มินิ 1.4 ดีเซล คอมมอนเรล ใช้เครื่องของ ....

การที่จะตอบปัญหานี้ให้เข้าใจได้ง่าย จำเป้นที่จะต้องยกตัวอย่างกับรถ BMW 320d ซึ่งส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าเหมาะกับการทำความเข้าใจในคำถามนี้ที่สุด เป้าหมายของ BMW ที่ผลิต 320d ออกมาก็เพื่อเอามาเสริมสายการผลิตของ Series 3 ที่ใช้เครื่องเบนซินเป็นหลัก แค่ปัจจัยสำคัญของ Series 3 คือจะต้องเป็นรถสปอรต์ มีความคล่องตัวสูง เป้าหมายคือวัยรุ่นที่ประสพความสำเร็จทางด้านการงานแล้วมีเงิรเหลือที่จะซื้อรถประสิทธิภาพสูง ในขณะที่ในยูโรป กฏหมายด้านมลพิษเข้มงวดมากขึ้นโดยจะเห็นได้จากมาตราฐาน Euro 5 ที่พึ่งนำเอามาใช้อยู่เมื่อไม่นานมานี้ เครื่องดีเซลในยุคปัจจุบันเป็นเครื่องยนต์ที่ประสิทธิภาพสูง แรงม้าสูง แรงบิดสูง การกินน้ำมันอยู่ในอัตราที่ต่ำ ในขณะที่เมื่อติดตั้งอุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าไป มลพิษจะลดลงต่ำมาก 320 d จึงถูกเลือกให้มาติดตั้งในรถ Series 3 ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผลการทดสอบโดยนักหนังสือพิมพ์ด้านรถยนต์ซึ่งทาง BMW Thailand ได้จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ได้จัดให้มีการทดสอบระหว่าง BMW 320i กับ BMW 320d ซึ่งผลที่ออกมา BMW 320d ชนะในทุกๆด้านโดยเฉพาะการกิน้นำมันที่กินแค่ 16-17 กม/ลิตรเท่านั้น 

กะบะบ้านเรา ผู้ผลิตมีเป้าหมายที่จะให้แรงบิดสูงเพื่อใช้ลากจูบน้ำหนักที่รถกะบะจะต้องบรรทุกเพื่อเชิงพาณิชย์ ดังนั้น อัตราทดของเกียร์และเฟืองท้ายจึงเน้นไปที่ประสิทธิภาพในการลากจูงเป็นหลัก ไม่ได้เน้นที่ความเร็วและแรงม้าจะต้องสูงเพราะรถเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกเท่านั้น ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้เป็นรถสปอรต์ครับ    

ผมขอตอบแบบ ชาวบ้าน ๆ ที่เข้าใจ แบบส่วนตัว 

ผมว่า เป็นเพราะ น้ำหนัก รถ เป็นส่วนหนึ่ง นะครับ

อีกอย่าง น่าจะเป็น พวก อัตราทดเกียร์ และ เฟืองท้าย

ผิดถูกไง เดี๋ยวรอ ท่านอื่นที่มีความรู้ ดีกว่าครับ