ที่ทราบมาน่ะครับ  กรณีที่ผู้ขายต้องการขายรถให้กับอีกฝ่ายหนึ่งนั้น  ควรจะดำเนินการดังนี่้  1. ถ้ากรณีที่รถไม่ได้ติดไฟแนนซ์ (คือว่าเล่มอยู่ที่เรา) ก็ทำสัญญาซื้อขายกับผู้ซื้อโดยผู้ซื้อต้องไปติดต่อไฟแนนซ์ใดก็ได้ที่ตัวเองชอบ หรือคิดว่าดอกเบี้ยถูก โดยต้องไปแจ้งไฟแนนซ์ตามสัญญาซื้อขาย และสำเนาเล่มทะเบียน ในกรณีจะมีเงินดาวน์ หรือไม่ก็สุดแล้วแต่ ผู้ขายกับผู้ซื้อ เช่น ราคารถที่เราขายนั้นสูงกว่าราคาประเมิน ของราคารถ  ผู้ซื้ออาจจะมีฐานเงินเดือนหรือประวัติไม่ดี ก็อาจจะต้องมีเงินดาวน์ เล่มทะเบียนที่เป็นคู่มือจดทะเบียนนั้น จะให้ได้ต้องยื่นหมูยื่นแมว คือหมายความว่า ผู้ขายต้องได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องการขายแล้วเท่านั้น พร้อมกับ หนังสือมอบอำนาจ และคำขอจดทะเบียนกับกรมการขนส่ง หรือที่เรียกว่าชุดโอนลอยเท่านั้น   ประมาณว่าหมดภาระ จากเราแล้ว เพราะได้เงินสมอารมย์หมาย (อย่าให้เล่มไปโดยไม่ได้เงินโดยเด็ดขาด) 

2. กรณีไม่มีเล่ม ประมาณว่าอยู่ที่ไฟแนนซ์  ให้ผู้ซื้อ เช็คคุณสมบัติ กับไฟแนนซ์  ว่าจะผ่านหรือไม่ และอีกกรณีที่เราเสียดายเงินที่ ส่งไปก็อาจจะมีขอเงินดาวน์คืนสักนิดหน่อย คือขายดาวน์ และทำการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อใหม่กับทางไฟแนนซ์ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 3,500- 4,000 บาท อันนี้ก็ต้องตกลงกันระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อว่าใครจะจ่าย  แต่ละไฟแนนซ์จะไม่เท่ากัน แบบนี้จะเป็นการซื้อขายที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจะไม่มีเรื่องปวดหัวที่หลังกรณีที่ผู้ซื้อใหม่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อ เช่น ส่งๆๆ ไปขาดส่ง ถ้าเปลี่ยนสัญญาไปแล้วก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเราแล้วทั้งสิ้น แต้ถ้าไม่เปลี่ยนสัญญา ก็งานเข้าเราแน่ๆ คราบ