มารู้จักกับ "ตลาดรถมือสอง"
“ตลาดรถมือสอง” เป็นที่รู้กันดีว่านี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้หลายๆ คนเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น ด้วยเงื่อนไขราคาสามารถเลือกได้ตามงบประมาณผู้ซื้อ และยังมีตัวเลือกของรุ่นรถที่หลากหลาย วันนี้ เราจะพาคุณมารู้จักกับตลาดรถมือสองให้มากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้เป้าหมายของการมีรถมือสองดีๆ สักคัน เป็นเรื่องง่าย!!
โดยครั้งนี้เราได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการถยนต์มือสองรายใหญ่ในย่านศรีนครินทร์ คุณโย ปัญญาตระกูลชัย (กี้) ผู้ที่จะมาทำให้เราได้รู้จักกับตลาดรถยนต์มือสองมากยิ่งขึ้น
มารู้จักกับ “คุณกี้ DDS ”
สวัสดีครับผม โย ปัญญาตระกูลชัย (กี้) อายุ 36 ปี จบจากคณะบริหารธุรกิจ สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสอง DDS CAR Center ครับ
ก่อนที่จะมาเป็น “DDS CAR Center”
จริงๆ แล้วผมเรียนบัญชีมาก็คิดว่าจะทำงานเกี่ยวกับด้านบัญชี เป็นผู้ตรวจบัญชี ซึ่งทางบ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับซื้อ-ขาย รถมือสองมาตั้งแต่สมัยอากงกับคุณแม่อยู่แล้ว พอเรียนจบก็มาเริ่มฝึกงานกับคุณแม่แถวสมุทรปราการ เริ่มจากงานเบื้องต้น คือการทำสะอาดรถ งานที่ทำก็จะมี ล้างรถ ล้างห้องเครื่อง ฟอกเบาะ ขัดสี ทำได้ไปประมาณสิบเดือน ทางบ้านจึงลองให้ขายดู ลองซื้อมาขายไป โดยเริ่มจาก 10-15 คัน และส่วนตัวเป็นผู้ชายก็จะชื่นชอบรถอยู่แล้ว พอเริ่มได้มาสัมผัสเกี่ยวกับด้านนี้ก็ชอบเลย ตอนทำร้านของตัวเอง ตอนแรกยังไม่ได้ตั้งชื่อร้าน แต่พอทำไปสักพักเกิดสนุกและชื่นชอบ ก็คิดว่าควรมีชื่อร้านดีกว่า เพื่อให้ลูกค้าจำได้ จึงใช้ชื่อว่า DDS มาจาก ดวงดี ศรีภูษิต ก็คือตลาดรถที่ผมอยู่ทุกวันนี้ โดยเลือกที่ถนนศรีนครินทร์เพราะก่อนหน้านี้ย่านยังไม่มีเต็นท์รถมือสองเยอะเท่าทุกวันนี้ บ้านผมก็ไม่ไกลจากที่นี่ ตอนแรกยังอยู่ในตลาดรวมก่อน มีพี่ๆ ผู้ประกอบการอยู่ประมาณ 7-8 ราย จนปัจจุบันก็มีย้ายออกหรือเลิกกิจการไปบ้าง แต่ DDS ก็ยังอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งตลาดศรีภูษิตยังคงเป็นของ DDS ที่เดียว และปีนี้เราได้ดำเนินธุรกิจรถมือสองเข้าสู่ปีที่ 14 แล้วครับ
มุมมองภาพลักษณ์ของตลาดรถยนต์มือสองจากอดีตถึงปัจจุบันว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
เมื่อก่อนผมมองว่าผู้ประกอบการยังไม่เยอะเท่าไหร่ สื่อออนไลน์ยังไม่มีผลมากขนาดนี้ ผู้บริโภคจะขับหาตามเต็นท์รถ หรือดูตามหนังสือรถ ปัจจุบันสื่อออนไลน์จะเข้ามาอยู่ในมือถือเราทั้งหมด นั่นเป็นผลดีสำหรับผู้บริโภค กลับกันก็จะทำให้เกิดการแข่งขันของผู้ประกอบการ ทั้งในเรื่องราคา คุณภาพ การรับประกันหลังการขาย จนปัจจุบันผู้ประกอบการก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องรักษามาตรฐานของตัวเองให้ดีอยู่อันดับต้นๆ ผู้บริโภคถึงจะตัดสินใจเลือกเรา
คิดเห็นอย่างไรกับเทรนด์การซื้อขายรถมือสองในปัจจุบัน และอนาคตคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด?
