ขอบคุณครับ คุณสงคราม 

 ไม่รู้นะสำหรับคันอื่น  ส่วนผมตั้งแต่ปี 52 ซื้อมือสองทั้งหมด 6 คัน มีคันแรกคันเดียวที่แย่  ....

  ส่วนคันหลัง ๆ ก่อนซื้อก็ถามเขาว่าซ่อมที่ไหน  เขาพร้อมให้เราดูประวัติหรือไม่?  ผมได้ประวัติทุกคัน..เขาไปขอประวัติพร้อมกับเรา  ปรินท์  ออกมาให้เห็นจะ ๆ   นำมานั่งดูรายละเอียด  สงสัยตรงไหนถามเจ้าของ

  สำหรับผมเวลาซ่อมรายการที่เขาให้กลับบ้านผมก็ทิ้งเหมือนกันครับ  แต่ในคอมฯอู่เขาเก็บไว้....

 ขอบคุณทั้งสองท่านครับ สำหรับคำแนะนำดีๆ 

พูดกันตรงๆนะครับ น้าสงคราม ผมเองก็ใช้รถดูแลรถ ส่วนมากเปลี่ยนก่อนเสีย มีบ้างที่เสียแล้วเปลี่ยน

แต่ผมไม่เคยเก็บประวัติซ่อมไว้เลย แค่ จำได้คร่าวๆ ว่า เปลี่ยนแบตฯปีไหน ลูกปืนล้อ ผ้าดิส กี่ปี

การดูประการแรกแบบที่น้าสงครามบอก คือ คนที่ละเอียดใส่ใจมากๆ (พี่ชายผมเป๊ะแบบนี้เลย)

ดังนั้นมีแนวโน้มสูงมากที่ รถมีประวัติการซ่อม จะเป็นรถที่สภาพดี แม้จะมีการชนมาก่อน

แต่ 100 คัน จะมีแบบนี้ ส่วนตัวเดาว่า ไม่เกิน 10 คัน คัดกรองได้ดี แต่ก็วิ่งหารถกันหอบแน่ๆ

ตอบ จขกท ครับ

เรื่องรถขโมย เช็คง่ายที่สุด โอนรถที่ขนส่ง โอนได้ จ่ายตังค์ ตรงนั้นเลยครับ

เรื่องชน เป็น ศิลปะ ขั้นสูงมาก รถมีแชซซีจะดูง่ายกว่ารถไม่มีแชซซี(เก๋งส่วนมากไม่มี) ประกอบกับ ตาต้องสังเกตุละเอียด ถึงซอกมุมอับที่ไม่มีใครดู และต้องเคยเห็นรถรุ่นเดียวกันเปรียบเทียบ สภาพ ชนแล้วซ่อม /ยังไม่เคยชน/หรือชนแล้วซ่อมเนียน

 .....สำหรับผมคิดว่าซื้อง่ายกว่ารถป้ายแดงอีกนะ....

     การดูรถบ้านมือสองที่สำคัญพอ ๆ กับดูตัวรถ  ผมเลือกดูประวัติการซ่อม  ถามซ่อมที่ไหนบ้าง  ให้เขาปริ้นท์ประวัติการดูแลรักษามา  ถ้าได้สิ่งนี้มานี่พิจารณาประกอบการดูรถง่ายมาก  ถ้าไม่ได้ส่วนนี้  ไม่ต้องสนใจรถคันนั้นเลย

     การพิจารณา  ให้ดูการบำรุงรักษาตามรอบเวลา  การเคลมอะไหล่  หากมีการเคลมบ่อย หลาย ๆจุด  ถอยออกมาเลย  เป็นรถมีปัญหาแน่ ๆ..

      จริง ๆ แล้วผมยังไม่เคยบอกใครเลยว่าผมดูส่วนนี้ด้วย  เนื่องจากรถที่ผมซื้อ (ซาบ)  ต้องละเอียดพอควร ( เพราะโดนคันแรกซื้อเต๊นท์ แสนห้า  ซ่อมแสนห้า  เข็ด..)

      ส่วนที่สองดูทะเบียน เลขเครื่อง ตัวถัง(ปกติหากได้ชุดข้างบน  ส่วนนี้ไม่ผิดพลาดแน่นอน

      ส่วนสุดท้ายก็ดูที่ตัวรถ  ซื่งผมเคยบอกวิธีดูหลายครั้งแล้ว...