยภาพที่ทุกคนต้องดีขึ้น พนักงานต้องเติบโต หารายรับเข้าบริษัทเพื่อให้โตไปด้วยกันค่ะ
- โชว์รูมมีการเตรียมชาร์จสเตชั่นไว้ด้วย เป็นทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ส กำหนดไว้หรือเปล่า
ทางเรามีอยู่แล้วครับ เพราะว่าแบรนด์ก่อนหน้านี้ที่เราทำมีรถไฟฟ้าขายด้วย เลยจำเป็นต้องมีชาร์จสเตชั่นเตรียมไว้ให้บริการ ซึ่งเราอาจจะเป็นโชว์รูมแรกของมิตซูบิชิที่มีชาร์จสเตชั่นเลยก็ว่าได้ ก็คิดว่าในอนาคตก็เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วสำหรับ Outlander ที่กำลังจะมา
- วางแพลนสำหรับปีหน้าไว้อย่างไรบ้าง
คงทำในส่วนของโชว์รูม Mitsu Newton ให้เข้าที่ก่อนครับ เพราะว่าในตอนนี้ก็เพิ่งจะรีโนเวทเสร็จ เราก็พยายามให้การทำงานมันรันได้ตามปกติ อย่างทีมขายก็ยังต้องปรับปรุงอีกเรื่อยๆ ค่อยๆ ปรับกลยุทธ์การขายไป สำหรับในส่วนของเซอร์วิสนั้น ทีมงานพร้อม แต่ปัจจุบันรถยังเข้าน้อยอยู่ ก็ต้องหาวิธีเพิ่ม อาจจะเน้นไปที่ยูสคาร์ ที่ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันน่าจะทำอะไรเพิ่มได้ เพราะตอนเราบริหารแบรนด์ก่อนหน้าก็เคยทำมาแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะเลิกหมดแล้วก็ตาม ซึ่งถ้าจะทำจริงๆ ก็ต้องไปคุยกับทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ก่อนนะครับ พูดง่ายๆ ว่า อยากจะทำให้สถานที่แห่งนี้ให้บริการได้แบบครบวงจรทั้งหมด
- มีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างไรกับการเปลี่ยนแบรนด์ธุรกิจในครั้งนี้
อย่างที่บอกไปก่อนหน้าเลยค่ะ เราต้องการให้คนของเรามีความสุข จากนั้น ก็ส่งต่อความสุขต่อไปเรื่อยๆ ฉะนั้นความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจของเราในตอนนี้ อยู่ที่การใส่เรื่องราวดีๆ ให้คนของเรา เมื่อเรามีโอกาสดูแลคน 150 คน เราใส่เรื่องราวดีๆ ให้กับคนทั้ง 150 คนแล้วพวกเขาก็จะส่ง 150 ความรู้สึกดีๆ เหล่านี้ออกไปต่อเอง ทั้งที่บ้าน ทั้งลูกค้า ทั้งเพื่อนร่วมงาน สิ่งเหล่านี้มันทำให้เกิดเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน เพราะฉะนั้นในแง่ของ Newton Motor Group ที่ดูแลแบรนด์มิตซูบิชิในทุกวันนี้ ส่วนตัวแล้วก็เชื่อว่าเราจะดูแลทั้งตัวลูกค้า ทั้งตัวแบรนด์ของเราตอนนี้ให้ดีที่สุดได้นะคะ
ทีนี้พอกลับมามองเรื่องของการลงทุน การเติบโต ผมเชื่อว่าพอเรามีคนที่ดีขึ้น เก่งขึ้น ยังไงโดยธรรมชาติ ธุรกิจมันต้องเติบโตอยู่แล้วครับ มันก็จะโตไปเรื่อยๆ เราแค่เตรียมเงินลงทุนไว้แล้วกัน พวกน้องๆ หรือคนของเรานี่แหละที่จะพาให้เราโตขึ้นไปเองนะครับ
•••••••