ผมมองว่ารถทุกเซ็กเม้นต์ขายได้หมด อยู่ที่คุณภาพของสินค้า ราคา นั่นคือปัจจัยแรก ถ้าสินค้าคุณภาพดี ราคาโอเค สินค้าก็ขายได้อยู่แล้ว สอง ผมมองว่าปัจจัยไม่ได้อยู่ที่รถเซ็กเม้นต์ไหนขายดีหรือไม่ดี ผมมองถึงกำลังซื้อของลูกค้าในรถเซ็นเม้นต์นั้นๆ เป็นยังไงในช่วงนั้น คิดว่าขึ้นอยู่กับผู้บริโภคมากกว่า ซึ่งผมมองว่าพฤติกรรมของผู้ซื้อรถจะยังไม่เปลี่ยนมากนัก แต่ว่าแนวโน้มตลาดรถมือสองยังคงที่ไปสักสามปี หลังจากนั้นสิ่งที่มีผลคือรถไฟฟ้าที่จะมาทั่วกรุงเทพฯ มากขึ้น การคมนาคมที่ง่ายขึ้นก็จะมีผลกระทบกับความจำเป็นในการใช้รถ ข้อที่สองคือเรื่องพลังงานทดแทน รถยนต์ไฟฟ้า สถานีบริการก็ยังไม่เพียงพอ ซึ่งยังไม่ใช่อนาคตอันใกล้ที่ผมมอง อาจจะสามปีหรือห้าปีหลังจากนี้ และการที่มีรถไฟฟ้าเข้ามาทั่วกรุงเทพฯ ลูกค้าบางคนอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องซื้อรถก็ได้ ขึ้นรถไฟฟ้าแทน ไม่เจอรถติดด้วย ค่าโดยสารก็ไม่ได้แพง จึงเกิดการชะลอการซื้อของผู้บริโภค ถ้าถามว่าทุกบ้านจำเป็นต้องมีรถไหม ก็จำเป็นสำหรับการเดินทางไปต่างจังหวัด ไปไหนมาไหนสะดวกกว่า แต่สำหรับรถคันที่ 2 หรือ 3 อาจจะลดน้อยลงครับ
อะไรคือจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการซื้อรถจากทาง DDS?
