ปกติเปลี่ยนที่ 100,000 กม. ถ้าใช้ต่างจังหวัด เพราะ 10 กม. ใช้เวลาวิ่งแค่ประมาณ 10 นาที แต่รถที่ใช้ในกรุงเทพฯหรือในที่ๆจราจรติดขัดมากๆควรเปลี่ยนที่ 7-80,000 กม. เพราะ 10 กม.ใช้เวลาติดไฟแดงกว่าจะถึงบางทีร่วม3-4ชั่วโมง กม.ไม่ถึงแต่ระยะเวลาการติดเครื่องยนต์ตอนติดไฟแดงรวมๆแล้วน่าจะมากโขครับ. *** ผมเคยทีนึง แค่ 80,000 กม.วิ่งขึ้นเนินได้ยินสายพานเครื่องดีดตัวดัง ผึงๆ ดีนะที่สายพานไม่ขาด เลยรีบไปเปลี่ยนเลยนะครับ *** มีบางยี่ห้อนะครับออกแบบไม่ดีสายพานดีดใส่ตัวเครื่องตลอด บางที 80,000 กม. สายพานขาดเลยก็มีครับ.

ถ้าสายพานเครื่องแนะนำว่า 100000 เริ่มคิดว่าน่าจะเปลี่ยนได้แล้ว ถ้าลืมจริงๆ ก็ไม่ให้เกิน 150000ครับรับประกันถ้าเลยจากนี้มีสิตรเสียสตางค์แน่ครับ ผมว่าการที่จะดูสายพานเครื่องที่อยู่ในฝาครอบหน้าเครื่องสำหรับรถบางรุ่นถ้าเป็นคนธรรมดาหรือชาวบ้านจะดูเองอาจจะดูได้ยากหน่อยถ้าจะเข้าอู่เพื่อที่จะเปิดดูสายพานก็ใช้เรื่องเสียเงิน 100-200 สู้พอครบกำหนดก็ให้อู่เปลี่ยนให้เลยดีกว่าครับ ส่วนถ้าเป็นสายพานไดร์ชาตร์ คอมแอร์ ปั๊มน้ำที่อยู๋หน้าเครื่องก็ดูจากการแตกลายของสายพานครับ เท่าที่มีประสบการณ์ส่วนใหญ่พอเกิน 50000 ก็ออกลายแล้วครับ ส่วนผลของการที่สายพานเครื่องขาด อย่างแรกเลย เครื่องคุณจะหยุดทำงานทันที่ ไม่มีทางที่จะสตาร์ดติดได้เลย ผมตามมาคือจะต้องเปลี่ยนอะไหล่ที่ต้องเสียเงินมากกว่าค่าเปลี่ยนสายพานหลายเท่า

ต้องหมั่นตรวจสอบความตึงของสายพานโดยในช่วงเครื่องเย็น สายพานจะต้องมีระยะฟรีอยู่ประมาหนึ่งนิ้ว โดยกดที่ด้านหลังของสายพานมันจะยุบตัวลงไปประมาณหนึ่งนิ้วถือว่าความตึงใช้ได้ครับ สายพานหมดอายุจะเริ่มส่งเสียงเตือนพร้อมหย่อนตามที่กล่าวมาข้างต้น ดูตัวสายพานด้วยว่ามีรอยแตกหรือไม่ ถ้ามีรอยแนะนำให้เปลี่ยนครับ ถ้าสายพานดัง ห้ามไม่ให้เอาน้ำยาอเนกประสงค์ไปฉีดที่สายพานเพราะจะทำให้สายพานเสียหายหนักขึ้นครับ เสียหายอย่างไรถ้าลืมเปลี่ยน คือถ้าคุณวิ่งไปทางไกล สายพานขาดก็เสียเวลาตามช่างและต้องกินข้าวลิงข้างทางครับ