มิชลินตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านมอเตอร์สปอร์ต ในการแข่งขัน
ASIAN LE MANS SERIES ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
มิชลินต่อยอดความเป็นผู้นำด้านมอเตอร์สปอร์ตผ่านการสนับสนุนเอเชียน เลอม็อง ซีรีส์ การแข่งรถยนต์มาราธอนทางเรียบแห่งเอเชียที่ริเร่มขึ้นโดย Automobile Club de l'Ouest (ACO) ซึ่งการแข่งขัน เลอม็อง ซีรีส์ ถือได้ว่าเป็นเรซระดับอินเตอร์เนชั่นแนลที่นักแข่งจากทีมทุกทีมต้องดวลความเร็วท่ามกลางอุปสรรคต่างๆอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 4 ชั่วโมงเต็ม โดยการแข่งขันครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต รวมรถแข่งโปรโตไทป์ Ligier JS กับรถแข่ง GT ไว้ด้วยกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมากสำหรับการแข่งขัน เอเชียน เลอม็อง ซีรีส์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดทีมแข่งและนักแข่งจากประเทศในเอเชีย ทั้งจีน ญี่ปุ่น และจากทั่วโลกร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ความทรหดอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซีย โดยทีมที่มีคะแนนสะสมสูงสุดในแต่ละรุ่นจะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในรายการ 24 Hours of Le Mans ที่ประเทศฝรั่งเศส ดังนั้นรายการเอเชียน เลอม็อง ซีรีส์ จึงเสมือนเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาก่อนก้าวสู่เวทีระดับโลกที่ได้รับการยกย่องว่าทรหดอดทนทั้งคนทั้งรถที่มีชื่อเสียงที่สุด และเป็นความฝันของนักแข่งทุกคนที่จะเข้าร่วมในการแข่งขันเอเชียน เลอม็อง ซีรีส์ สำหรับประเทศไทยนั้น เอเชียน เลอม็อง ซีรีส์ เริ่มเข้ามาแข่งในประเทศไทยตั้งแต่ฤดูกาล 2015/2016 การแข่งขันแบ่งออกเป็นสามรุ่นคือ LMP2, LMP3 และ GT โดยใช้รูปแบบเดียวกับ FIA World Endurance Championship ซึ่งมิชลินเป็นผู้สนับสนุนยางอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขันรถยนต์มาราธอนทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้
แพทริค ดีแอส ผู้อำนวยการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ต ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ของมิชลิน กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันที่แสนทรหดนี้ มิชลินจัดเตรียมยางกว่า 500 เส้นที่ทนทานและเหมาะสมให้รถแข่งทุกคันทั้งแบบที่ใช้บนพื้นผิวแทร็คแห้งและเปียก โดยนอกจากผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ต้องรองรับแรงเสียดทานอย่างแสนสาหัสตลอดการแข่งขัน ทุกขั้นตอนจึงต้องผ่านการทำงานของมืออาชีพที่เชื่อถือได้ สำหรับมิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ เราให้การสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีการเก็บข้อมูลการใช้ยางในทุกสนามแข่งขันที่มีสภาวะแตกต่างกัน และนำมาศึกษา วิเคราะห์ เพื่อพัฒนาต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการสร้างสรรค์วัสดุจากเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการสัญจรอย่างยั่งยืน