รถกระบะ 1 ตันทุกคัน ที่ทนทานในการใช้งานเป็นของสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปมากครับ แต่เดิมเกียร์อัตโนมัติสู้เกียรฺธรรมดาไม่ได้เลย ทั้งอัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง และความทนทานตามที่คุณดำอธิบายไว้

ยุคหลังๆ กลับหน้ามือเป็นหลังมือ เกียร์อัตโนมัติให้ทั้งอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่าเกียร์ธรรมดา เพราะบางรุ่น โดยเฉพาะดีเซลจะเห็นได้ชัด รุ่นเกียร์อัตโนมัติให้แรงบิดมากกว่าและมาที่รอบต่ำกว่ารุ่นเกียร์ธรรมดา การปรับปรุงระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ให้สูญเสียการส่งกำลังน้อยลง ทำให้อัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่า ขณะที่ความทนทานใกล้เคียงกันครับ

ยุคก่อนคอมมอนเรล แรงบิดรถกระบะอยู่แถวๆ 180-245 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติก็มีแค่ 4 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ราว 17-เกือบ 30 วินาที ความเร็วปลายไม่ถึง 160 กม./ชม. ที่ 4,000 รอบปลายๆ

พอถึงยุคกระบะคอมมอนเรลที่ขายในไทย แรงบิดเริ่มที่ 280 นิวตัน-เมตร สูงสุดไปถึง 500 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติก็เริ่มตั้งแต่ 5 จังหวะ ไปจนถึง 10 จังหวะ มีโหมดเกียร์ธรรมดาด้วย (เพิ่มขึ้นราว 2 เท่าทุกอย่าง) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 10-13 วินาทีเศษ ความเร็วปลายร่วม 200 กม./ชม. ในรอบไม่ถึง 4,000 รตน. รถเก๋งมีหนาวครับ

 บรรทุกได้ครับ แต่ไม่เหมาะครับ เวลาออกตัวมันไม่ดีเลยสำหรับรถกระบะออโต มันไม่ได้ออกตัวได้รวดเร็วเหมือนวีออส หรือซิตี้ นะครับ เพราะลำพังรถุกระบะน้ำหนักตัวก็มากแล้ว ออกตัวรถเปล่า ๆ ยังอืดไม่เหมือนเกียร์ธรรมดา ถ้าใช้บรรทุกไม่ทนทานเหมือนเกีย์ธรรมดาอย่างแน่นอน