การทำธุรกิจเราจะยึดถือเรื่องการขายความจริงใจ มีความซื่อสัตย์ให้แก่ลูกค้า ทางร้านจะไม่ขายรถกรอไมล์ ไม่ขายรถชนหนัก น้ำท่วม หรือตัดต่อมาก่อน DDS จะเน้นย้ำรถที่นำเข้ามาขายว่าเป็นรถไมล์แท้ อันดับแรกประเมินสภาพรถโดยรวมเป็นอย่างไร โดยตัดสินจากประสบการณ์ ว่าเลขไมล์กับสภาพรถทั้งภายนอกและภายในเหมาะสมกันหรือเปล่า อันดับสองดูเอกสารว่ารถคันนี้เคย Service หรือไม่ อ้างอิงจาก Book Service หรือถ้ารถหลายปีมากๆ ไม่มี Book Service ก็จะขอดูใบเสร็จที่รถเคย Service จากอู่แถวบ้าน หรือศูนย์บริการมาตรฐานต่างๆ แล้วก่อนที่จะซื้อทุกคันก็จะตรวจเช็คกับศูนย์บริการแต่ละยี่ห้อว่าเลขไมล์ของรถแต่ละคันถูกต้องไหม หรือมีการปรับเปลี่ยนมาก่อนหรือเปล่า จนทำให้เรามีวันนี้ เพราะว่าเราซื่อสัตย์กับตัวเอง และซื่อสัตย์กับลูกค้าด้วยครับ
“ย้อมแมว” คุณรู้สึกยังไง หรือมีแนวคิดยังไงเกี่ยวกับคำนี้
โดยส่วนตัวผมไม่ชอบคำว่า “ย้อมแมว” อยู่แล้ว เพราะผมมองว่าทุกวงการมันมีคนที่ประกอบอาชีพอย่างตรงไปตรงมา กับคนที่ย้อมแมวขาย ซึ่งสำหรับวงการรถมือสองก็จะมีคำพูดนี้ติดปากมาเสมอ ผู้บริโภคก็จะติดภาพลักษณ์ว่าเต็นท์รถต้องย้อมแมว ซึ่งอันที่จริงแล้วผู้ประกอบการดีๆ ก็มี ทั้งซื่อสัตย์ จริงใจ สำหรับผู้ที่ย้อมแมวก็อยากให้มีมาตรการจัดการเหมือนกัน เพื่อให้มาตรฐานของวงการรถยนต์มือสองดีขึ้น ผู้บริโภคก็เชื่อมั่นมากขึ้น
ถ้าต้องการเปลี่ยนรถสักคัน จะขายรถอย่างไรให้ได้ราคาดี?
เราต้องพิจารณาจากพื้นฐานที่ว่ารถคุณผ่านการใช้งานมายังไงบ้าง รถคุณเคยเกิดอุบัติเหตุชนหนักมาไหม วิ่งมามากน้อยเพียงใด ดูแลสภาพรถเป็นยังไง 3 สิ่งนี้คือปัจจัยหลัก สิ่งที่จะทำให้มันดีที่สุดได้ สำหรับเจ้าของรถที่จะมาขาย หนึ่งคือเอกสาร สำเนารถยนต์ หรือเล่มทะเบียนรถยนต์ต้องพร้อม ถ้าคุณมีประวัติการดูแลรถคันนั้น จะ Book service ก็ตาม หรือใบเสร็จในการซ่อมบำรุง กุญแจสำรองต้องเตรียมพร้อม หรือถ้ารถสกปรกมากๆ ก็ล้างสี ดูดฝุ่น ให้สะอาดเรียบร้อย หลังจากนั้นก็มาดูสภาพรถว่าเคยชนไหม น้ำท่วมไหม เลขไมล์วิ่งมามากแค่ไหน ดูแลรถมาดีมากน้อยแค่ไหน
อยากจะฝากอะไรถึงผู้ที่ต้องการมองหาทางเลือกในการซื้อรถมือสองแต่ยังไม่มั่นใจ
ผมอยากจะบอกว่า ผู้ประกอบการรถมือสองที่ดีก็มี ไม่ใช่ว่าจะย้อมแมวขายทุกที่ ก็ขอให้เลือกผู้ประกอบการที่ไว้ใจได้ มีการรับประกันหลังการขายที่ดี มีการรับประกันว่าไม่มีการชนหนัก น้ำท่วม รับประกันเลขไมล์แท้ คุณเป็นผู้ซื้อรถ คุณสามารถให้ผู้ขายระบุลงในสัญญาซื้อขายได้ ถ้าที่ไหนยินดีระบุให้คุณ ก็มั่นใจได้ว่า เขามั่นใจในสินค้าพอสมควร จึงอยากให้มองว่าผู้ประกอบการรถมือสองดีๆ ก็มี ไม่ใช่เป็นภาพลบอย่างเดียวครับ